ตำรวจบางซื่อรวบเฒ่าวัย 71 อดีตข้าราชการบำนาญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาห้องเช่าซอยประดิพัทธ์ 17 หลังใช้ปืนกระหน่ำยิงคนขับรถตู้รับจ้างดับ สารภาพแอบคบหากับแฟนสาวผู้ตายมานานกว่า 1 ปี ซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาทให้ใส่ แต่ผัวเอาไปจำนำไม่ยอมไปไถ่คืน ต้องหาเงินไปไถ่ออกมาเอง ประกอบกับเห็นผู้ตายดูแลแฟนไม่ดี จึงใช้ปืนยิงเพราะความแค้น

ตำรวจรวบผู้เฒ่าใช้ปืนยิงคนขับรถตู้รับจ้างดับสยอง หลังแอบตีท้ายครัว อ้างผู้ตายไม่ดูแลครอบครัว เปิดเผยขึ้นที่ สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ และฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ ร่วมแถลงข่าวกรณีมีคนร้ายใช้ปืนกระหน่ำยิงนายสุพจน์ แม้นรำ อายุ 30 ปี คนขับรถตู้รับจ้างเสียชีวิต ภายในซอยประดิพัทธ์ 21 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เหตุเกิดคืนวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา จับกุมนายสงคราม รัตนาคม อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 7 ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1392/2560 ลงวันที่ 14 มิ.ย.60 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลาง อาวุธปืนบาเร็ตต้า ขนาด 0.40 มม. จับกุมได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 50 ซอยประดิพัทธ์ 17 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

พล.ต.ท.ศานิตย์เผยว่า จากการสอบสวนนายสงครามให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ใช้ปืนยิงนายสุพจน์เกิดจากเรื่องชู้สาว ผู้ต้องหารู้จักกับแฟนสาวผู้ตายได้ประมาณปีกว่า ที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านสะพายควาย ถึงขั้นแอบคบหากันนายสงครามซื้อของมีค่าให้ ก่อนเกิดเหตุนายสงครามทราบว่า ผู้ตายได้เอาสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท ที่นายสงครามซื้อให้แฟนผู้ตายไปจำนำและไม่ไปไถ่ออกมา ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจต้องไปไถ่สร้อยคอทองคำออกมาเอง ประกอบกับช่วงหลังผู้ตายดูแลแฟนสาวไม่ดี วันเกิดเหตุผู้ต้องหาถือปืนมาหาผู้ตายขณะนอนพักอยู่ในรถตู้และยิงใส่ทันทีโดยไม่พูดอะไร ก่อนหลบหนีไป

...

ขณะที่นายสงครามให้การว่า หลังก่อเหตุได้หลบหนีนั่งรถประจำทาง สาย 63 ไปลงย่านงามวงศ์วาน แต่ภายหลังกลับใจนั่งรถกลับมาที่ห้องเช่า ซอยประดิพัทธ์ 17 และถูกตำรวจจับกุม สาเหตุที่ลงมือฆ่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เกิดจากความไม่พอใจผู้ตายซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของหญิงสาวที่ตนรู้จัก ผู้ตายไม่ดูแลครอบครัวและไม่มีความรับผิดชอบขณะที่ตนช่วยเหลือทุกอย่าง

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยทำงานเป็นลูกจ้างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษียณราชการมานานแล้ว อีกทั้งผู้ต้องหาชอบสะสมปืน ปืนที่ใช้ก่อเหตุซื้อมา 2 ปีแล้วจากโรงรับจำนำ หลังเกษียณไม่ได้ทำงานอะไรจนมาก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว ภายหลังการแถลงข่าวตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ มีประชาชนและญาติผู้ตายมายืนดูเป็นจำนวนมาก ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ใช้เวลาทำแผนไม่ถึง 5 นาที ก่อนนำตัวผู้ต้องหากลับ สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.พิเชฏฐ์ ชาตะโชติ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ ไปตรวจสอบเหตุยิงกันตายหน้าบ้านเลขที่ 23 ซอยประดิพัทธ์ 21 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. พบศพนายสุพจน์ แม้นรำ อายุ 30 ปี อาชีพขับรถตู้รับจ้างทั่วไป ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ศีรษะ 2 นัด และชายโครงซ้าย 1 นัด เสียชีวิตที่เบาะนั่งหลังคนขับฝั่งซ้าย ภายในรถตู้โตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์ สีเทา ทะเบียน ฮท 1902 กรุงเทพมหานคร นำศพส่งสถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ ชันสูตร จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายเป็นผู้ชายมีอายุมากแล้ว ชาวบ้านเรียกชื่อ “ตาลุง” ชอบมานั่งดื่มสุราบริเวณที่เกิดเหตุเป็นประจำ เนื่องจากมาติดพันภรรยาผู้ตาย คาดสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว