พ่อเลี้ยงหนุ่มโหดฆ่าสยองลูกเลี้ยงเด็ก หญิงวัย 12 ปี ใช้ไม้เบสบอลฟาดดับก่อนนำศพยัดถังน้ำแข็งโบกปูนอำพรางแต่สำนึกผิดหลังก่อเหตุขับรถไปกับเมียสารภาพกับญาติ พลั้งมือฆ่าเพราะโมโหที่ลูกเลี้ยงแอบกินอาหารเสริมราคาแพงที่กำลังจะแพ็กส่งให้ลูกค้า เผยอีก ครั้งแรกจะใช้วิธีหั่นศพแต่ไม่กล้า เลยมาหาให้แจ้งตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุจนพบภาพสลด ส่วนพ่อเลี้ยงโหดหลบหนีอ้างจะไปหาเพื่อนย่านดินแดง สุดท้ายไม่รอดถูกจับคาโรงแรมย่านอินทามระ ขณะที่แม่แท้ๆ ร่ำไห้รับศพที่อุทัยธานี สุดเศร้าไม่เห็นหน้าลูกเพราะศพถูกหุ้มด้วยพลาสติกกันกลิ่น
เหตุพ่อเลี้ยงโหดฆ่าโบกปูนอำพรางศพลูกเลี้ยงเด็กหญิงวัย 12 ปีครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ร.ต.อ.ธนศักดิ์ พ้องเสียง รอง สว. (สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบศพในบ้านเลขที่ 92/50 หมู่บ้านสินทรัพย์นคร ถนนพหลโยธิน ซอย 48 แยก 19 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ประกอบกิจการรับจ้างแพ็กสินค้าใส่กล่องส่งมอบให้บริษัทขนส่ง บริเวณครัวหลังบ้านชั้นล่าง พบถังพลาสติกใส่น้ำแข็งขนาด 200 ลิตร สีน้ำเงิน ยี่ห้อ COMOS วางอยู่ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน เปิดออกดูพบดินอยู่ชั้นบนสุด ชั้นรองลงมาโบกทับด้วยปูน เจ้าหน้าที่นำดินและทุบทำลายปูนออก พบศพ ด.ญ.อริศสา หรือปีใหม่ ถิราวัฒน์ อายุ 12 ปี หลานสาวเจ้าของบ้านในสภาพเปลือย มีถุงขยะสีดำและผ้าขนหนูสีชมพูห่อหุ้มร่าง มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งตามใบหน้าและร่างกายหลายแห่ง สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้ว 48 ชั่วโมง
จากการสอบสวน น.ส.อภิญญา หรือเบลล์ แสนโภชน์ อายุ 24 ปี ผู้แจ้งเหตุให้การว่า ผู้ตายเป็นบุตรสาวญาติห่างๆตน ไม่ได้เรียนหนังสือและไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่ 5 ขวบจนถึงปัจจุบัน ผู้ตายมี น.ส.นิรมล หรือมิ๊นท์ พรหมคุณ อายุ 30 ปี ลูกพี่ลูกน้องตนและนายยุทธนา หรือ “แจ๊บ” มาดี อายุ 29 ปี สามี น.ส.นิรมล รับอุปการะในฐานะพ่อและแม่เลี้ยง ที่ผ่านมาทราบว่า ด.ญ.อริศสา อุปนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว ชอบลักขโมยของในบ้าน น.ส.นิรมล และนายยุทธนาว่ากล่าวตักเตือนและทำโทษด้วยการตีอยู่หลายครั้ง แต่ยิ่งตี ด.ญ.อริศสาก็ยิ่งต่อต้าน ทำให้พ่อและแม่ที่รับเลี้ยงเกิดความเครียดต้องนำเรื่องมาปรึกษาแต่ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
...
น.ส.อภิญญากล่าวต่อว่า กระทั่งเวลา 19.00 น. วันที่ 3 ก.ค. น.ส.นิรมลและนายยุทธนา ขับรถมาหาที่บ้านย่านรามอินทรา ก่อนที่นายยุทธนาจะรับสารภาพว่าใช้ไม้เบสบอลตี ด.ญ.อริศสา จนเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงตี 1 วันที่ 2 ก.ค. สาเหตุจากจับได้ว่าผู้ตายขโมยอาหารเสริมซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องแพ็กส่งให้ลูกค้าไปทาน หลังจากที่พลั้งมือตีลูกเลี้ยงจนตาย นายยุทธนาวางแผนทำลายศพด้วยการหั่นแต่ไม่กล้า ก่อนที่จะไปซื้อถังพลาสติกขนาดใหญ่มาใส่ศพโบกปูนและถมดินทับ และตัดสินใจมารับสารภาพกับตนให้ช่วยแจ้งตำรวจ จากนั้นนายยุทธนา ได้ไปหาเพื่อนแถวแฟลตดินแดงและไม่สามารถติดต่อได้อีก ส่วน น.ส.นิรมล เมียนายยุทธนา ฝ่ายสืบสวนนำตัวไปสอบปากคำแล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ น.ส.นิรมลได้นำกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพที่เกิดเหตุทั้งหมดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกล้องวงจรปิดจับภาพตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเกิดเหตุ และช่วงหลังเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน หลังจากที่นายยุทธนา ลงมือทุบ ด.ญ.อริศสา หรือน้องปีใหม่เสียชีวิตได้บังคับให้ น.ส.นิรมล ลบกล้องวงจรปิด แต่ น.ส.นิรมลไม่ยอมลบ ทำให้มีหลักฐานสำคัญของคดี
ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า หลังจากเชิญตัวภรรยาผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ เบื้องต้นคำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี บอกสาเหตุที่นายยุทธนา สามีลงมือทำร้าย เพราะผู้ตายแอบขโมยของกินที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีมูลค่ามาก ใช้ไม้เบสบอลทำร้าย ส่วนคำให้การภรรยาบอกว่าสามีไปพบเพื่อนที่ดินแดงแล้วหายไปเลยส่วนนี้ยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ จากนั้นจะสอบปากคำผู้ก่อเหตุว่าให้การตรงกันหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังหลบหนี ตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติติดยาเสพติด เคยมีคดีเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด แต่ตอนนี้ยังเสพอยู่หรือไม่ต้องรอเจอผู้ต้องหาก่อนจะตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ส่วนประเด็นที่ภรรยาช่วยเหลืออำพรางศพหรือไม่ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
ล่าสุดพ่อเลี้ยงโหดไม่รอดถูกสืบสวน สน.บางเขน ตามจับกุมได้ โดยเมื่อเวลา 16.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ไชยา ภูละมุล รอง ผกก.สส. สั่งการ พ.ต.ท.สมใจ รอดยัง สว.สส. พ.ต.ต.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส.นำกำลังเข้าจับกุมนายยุทธนา หรือแจ๊บ มาดี อายุ 29 ปี ผู้ก่อเหตุได้ที่ห้องพักโรงแรมอารยันสูท ซอยอินทามระ 34 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. ขณะเข้าจับกุม พบมีหญิงสาวยังไม่ทราบชื่ออีก 1 รายอยู่กับผู้ต้องหา ก่อนควบคุมผู้ต้องหาและหญิงคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.บางเขน
ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 สอบปากคำนายยุทธนาด้วยตัวเอง ก่อนเปิดเผยหลังสอบสวนว่า ผู้ต้องหารับสารภาพเล่าเหตุผลอ้างว่าไม่พอใจเด็กที่ขโมยของ ทำร้ายด้วยไม้เบสบอลตีไปนับ 10 ครั้งจนเด็กแน่นิ่ง ก่อนหน้านี้นายยุทธนามักจะทะเลาะกับผู้ตายและเคยใช้ไม้ตี แต่ไม่ใช่ไม้เบสบอล ส่วนการอำพรางศพผู้ต้องหาอ้างว่ากลัวความผิดจึงไปซื้อถังน้ำแข็งพลาสติกที่ตลาดไท จากนั้นซื้อปูนและดินปลูกต้นไม้มาก่อเหตุอำพราง ส่วนที่เด็กไม่สวมเสื้อผ้า อ้างว่าตอนก่อเหตุเสื้อผ้าเด็กเปื้อน ตั้งใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ สุดท้ายไม่ได้ใส่และปฏิเสธว่าไม่ได้คิดจะหั่นศพ รวมถึงไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศ ตอนนี้ตำรวจพบเสื้อผ้าเด็กไม้เบสบอล และหลักฐานทั้งหมดแล้ว สำหรับนายยุทธนาตรวจสอบพบมีประวัติการใช้ยาเสพติด ส่วนเด็กผู้ตาย นายยุทธนารับอุปการะมา ไปขอกับแม่เด็กที่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่อายุราว 7 ขวบ อ้างว่าตั้งใจจะเอามาส่งเรียน เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตและซ่อนเร้นอำพรางศพ ขณะที่ ภรรยานายยุทธนายังอยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนผู้หญิงที่เจออยู่ด้วยกันกับนายยุทธนาตอนถูกจับไม่ได้เกี่ยวข้องทางคดี
...
อีกด้านหนึ่ง บ่ายวันเดียวกันที่วัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมืองอุทัยธานี น.ส.ตรีรัตน์ หรือจอย มีเผ่า อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 28 หมู่ 5 ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี แม่ของน้องปีใหม่ผู้ตายเผยว่า เมื่อสัก 1 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวหนีออกจากบ้านไปอยู่กับนางสาวนิรมล หรือมิ้นท์ ลูกพี่ลูกน้องอดีตแฟนเก่าหรือพ่อน้องปีใหม่ที่เลิกรากันไป ได้ทำเรื่องกับพัฒนาสังคมความมั่นคง ของมนุษย์และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี ให้น้องปีใหม่ไปอยู่กับ น.ส.นิรมล เพราะเห็นว่าลูกสาวชอบที่จะไปอยู่กับนางสาวนิรมลหรือมิ้นท์ อีกอย่างเห็นว่าเป็นญาติกับอดีตพ่อน้องปีใหม่ที่เลิกกันไปแล้วเพื่อตัดปัญหาไม่ให้ลูกนั้นหนีไปที่อื่น ตั้งแต่อายุ 7 ขวบแล้ว แต่เมื่อเช้าถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อทราบว่าลูกสาวถูกฆ่าและคนลงมือก็คือแฟนของ น.ส.นิรมล คิดไม่ถึงว่าลูกจะตายแบบนี้ ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แถมตายแล้วยังไปนำร่างไปอำพรางคดีไว้ในถังแช่น้ำแข็งอีกด้วย ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายอย่างมาก
ต่อมาเวลา 17.00 น. ทันทีที่รถอาสากู้ภัยนำร่างไร้วิญญาณของ ด.ญ.อริศสา หรือปีใหม่ มาถึงวัดและยกโลงศพเข้าไปในศาลา น.ส.ตรีรัตน์ ผู้เป็นแม่ถึงกับร่ำไห้ตลอดว่าลูกไม่น่าจะตายแบบนี้เลยก่อนจะเป็นลมล้มพับ แต่เมื่อขอเปิดโลงศพดูหน้าลูกสาวครั้งสุดท้ายแต่ก็ผิดหวังเพราะร่างไร้วิญญาณเริ่มส่งกลิ่น อาสากู้ภัยจำเป็นต้องห่อหรือพันศพด้วยพลาสติกใส่โลงศพ โดยจะสวดอภิธรรม 3 วัน จากนั้น ก็จะทำการฌาปนกิจ บรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจและสาปแช่งพ่อเลี้ยงโหดขอให้ตายตกไปตามกัน