นักเรียนนักเลงแทงกันอีกแล้ว เด็กชายชั้น ม.2 ยกพวกเคลียร์ปัญหาเพื่อนร่วมชั้น หลังแย่งจีบสาวคนเดียวกัน ก่อนนัดเจอกันหลังเลิกเรียน แต่ตกลงกันไม่ได้ อีกฝ่ายชักมีดจ้วงเข้าอกทะลุปอดทรุดฮวบ เพื่อนอีกคนรีบเข้าไปช่วย เจอมีดสวนเข้าราวนมอาการสาหัสทั้งคู่ หลังเกิดเหตุตำรวจตามรวบมือมีดได้ทันควัน ก่อนคุมตัวไปให้สหวิชาชีพร่วมสอบปากคำ รับสารภาพเป็นคนแทง แต่ไม่ใช่ต้นเหตุ แค่ไปช่วยเพื่อน
เหตุนักเรียนชายชั้น ม.2 ยกพวกถล่มแทงกันสาหัส 2 ราย เปิดเผยเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.พ. พ.ต.อ.พูลศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นำตัว ด.ช.เบ้ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งหลังก่อเหตุแทง ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 และ ด.ช.โจ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นเดียวกัน บาดเจ็บสาหัสไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตรัง เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนร่วมกับทีมสหวิชาชีพ มีทั้งนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และพนักงานอัยการ ร่วมสอบปากคำอย่างละเอียด
สำหรับเหตุนักเรียนแทงกันครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 1 ก.พ. ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง รับแจ้งเหตุนักเรียนแทงกันริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน หมู่ 1 เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว ไปตรวจสอบพบพลเมืองดีที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ย่านตาขาวไปแล้ว ทราบชื่อ ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีแผลถูกแทงใต้ราวนมขวาทะลุปอด อีกคนชื่อ ด.ช.โจ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกัน ถูกแทงราวนมซ้าย อาการสาหัสทั้งคู่ แพทย์ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศูนย์ตรัง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังเลิกเรียนนักเรียนที่บาดเจ็บ 2 คน และเพื่อนอีก 3-4 คนเดินเกาะกลุ่มกันกลับบ้าน ถึงที่เกิดเหตุไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก พบกลุ่มนักเรียนคู่อริชั้น ม.2 ที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนรวม 5 คนมาดักรอเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่ตกลงกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายเกิดตะลุมบอนชกต่อยกันอุตลุด ก่อนที่ ด.ช.เบ้ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี 1 ในคู่อริเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกันชักมีดจ้วงแทง ด.ช.บอยทรุดฮวบกับพื้น ด.ช.โจเห็นเพื่อนถูกแทงรีบวิ่งเข้าไปช่วย ถูก ด.ช.เบ้แทงสวนบาดเจ็บไปอีกคน หลังเกิดเหตุกลุ่มนักเรียนที่ร่วมกันก่อเหตุขี่รถ จยย.หลบหนีไป
...
ต่อมาชุดสืบสวนนำกำลังชุดสืบสวนติดตามจับกุม ด.ช.เบ้ได้ที่บ้านใน ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว ก่อนพาไปค้นหามีดปลายแหลมเปรอะเปื้อนเลือดที่ ด.ช.เบ้นำไปโยนทิ้งร่องสวนปาล์มน้ำมันไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้นให้การว่า หลังเลิกเรียนนัดคู่กรณีที่มีปัญหาส่วนตัวกันมาก่อนมาเจรจากันที่จุดรับฝากรถ ห่างจากโรงเรียนประมาณ 100 เมตร แต่ตกลงกันไม่ได้ ก่อนใช้มีดแทงคู่กรณีบาดเจ็บ
ด้าน พ.ต.อ.พูลศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว เปิดเผยว่า วันนี้สหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กที่ก่อเหตุแล้วให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง วันเกิดเหตุไม่ได้มาโรงเรียน แต่มีเพื่อนร่วมชั้นที่มีเรื่องกับฝ่ายคนเจ็บโทรศัพท์มาให้ไปเคลียร์เรื่องทะเลาะกันก่อนหน้านี้ ก่อนขี่รถ จยย.มารอและพกมีดมาด้วย เมื่อมาถึงกลับเคลียร์กันไม่ได้ เกิดการชกต่อยและใช้มีดแทงเพื่อป้องกันตัว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่น หลังจากนั้นคุมตัวไปฝากขังชั้นศาลและนำส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดตรังต่อไป ส่วนเรื่องญาติจะยื่นขอประกันตัวหรือไม่ถือเป็นสิทธิตามกฎหมาย ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บคนหนึ่งปลอดภัยแล้ว ส่วนอีกคนที่โดนแทงแผลทะลุปอดยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บเปิดเผยถึงปมเหตุขัดแย้งถึงขั้นแทงกันในครั้งนี้ว่า เกิดจากเรื่องผู้หญิง หลังมีการแย่งจีบสาวคนเดียวระหว่างกลุ่มผู้บาดเจ็บกับฝ่ายก่อเหตุ ส่วน ด.ช.เบ้ที่ใช้มีดแทงผู้บาดเจ็บไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่มาช่วยเพื่อนอีกคนที่เรียนห้องเดียวกัน ส่วนฝ่ายคนเจ็บอยู่คนละห้อง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยมีปัญหาทะเลาะกันมาแล้ว วันเกิดเหตุมีเรื่องทะเลาะกันอีกรอบก่อนนัดเคลียร์กันหลังเลิกเรียน กระทั่งบานปลายถึงขั้นแทงกันบาดเจ็บสาหัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุนักเรียนแทงกันบาดเจ็บ ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุรุนแรงในโรงเรียนในกรุงเทพฯ หลังมีเด็กชาย ม.2 แทงเพื่อนเสียชีวิตขณะเข้าแถวในโรงเรียน ผ่านมาไม่กี่วันก็มาเกิดเหตุนักเรียน ม.2 ยกพวกแทงกันในพื้นที่ จ.ตรัง ชาวบ้านอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ตรัง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจฝ่ายปกครอง และโรงเรียนช่วยกันหามาตรการป้องกันเหตุนักเรียนนักเลงตีกันอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย
ด้านว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงเหตุนักเรียนแทงกันที่ จ.ตรังว่า สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ตรัง กระบี่ ติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และให้รายงานให้ทราบโดยเร็วว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร ส่วนตัวรู้สึกตกใจเพราะเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพิ่งมีหนังสือสั่งการไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกแห่ง และสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติในการดูแลและป้องกันความปลอดภัยของนักเรียน รวมถึงบุคลากรในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด เพราะก่อนหน้านี้หลังจากที่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับนักเรียนในสังกัด กทม. ทั้ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญ วรกุล รมช.ศึกษาธิการ แสดงความเป็นห่วงและได้กำชับให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแลนักเรียน แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นกับนักเรียนอีกจนได้ แสดงให้เห็นว่ายังมีช่องว่างที่ผู้อำนวยการ สพท. ผอ.โรงเรียน รวมทั้งครูน่าจะหละหลวมในการปฏิบัติตามแนวทางที่ สพฐ.กำหนด ดังนั้น ถึงเวลาที่จะต้องเอาจริงเอาจังและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่านี้
“คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการเลียนแบบพฤติกรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ขอวิงวอนสื่อช่วยกันอย่านำเสนอเรื่องราวที่จะชักนำให้เด็กไปก่อพฤติกรรมที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม ที่สำคัญผมว่าถึงเวลาแล้วที่โรงเรียน ครู ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชน และทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาช่วยดูแลนักเรียนอีกแรง อย่าโยนภาระทิ้งให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้” เลขาฯกพฐ. กล่าว
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
...