ชาวบ้านนับพันแห่ร่วมงานฌาปนกิจศพ “สามเณรปลื้ม” แน่นวัด แม่เผยขณะนอนเฝ้าศพ ลูกชายมาปรากฏตัวให้เห็นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนอยากจะบอกเรื่องที่ตำรวจยังจับกุมกลุ่มคนร้ายได้ไม่ครบ หลังเผาศพลูกจะเดินหน้าลุยจี้คดี เชื่อมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกจำนวนหนึ่งยังลอยนวล ขอให้ทั้งหมดได้รับโทษประหารสถานเดียว ไม่เชื่อปมสังหารที่ผู้ต้องหาอ้างแค้นโดนขโมยทรัพย์สินเพราะลูกชายไม่มีนิสัยแบบนั้น เจ้าคณะจังหวัดยกย่องสามเณรปลื้มเป็นวีรบุรุษ ตายอย่างมีคุณค่าจุดชนวนให้เกิดการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในวัดวังตะวันตกและวัดทั่วประเทศอย่างจริงจัง เห็นควรสร้างอนุสาวรีย์เป็นอนุสรณ์เตือนสติวงการสงฆ์
จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญนายศุภโชค เอกเกียรติคุณ หรือสามเณรปลื้ม อายุ 17 ปี ถูกฆ่าโบกปูนฝังดินใต้ฐานพระพุทธรูปภายในวัดวังตะวันตก ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน คือนายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่น อายุ 36 ปี นายสุริยา หรือสามเณรสุริยา อายุ 18 ปี น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือเจ๊บิว อายุ 40 ปี ภรรยาของนายเด่นชัย และนายนที หรือเบนซ์ ศรีดอน อายุ 24 ปี เหลืออีกคนที่ร่วมก่อเหตุคือนายคิง อดีตสามเณรวัย 17 ปี ที่ยังหลบหนี
ที่วัดวังไทร ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ได้มีพิธีฌาปนกิจศพสามเณรปลื้ม โดยตั้งเมรุลอยกลางลานวัดขึ้นมาเป็นการเฉพาะ มีพระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ก่อนพิธีจะเริ่มบรรยากาศภายในวัดคลาคล่ำไปด้วยประชาชนจำนวนมากนับพันคนทั้งในพื้นที่ อ.ลานสกา และต่างอำเภอ ทยอยเดินทางมาร่วมงานด้วยความโศกเศร้า โดยมีนางกัญญา มินกระโทก อายุ 40 ปี แม่ของสามเณรปลื้ม พร้อมญาติๆ คอยต้อนรับ

...
นางกัญญาเผยว่า นอนเฝ้าศพสามเณรปลื้มที่ศาลาวัดวังไทรทุกคืน คืนแรกสามเณรปลื้มมาปรากฏตัวให้เห็นในสภาพแต่งกายนุ่งห่มสบงจีวรครบ แต่ไม่ยอมพูดจา จนเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นคืนสุดท้ายของการสวดพระอภิธรรมศพ สามเณรปลื้มก็มาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ครั้งนี้นุ่งสบงผืนเดียวใบหน้าเศร้าสร้อยเหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้ยินเสียง ก่อนที่ร่างจะค่อยๆหายไป อาจเป็นเรื่องที่ตำรวจยังจับกุมคนร้ายได้ไม่ครบ หลังจากเผาศพแล้วจะติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างจริงจัง แม้ว่าตำรวจจะจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 4 คนแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีผู้ร่วมกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง อยากเรียกร้องให้เร่งติดตามจับกุมให้หมดและขอให้รับโทษประหารชีวิตสถานเดียว
แม่ของสามเณรปลื้มกล่าวอีกว่า ปมสังหารที่ผู้ต้องหาอ้างว่าสามเณรปลื้มขโมยเงินสด ไอโฟน และสร้อยคอทองคำนั้น ตนไม่เชื่อเด็ดขาดเพราะลูกชายไม่เคยมีนิสัยขี้ลักขี้ขโมยมาก่อน เพียงแค่จะขอเงินซื้ออะไรแล้วตนให้ไปหยิบเองในกระเป๋าลูกชายยังไม่กล้าหยิบเอง ต้องให้ตนหยิบให้ทุกครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อเหตุขโมยทรัพย์สินคนอื่น หากสามเณรปลื้มขโมยจริงจะกลับวัดไปให้เขารุมฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทำไม สู้หนีออกจากวัดไปไม่ดีกว่าหรือ พฤติกรรมแก๊งมาเฟียของ น.ส.ปิยฉัตร หรือบิว โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ อยากให้ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียด เพราะเท่าที่ทราบเคยก่อเหตุทำร้ายพระภิกษุสามเณรหลายครั้ง แม้แต่วันที่รุมทำร้ายสามเณรปลื้มก็มีพระภิกษุสามเณรและฆราวาสอยู่ในเหตุการณ์หลายคน แต่ไม่มีใครเข้าช่วยเหลือหรือเล่าเหตุการณ์ให้คนนอกฟัง จนวิญญาณของสามเณรปลื้มไปเข้าสิงร่างตามหลอกหลอนพระภิกษุรูปหนึ่งที่ตำรวจกันไว้เป็นพยานจนต้องรีบไปเล่ารายละเอียดให้ตำรวจจนเรื่องแดงขึ้นมา
ด้านพระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เทศนาให้ญาติโยมที่มาร่วมพิธีฌาปนกิจศพเรื่องการเสียชีวิตของสามเณรปลื้มถือเป็นการตายที่มีคุณค่า มีสาระ สมควรยกย่องเป็น “วีรบุรุษ” เพราะทำให้เกิดการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในวัดวังตะวันตกและวัดทั่วประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น และหน่วยงานรัฐจะต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลการบริหารวัดอย่างต่อเนื่อง กรณีสามเณรปลื้มจึงเป็นการมรณภาพที่มีคุณค่าอย่างมากในวงการภิกษุสามเณรและประชาชน จะปรึกษากันว่าควรสร้างอนุสาวรีย์สามเณรปลื้มเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนสติในวงการสงฆ์ และประชาชนทั่วไป เพราะในสังคมแม้แต่สัตว์ตายก็ยังสร้างอนุสาวรีย์หลายราย ดังนั้น กรณีของสามเณรปลื้มก็เห็นว่าเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะสร้างอนุสาวรีย์เช่นกัน