ภายหลังจากที่ค่ายพระนครยนตรการ หรือ PNA ของตระกูล “จึงสงวนพรสุข” หนึ่งในกลุ่มทุนยานยนต์รายใหญ่ของไทย คว้าสิทธิ์การเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Leapmotor อย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็ได้เดินหน้ารุกตลาดรถเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการประเดิมเปิดตัว Leapmotor C10 รถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

โดยเปิดตัวเป็นทางการครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเลงรถชาวไทยไม่น้อย

สำหรับการทำตลาดรถ Leapmotor ในไทย นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Leapmotor International ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม Stellantis ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก กับ Leapmotor ในสัดส่วน 51:49 ที่มีเป้าหมายในการขยายยอดขายของรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จากจีน ที่มีนวัตกรรมอันล้ำสมัยออกสู่ตลาดโลกนอกประเทศจีน

ทั้งนี้ รถ Leapmotor ติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแบบสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของประเทศจีน และได้สร้างความเติบโตอย่างน่าทึ่ง ทำให้ Leapmotor ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำที่พร้อมเดินหน้าสู่เวทีโลกผ่านเครือข่ายการขายและการให้บริการของ Stellantis

สำหรับ Leapmotor C10 มาพร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง 477 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวที่เพลาหลัง ภายในมีกว้างขวาง, เบาะที่นั่งแบบซิลิโคนที่มีความปลอดภัยต่อเด็กทารก มาพร้อมซอฟต์แวร์ four-leaf clover แบบศูนย์รวม Leap 3.0 และระบบจัดการแบตเตอรี่ด้วย AI สนนราคาอยู่ที่ 1,098,000 บาท

“ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “พระนครออโตโมบิล” กล่าวว่า Leapmotor C10 เหมาะสำหรับตลาดแบบครอบครัวในไทย เพราะเป็นรถไฟฟ้าที่มีความล้ำสมัย อัจฉริยะ และระบบช่วยขับขี่มากมายเหมาะกับผู้บริโภคชาวไทย โดยเป้าหมายในอนาคต ยังพร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆอย่างต่อเนื่อง

...

ขณะที่ Stellantis ย้ำว่า พร้อมเดินหน้ารุกเข้มตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด Stellantis ได้บรรลุหมุดหมายสำคัญด้วยการรับมอบสต๊อกชุดแรกที่ศูนย์กระจายอะไหล่ประจำภูมิภาคอินเดียและเอเชียแปซิฟิกในประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกของการจัดส่งอะไหล่ทั้งหมดมูลค่า 10 ล้านยูโร โดยขณะนี้มีอะไหล่ มูลค่า 8 ล้านยูโร กำลังอยู่ระหว่างการขนส่งจากอเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส อิตาลี และจีน รวมทั้งสิ้น 35,000 รายการ (SKUs)

สำหรับศูนย์กระจายอะไหล่แห่งนี้จะรองรับทุกแบรนด์ของ Stellantis รวมถึง PEUGEOT, Citroën, Alfa Romeo, Jeep, RAM, Leapmotor และอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานใน 20 ประเทศทั่วภูมิภาคอินเดียและเอเชียแปซิฟิก

โดยศูนย์แห่งนี้มีกำหนดเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบภายในไตรมาสแรกของปี 2025 และเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของ Stellantis เพื่อยกระดับบริการหลังการขาย โดยลดระยะเวลาการจอดซ่อม

และเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงอะไหล่และชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับดีลเลอร์และลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง!!!

อัลคาโปน

คลิกอ่านคอลัมน์ “มอเตอร์วอร์ส” เพิ่มเติม