สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจเป็นอีกหน่วยงานสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยคลี่คลายและปิดฉากคดีดังมานับครั้งไม่ถ้วน

ปัจจุบันมี พล.ต.ต.ภวัต ประทีปวิศรุต ผู้บังคับ การสถาบันนิติเวชวิทยา เป็นแม่ทัพนำหน่วยงานที่เปรียบเหมือนปิดทองหลังพระ และตอนนี้มีพัฒนาการด้านเครื่องมือเครื่องไม้และบุคลากรจนเป็นที่น่าเชื่อถือชื่อเสียงดังไปถึงต่างประเทศ จนในหลายประเทศต้องส่งวัตถุพยานมาให้ตรวจ

พ.ต.อ.วาที อัศวุตมางกุร หัวหน้ากลุ่มงานตรวจเลือดชีวเคมีและเขม่าดินปืน ในฐานะรองโฆษก โรงพยาบาลตำรวจ ได้ให้รายละเอียดเรื่องนี้ว่า สถาบันนิติเวชวิทยา ได้ซื้อเครื่องสกัดและวิเคราะห์สารพันธุกรรมแบบเร่งด่วน หรือเครื่อง RAPID HIT รุ่น RH200 เข้ามาประจำหน่วย

คุณสมบัติพิเศษของเครื่องนี้ คือสามารถรู้ผลตรวจดีเอ็นเอได้ภายในระยะเวลา 90 นาที จากเดิมเร็วสุดคือ 24 ชั่วโมง!!!!

...

“การตรวจดีเอ็นเอมีด้วยกัน 6 ขั้นตอน คือ 1.ลงทะเบียน 2.เตรียมตัวอย่าง 3.สกัด 4.หาปริมาณ 5.เพิ่มปริมาณ 6.วิเคราะห์ผล ซึ่งในแต่ละขั้นตอนต้องแยกห้องกันทำถึง 6 ห้อง ใช้เจ้าหน้าที่หลายนาย หากมีผู้ต้องสงสัยหลายคนก็เพิ่มเวลาขึ้นไปอีก” พ.ต.อ.วาทีระบุ

“เครื่อง RAPID HIT นี้สามารถวิเคราะห์ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ จากเยื่อบุกระพุ้งแก้ม (check swap) คราบเลือด ขวดน้ำ หมากฝรั่ง ก้นบุหรี่และยังสามารถวิเคราะห์ตัวอย่างได้ครั้งละ 7 ตัวอย่างพร้อมๆกันและมีการวิเคราะห์ Allelic ladder ไปพร้อมกัน และยังสามารถใช้กับน้ำยาวิเคราะห์สารพันธุกรรมสำเร็จรูป ที่มีตำแหน่ง 24 ตำแหน่งได้อีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม ของถูกไม่มีดี ของฟรีย่อมไม่มีในโลก เพราะค่าใช้จ่ายของการใช้เครื่องนี้จะสูงกว่าแบบเก่า!!!!!!!

“ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะใช้กับเคสเร่งด่วน คดีใหญ่ๆและได้ผู้ต้องสงสัยมาพร้อมกันเท่านั้น เพราะแต่ละครั้งที่เครื่องทำงานต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้ง ในประเทศไทยหน่วยงานที่มีเครื่องมือนี้มีอยู่ 2 หน่วยคือสถาบันนิติเวชวิทยา และศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้”

พ.ต.อ.วาที ว่าอีกว่า ส่วนอีกเครื่องคือ เครื่อง Next generation sequencing (NGS) รุ่น The ION 55 se-quencer ใช้สำหรับตรวจวิเคราะห์ลำดับสายพันธุกรรม โดยใช้ตรวจหาความแตกต่างของลำดับสายพันธุกรรมที่ตำแหน่งหนึ่งๆบนสาย ดีเอ็นเอ หรือสนิปส์ ใช้ในกรณีที่ดีเอ็นเอเสื่อม สภาพวัตถุพยานเก่ามาก ซากศพเน่า

ในกรณีที่ตัวอย่างตรวจ Nuclear ดีเอ็นเอแล้วไม่พบ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือนี้ เพื่อใช้ในการระบุตัวบุคคล ให้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ โดยบุคลากรที่ควบคุมเครื่องเหล่านี้ก็จบด็อกเตอร์ และปริญญาโททางด้านดีเอ็นเอมาจากต่างประเทศ

...

“บุคลากรและเครื่องมือเหล่านี้ เตรียมการไว้เพื่อรองรับงานบริการด้านนิติพันธุศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ที่ผ่านมา การส่งตัวอย่าง ดีเอ็นเอมาตรวจ นอกจากจะเป็นหน่วยงานตำรวจในประเทศไทยแล้ว ยังมีการรับสิ่งส่งตรวจวัตถุพยานต่างๆ จากหลายประเทศอีกด้วย”

จัดได้ว่าสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจของไทย มีเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียนก็ว่าได้!!!!!!

ทีมข่าวอาชญากรรม