วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “การเงิน” กันต่อนะครับ คืนวันพุธ 15 มิถุนายน FOMC ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 10 ต่อ 1 ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่สูงลิ่ว ตามที่ผมรายงานท่านผู้อ่านไปล่วงหน้าฉบับเมื่อวานนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1.50-1.75% คุณเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงว่า เดือนกรกฎาคมจะขึ้นอีก 0.50-0.75% คาดว่าสิ้นปีนี้ดอกเบี้ยสหรัฐฯจะขึ้นไปที่ 3.4% แสดงว่าเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.75% ในปีนี้ เป็นการแจ้งข่าวล่วงหน้าแก่นักลงทุนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งผมคิดว่า แบงก์ชาติไทย ก็ควรจะชี้นำล่วงหน้าแบบนี้
วันก่อนนายกฯของเรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาพูด เรื่องเงินเรื่องดอกเบี้ยว่า ธปท.และกระทรวงการคลังมารายงานแล้วว่า ขณะนี้จะคงไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เงินไหลออก (?) อะไรทำนองนี้นะ ก็เป็นหลักการในทางเศรษฐศาสตร์อยู่แล้วนะ
“ผู้นำที่ไม่รู้เรื่องการเงิน” ที่ผมจะเขียนถึงในวันนี้ ไม่ใช่ผู้นำไทยนะครับ แต่เป็นผู้นำของ “ตุรกี” ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น “ตุรเคีย” (Turkiye) เพราะชื่อ ตุรกี (Turkey) ดันไปพ้องกับชื่อไก่งวง คอลัมน์ World Exclusive ใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับมิถุนายน มีรายงานเกี่ยวกับ ผู้นำตุรเคีย ที่สอบตกวิชาเศรษฐศาสตร์ สั่งแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นไปสูงถึง 69.97% สูงที่สุดในโลก โค่นแชมป์ “อาร์เจนตินา” ที่เงินเฟ้อสูงถึง 50% ไปอย่างราบคาบ มีนาคมเงินเฟ้อตุรเคีย 61.14% เมษายนพุ่งขึ้นไปถึง 69.97%
ผมเคยไปเที่ยวตุรกี 20 กว่าปีก่อน เงินเฟ้อตอนนั้นก็ขึ้นเป็นรายวินาที อาหารเช้ากาแฟไข่ดาวหมูแฮม ชุดละ 2 ล้านกว่าลีรา (ตอนนั้น 1 ดอลลาร์เท่ากับ 1,650,000 ลีรา) ปลายปี 2546 รัฐสภาตุรกี ได้ออกกฎหมาย “ลบเลขศูนย์ออกไป 6 หลัก” เพื่อสร้างเงินลีราใหม่ 1 ลีราใหม่ เท่ากับ 1,000,000 (1 ล้าน) ลีราเก่า แต่ก็สู้เงินเฟ้อไม่ได้ ปี 2550 ตุรกีปรับค่าเงินใหม่อีกเป็น 1 ดอลลาร์เท่ากับ 1.26 ลีรา (1,260,000 ลีรา) แต่เงินเฟ้อก็ยังพุ่งขึ้นไปเกือบ 70%
วันนี้ ชาวตุรเคียเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อจนด้านชาไปหมดแล้ว แต่ละเดือนเงินเฟ้อก้าวกระโดดขึ้นไปเรื่อยๆ ประเทศอื่นสกัดเงินเฟ้อด้วยการทยอยขึ้นดอกเบี้ย แต่ ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ผู้นำตุรเคีย ไม่เชื่อในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์พวกนั้น แถมยังกำชับแบงก์ชาติตุรเคียห้ามเลียนแบบเด็ดขาด ผู้นำตุรเคียเชื่อว่า การขึ้นดอกเบี้ยก่อให้เกิดเงินเฟ้อต่างหาก แถมยังเป็นการขูดรีดประชาชนอีกด้วย ดังนั้น ท่านผู้นำแอร์โดกาน จึงสั่งให้ ธนาคารกลางตุรเคียต้องลดดอกเบี้ยลงเพื่อระงับเงินเฟ้อ
แม้ว่า ผู้ว่าการแบงก์ชาติตุรเคีย จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ต้องยอมทำตามท่านผู้นำ ฉีกตำราเศรษฐศาสตร์ทิ้ง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 ประธานาธิบดีแอร์โดกาน บีบให้แบงก์ชาติตุรเคีย ลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้งแล้ว จากอัตราดอกเบี้ย 19% เหลือ 14% แต่อัตราเงินเฟ้อก็ยังเริงร่าเพิ่มขึ้นจนเกือบ 70% แล้ว อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติและนักเศรษฐศาสตร์ที่คัดค้านทฤษฎีลดดอกเบี้ยฉุดเงินเฟ้อ มักถูกท่านผู้นำเล่นงานด้วยกฎหมาย
ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ใหม่ของผู้นำตุรเคีย ทำให้ค่าเงินลีราหายไปเกือบ 40% ในปี 2021 แต่ผู้นำตุรเคียก็ไม่หวั่นไหว ออกคำสั่งด่วนปลายปี 2021 ว่า รัฐบาลจะชดเชยค่าเงินที่หายไปให้กับประชาชนที่ฝากเงินสกุลลีราไว้ในธนาคาร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ไม่ไปแห่ถอนเงินออกจากธนาคารนำไปแลกเป็นเงินสกุลต่างประเทศ
แต่ การพยุงค่าเงินลีราด้วยการประกันเงินฝาก ของท่านผู้นำ ส่งผลให้ฐานะการเงินของประเทศอ่อนแอลงเรื่อยๆ ดอลลาร์ยิ่งแข็งค่า เงินลีราก็ยิ่งอ่อนค่า รัฐบาลตุรเคียต้องแบกภาระชดเชยเงินฝากมหาศาล อนาคตตุรเคียจะจบลงอย่างไรกับ ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เพี้ยนของท่านผู้นำเพี้ยน คงได้เห็นกันในเร็ววันนี้แหละ เมื่อเงินเฟ้อทะลุ 100%.
“ลม เปลี่ยนทิศ”