อาวุธปืนเกลื่อนเมือง ไล่ยิงกันเจ็บ สาหัส 2 คดีซ้อน คดีแรก 2 มือปืนขี่รถ จยย.ตามประกบยิง 4 วัยรุ่นคารถ บาดเจ็บสาหัส 1 แต่เหยื่อยังไม่ยอมให้การทั้งหมด อ้างก่อนเกิดเหตุพากันขับรถไปเที่ยวตลาดนัด เท่านั้น ล่าสุด ตำรวจ สน.สายไหมรู้ตัวคนลั่นไกแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ อีกคดี กลุ่มมือปืนตามไปเจรจาบางอย่างกับพ่อค้าขายน้ำกระท่อม หลังจากนั้นชักปืนออกมายิงใส่ 3 นัด อาการปางตาย สงสัยเจรจาเรื่องหนี้สิน ล่าสุดตำรวจ สน.บางชันจับสาว 1 ในผู้ร่วมก่อเหตุแล้ว แต่อ้างแค่ไปซื้อน้ำกระท่อม ไม่รู้เห็นเรื่องยิงกัน
เหตุมือปืนไล่ประกบยิงกลุ่มวัยรุ่นเจ็บสาหัสรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. ร.ต.อ.สิมธิชัย แสงขาว รอง สว. (สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุมือปืนขี่รถ จยย.ตามไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นขับรถมาบนถนนสุขาภิบาล 5 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และเจ็บเล็กน้อยอีก 3 คน รายงานให้ผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม และตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบนถนนสุขาภิบาล 5 ก่อนถึงปากซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 92 พบรถยนต์โตโยต้าโคโรน่า สีเขียว หมายเลขทะเบียน กย 7234 เชียงราย สภาพถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าบริเวณกระจกด้านข้างคนขับ 3 นัด และที่ประตูรถด้านข้างคนขับอีก 2 นัดรวม 5 นัด มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนที่นั่งกับประตู ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดกู้ภัยสายไหม อปพร.สายไหม และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งนำส่งรักษาตัวที่ รพ.ซีจีเอส สายไหม ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุพบปลอก กระสุนตกอยู่ 4 ปลอกเก็บไว้เป็นหลักฐาน
...
จากการตรวจสอบอาการเหยื่อที่โรงพยาบาล ทราบชื่อคนขับคือ นายวิวัฒน์ บุญเย็น อายุ 18 ปีถูกยิงที่แขนขวา 1 นัด และขาขวาอีก 1 นัด นายสินติภาพ พิกุลแก้ว อายุ 20 ปี นั่งหน้าข้างคนขับบาดเจ็บที่มือขวา ส่วนนายปัณณวรรธ สอนทโชติ อายุ 16 ปี และนายธนากรณ์ ก้อนแก้ว อายุ 17 ปีนั่งมาด้านหลังมีอาการแน่นหน้าอกเล็กน้อย กลุ่มผู้เสียหายให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุไปเที่ยวตลาดนัดสายไหม ขณะขับรถกลับบ้านอยู่บน ถนนสายไหมติดไฟแดงบริเวณ 3 แยกตลาดวงศกร ชายฉกรรจ์ 2 คน ขี่รถ จยย.ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน สวมหมวกกันน็อกมาจอดเทียบ ถามกลุ่มตนว่า “มึงด่ากูหรอ” เห็นท่าไม่ดีรีบขับรถเลี้ยวขวาหนีเข้าถนนสุขาภิบาล 5 แต่ 2 มือปืนตามทันที่จุดเกิดเหตุแล้วยิงปืนใส่ 5 นัด รีบจอดรถแล้ววิ่งหนีเอาชีวิตรอด และได้ยินเสียงปืนดังตามมาอีก 1 นัด หลังจากนั้นคนร้ายขี่รถ จยย.หลบหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว จะเดินทางไปสอบปากคำภายหลัง คาดว่าผู้ก่อเหตุกับผู้เสียหายน่าจะรู้จักกันมาก่อน อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบและเก็บหลักฐานแล้ว นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเส้นทางคนร้ายหลบหนีเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.รังสรรค์เผยอีกว่า ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 1 คน เป็นคนซ้อนรถ จยย. และเป็นผู้ใช้ปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 4 คน สั่งการ ให้ฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ลงพื้นที่หาข้อมูลเพื่อนำมาประกอบการขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ ส่วนคนขี่รถ จยย.ผู้ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างสืบสวนว่าเป็นใคร สาเหตุคาดว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่กลุ่มผู้เสียหายยังให้การในข้อเท็จจริงกับตำรวจไม่หมด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเพียง 1 คน คือคนขับรถที่ถูกยิงเข้าที่ขาและแขน ส่วนเพื่อนอีก 3 คน รอดจากการถูกยิง
ที่ สน.สายไหม เวลา 15.30 น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี โดยมี พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.พงษ์สิทธิ์ ปาลาพงศ์ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม และฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม เพื่อเร่งรัดติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ใช้เวลาการประชุมกว่า 1 ชม. พล.ต.ต.อรรถพลเผยว่า จากการประชุมร่วมกับฝ่ายสืบสวนและพนักงานสอบสวนทางคดีมีความคืบหน้าไปมาก สามารถระบุตัวบุคคลได้ รวมถึงมีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันตัวคนก่อเหตุได้ ส่วนประเด็นการก่อเหตุ เบื้องต้นเชื่อว่าทั้ง 2 กลุ่มมีการมองหน้าและเกิดเขม่นกัน จนเกิดทะเลาะวิวาทกันก่อนที่จะตามมาใช้อาวุธปืนยิง ส่วนทั้ง 2 กลุ่มรู้จักกันหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่ามีการทะเลาะวิวาทกันก่อนหน้านี้ แต่ยืนยันว่าทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
อีกคดีเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สน.บางชัน พ.ต.ท.ชนายุส เอื้อธีรวีร รอง ผกก.สส.สน.บางชัน พ.ต.ท.พงศ์จารุ พฤฒิธรรมกูล รอง ผกก.ป.สน.บางชัน พ.ต.ท.ปวิช นิลสุวรรณ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางชัน และ พ.ต.ท.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางชัน พร้อมฝ่ายสืบสวน เผยผลการ จับกุม น.ส.เกศรินทร์ แตงมณี อายุ 45 ปี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ข้อหาร่วมกันมีและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหายิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน จับกุม ผู้ต้องหาที่บ้านภายในซอยวัดสุขใจ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กทม.เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 10 มิ.ย. พ.ต.ต.วิศนุ สุขเกิด สว. (สอบสวน) สน.บางชัน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บเหตุภายในซอยเสรีไทย 83 แยก 1 แขวงและเขตคันนายาว ไปตรวจสอบพบนายวิชิตพงษ์ และอรุณ อายุ 34 ปีอาชีพขายน้ำกระท่อม ถูกยิงบริเวณหลัง แขนข้างซ้าย และหน้าแข้งบาดเจ็บสาหัส นำส่ง รพ.หนองจอก รักษาตัว อาการปลอดภัยแล้ว
...
สอบสวนได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุขณะ นายวิชิตพงษ์ขี่จักรยานมาถึงบริเวณกลางแยก 1 ในซอยเสรีไทย 83 มีคนร้ายขี่รถ จยย.มา 2 คัน ทราบชื่อภายหลังคือ นายปรารถนา ปานจันทร์ อายุ 28 ปี ชาว จ.พิจิตร ขี่รถ จยย.ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีเทา ทะเบียน 3ขท 7209 กรุงเทพมหานคร มี น.ส.เกศรินทร์ แตงมณี อายุ 45 ปี ซ้อนท้าย ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน คันที่ 2 เป็นรถ จยย.เวสป้า สีเหลืองไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนขี่เป็นชายยังไม่ทราบชื่อนามสกุลรูปร่างอ้วนเตี้ย ไม่สวมหมวกนิรภัย กลุ่มคนร้ายตรงเข้าพูดคุยกับนายวิชิตพงษ์สักพักแล้วใช้ปืนยิงใส่หลายนัดจนบาดเจ็บสาหัสก่อนขี่รถ จยย.หลบหนีไป
ต่อมา พ.ต.ท.ชนายุส เอื้อธีรวีร รอง ผกก.สส.สน.บางชัน และ พ.ต.ท.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางชัน พร้อมฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้อง วงจรปิด สืบสวนติดตามจับกุม น.ส.เกศรินทร์ไว้ได้ และตรวจยึดรถ จยย.ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีเทา ทะเบียน 3ขท 7209 กรุงเทพมหานคร และปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุได้ภายในห้องพักนายปรารถนาใกล้บ้าน น.ส.เกศรินทร์ พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย เผยว่า น.ส.เกศรินทร์ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธว่า ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ไปกับเพื่อนเพื่อซื้อน้ำกระท่อมเท่านั้น แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นชัดเจนว่า น.ส.เกศรินทร์ร่วมก่อเหตุด้วย คาดกลุ่มคนร้ายมาทวงเงินที่ติดค้างกัน ตกลงกันไม่ได้เลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายก่อนหลบหนี หลังจากนี้จะติดตามผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป