นายดาบ ตม.กร่างทำร้าย ร.ต.ต.หัวหน้าตู้ยามเตาถ่าน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บ หลังเมาขับรถไปหาอดีตแฟนแต่ไม่เจอ กลับมาอีกรอบเมาแป๋ทุบทำลายข้าวของ ฝ่ายหญิงโทร.แจ้งตำรวจระงับเหตุกลับบอกเป็นตำรวจอาสาไม่มีสิทธิ์มายุ่ง พร้อมกระหน่ำเตะต่อยจับหัวโขกพื้นจนสลบแล้วชิงปืน 9 มม.ขับรถเผ่นหนี ต่อมาเข้ามอบตัวพร้อมปืนที่ฉกไป ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก ขณะที่ ผบช.สตม.เผยสั่งตั้งกรรมการสอบหากผิดจะสั่งให้ออกจากราชการ แต่เท่าที่เห็นภาพสามารถพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้แล้ว

นายดาบ ตม.กร่างทำร้าย ร.ต.ต.ขณะเข้ามาระงับเหตุรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 25 มี.ค. พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกรียงไกร มีแสง รอง ผกก. สส. พ.ต.ท.อภิชาติ นามจันโท สว.สส. พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สว. (สอบสวน) นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจรวม 10 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบระงับเหตุชายทำร้ายตำรวจได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านเลขที่ 105/51 ชุมชนวัดเขาคันธมาทน์ หมู่9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณกระจกประตูหน้าบ้านแตก กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้เหนือประตูถูกทำลาย บนพื้นลานจอดรถหน้าบ้านพบร่องรอยการต่อสู้ มีโทรศัพท์มือถือและเศษสร้อยทองรูปพรรณขาดตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกทำร้ายร่างกาย 1 นาย ทราบชื่อ ร.ต.ต.พาสกร พาชูระเบียบนา หัวหน้าตู้ยามเตาถ่าน สภ.สัตหีบ ถูกชกต่อยหน้าเขียวช้ำ หัวแตกมีอาการเลือดคั่งในสมองและฟันหน้าบนหักหนึ่งซี่ นอกจากนี้ ปืน 9 มม. ประจำกายถูกผู้ก่อเหตุนำไปด้วย เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ภายในบ้านพบ น.ส.อนงค์ลักษณ์ ภูรับ อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านอยู่ในอาการตกใจ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ ด.ต.กิตติศักดิ์ หรือบอย เดชชู อายุ 37 ปี สังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ช่วยราชการงานสืบสวน ตม.3 เป็นอดีตแฟนเจ้าของบ้าน หลังก่อเหตุขับรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 8 กพ 3987 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไปพร้อมหญิงสาวคนสนิท

...

สอบถาม น.ส.อนงค์ลักษณ์ ภูรับ เจ้าของบ้านทราบว่า ดาบบอยผู้ก่อเหตุเป็นแฟนเก่าเลิกรากันเกือบ 1 ปี ก่อนเกิดเหตุในช่วง 11.30 น. วันที่ 24 มี.ค.ดาบบอยขับรถมาหาที่บ้านแต่ตนไปทำงาน กระทั่งช่วงตี 2 วันที่ 25 มี.ค. ดาบบอยขับรถมาที่บ้านอีกครั้งพร้อมมีหญิงสาว 1 คน นั่งมาในรถด้วย ขณะนั้น ตนอยู่ในบ้านเห็นดาบบอยเมาสุราพูดโวยวายพยายาม จะเข้าบ้าน แต่ประตูล็อกจึงทุบกระจกแตก ตนเข้าไปหลบอยู่ในห้อง และโทร.แจ้งตำรวจให้มาช่วย ไม่นานตำรวจหัวหน้าตู้ยามได้ขี่รถ จยย.มาจอดหน้าบ้านเพื่อมาช่วยเหลือก่อนมีปากเสียงกับดาบบอยบอกว่า ตำรวจที่มาระงับเหตุเป็นเพียงตำรวจอาสาไม่มีสิทธิ์มายุ่ง จากนั้นดาบบอยทำลายกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน ตำรวจสายตรวจเข้าห้ามกลับถูกเตะต่อย จับหัวโขกพื้นจนหมดสติ หลังก่อเหตุดาบบอยขับรถหลบหนีไป

ต่อมาเวลา 06.00 น. ด.ต.กิตติศักดิ์ หรือดาบบอย เดชชู ผู้ก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สว. (สอบสวน) สภ.สัตหีบ พร้อมปืน 9 มม.ของ ร.ต.ต.พาสกรที่ชิงไปนำมาส่งคืน ไม่พูดถึงชนวนเหตุที่ลงมือทำร้ายตำรวจด้วยกัน ดำเนินคดี 4 ข้อหา ประกอบด้วย บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และชิงทรัพย์ ดาบบอยยอมรับ 3 ข้อกล่าวหา ปฏิเสธข้อหาชิงทรัพย์ ต่อมาเวลา 12.00 น. ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว ล่าสุดศาลให้ประกันตัวไป วางเงินประกัน 1 แสนบาท

ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ เดินทางเข้าเยี่ยมดูอาการ ร.ต.ต.พาสกร พาชูระเบียบนา นอนพักรักษาตัวที่หอผู้ป่วยชาย 2 รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ พร้อมมอบกระเช้าผลไม้และเครื่องดื่มบำรุงกำลังเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ด้าน ร.ต.ต.พาสกรกล่าวรู้สึกปลาบปลื้มใจและขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นที่ให้ความห่วงใย สำหรับอาการบาดเจ็บแพทย์ยังให้นอนรอดูอาการงดน้ำและอาหาร ยังมีเลือดคั่งในสมองเล็กน้อย ปวดหัว สามารถพูดคุยและจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. เปิดเผยว่า รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและลงพื้นที่ประสานงานกับตำรวจ สภ.สัตหีบ หากมีข้อเท็จจริงว่าทำร้ายร่างกายตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้เสียหายและชิงทรัพย์ปืนจริง จะพิจารณาให้ดาบตำรวจนายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนทันที แต่เท่าที่เห็นภาพการทำร้ายร่างกายตำรวจ แค่ภาพนี้สามารถพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้แล้ว

ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งกำชับให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา และรอบคอบ ถึงแม้เป็นตำรวจก็ไม่มีการช่วยเหลือกัน ยิ่งเป็นตำรวจแล้วทำผิดเสียเองต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนการดำเนินการทางวินัย เป็นเรื่องของหน่วยต้นสังกัดที่จะดำเนินการ ต้องชื่นชม ร.ต.ต.พาสกร ที่เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที วันนี้มอบหมายให้ พ.ต.อ.อรรถพล พงษ์สุพรรณ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เป็นผู้แทนมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุน Police Award และมอบกระเช้าเยี่ยมไข้ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และขอให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยไว ขอชื่นชมในการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เข้าไปช่วยเหลือแก้ปัญหา ระงับเหตุความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ด้วยความกล้าหาญ แม้ว่าตัวเองจะเสี่ยงอันตราย และจากนี้กำชับให้ตำรวจสายตรวจเพิ่มความระมัดระวัง ในการเข้าระงับเหตุ เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่