ย้อนรอยสตอรีหุ้น STARK

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ย้อนรอยสตอรีหุ้น STARK

Date Time: 9 มิ.ย. 2566 06:20 น.

Summary

  • ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จะสามารถทำบัญชีหลอกผู้สอบบัญชีระดับโลกได้ หลอกบริษัทจัดเครดิตเรตติ้งได้ สร้างความเสียหายต่อผู้ลงทุนในวงกว้างกว่า 20,000 ล้านบาท

Latest

TISA มาตรการใหม่ สร้างดีมานด์ เพิ่มสภาพคล่อง ได้จริงหรือ?

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK จะสามารถทำบัญชีหลอกผู้สอบบัญชีระดับโลกได้ หลอกบริษัทจัดเครดิตเรตติ้งได้ สร้างความเสียหายต่อผู้ลงทุนในวงกว้างกว่า 20,000 ล้านบาท ล่าสุด 6 มิถุนายน คุณวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK ได้เข้าแจ้งความต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ทำให้บริษัทไม่สามารถเปิดรายละเอียดต่างๆได้ เท่ากับปิดข่าวทั้งหมด

วันนี้ผมจะพาย้อนดู สตอรีที่สวยหรู ของ สตาร์ค ก่อนจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของนักลงทุน เมื่อไม่สามารถส่งงบการเงินปี 2565 ได้ตามกำหนด ตามมาด้วย การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ก่อนจะนำไปสู่ ปัญหาการทุจริต เมื่อผู้สอบบัญชีรายใหม่ ไพร้ซ วอเตอร์คูเปอร์สเอบีเอสเอส ได้ตรวจพบพฤติการณ์อันควรสงสัยเกี่ยวกับการกระทำผิด

นับแต่ คุณวนรัชต์ เทกโอเวอร์บริษัทในตลาดหลัดทรัพย์เปลี่ยนชื่อเป็น สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ในปี 2561 บริษัทก็แสดงผลกำไรดีขึ้นเรื่อยๆ ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,600 กว่าล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิกว่า 2,780 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิกว่า 2,200 ล้านบาท ทำให้ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสูงสุดที่ 4.90 บาทใน 12 เดือน ก่อนจะร่วงลงมาเหลือ 0.15 บาท (7 มิ.ย.)

ช่วงไตรมาส 4 ปี 65 สตาร์ค แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทจะเพิ่มทุนขายหุ้นให้บุคคลในวงจำกัด Private Placement (PP) ที่ราคาหุ้นละ 3.72 บาท เป็นเงิน 1,500 ล้านบาท สัดส่วน 11.19% เพื่อนำเงินเพิ่มทุนไปรองรับการซื้อหุ้น LEONI Kabel GmbH และ LEONISCHE Holding ในสัดส่วน 100% มูลค่าไม่เกิน 560 ล้านยูโร ไม่เกิน 20,572 ล้านบาท

สตาร์ค ได้บรรยายถึงบริษัทที่จะซื้อว่า LEONI Kabel เป็นบริษัทย่อยของ LEONI AG (LEONI) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต LEONIsche จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ สหรัฐฯ เป็นบริษัทย่อยของ LEONI ทำธุรกิจผลิตสายไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และสายไฟ EV Charging ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยอดขายปี 2564 ประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ ราว 50,000 ล้านบาท เป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจของสตาร์คจากเดิมที่เป็นผู้นำอันดับ 1 ในอาเซียนในสายไฟฟ้ากลุ่มเพาเวอร์เคเบิลอยู่แล้ว

สตอรีของสตาร์คได้ผล บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของไทยแนะนำให้ซื้อหุ้น STARK ในราคาเป้าหมายปี 2566 ที่หุ้นละ 6 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นอีก 11% เป็น 3,200 ล้านบาท บริษัท

จัดอันดับเรตติ้งปรับเรตติ้งเป็น BBB+ ระดับน่าลงทุน

สตอรีและเครดิตเรตติ้งขนาดนี้ทำให้ การขายหุ้นเพิ่มทุน การขายหุ้นกู้ การกู้เงินแบงก์ ง่ายขึ้นมาก แบงก์ใหญ่ต่างชาติ บริษัทจัดการกองทุนไทย แย่งซื้อหุ้นเพิ่มทุนสตาร์คถึง 12 แห่ง อันดับ 1 เครดิต สวิส (สิงคโปร์) อันดับ 2 ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ อันดับ 3 ยูโอบี เคย์ เฮียน ไพรเวท แล้วก็บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนขนาดใหญ่ไทย

ด้วย เครดิตเรตติ้งระดับ BBB+ ทำให้สตาร์ค ออกหุ้นกู้กว่า 9,000 ล้านบาท ขอสินเชื่อจากธนาคารกว่า 8,000 ล้านบาท นอกเหนือจาก การเพิ่มทุนแบบเจาะจง 1,500 ล้านบาท แต่หลังจากเพิ่มทุนเสร็จ สตาร์คก็แจ้งล้มแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทในเยอรมนีสองแห่ง ความฝันนักลงทุนพังครืน 21 ธ.ค.65 สตาร์คแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารเงิน เนื่องจากมีสภาพคล่องส่วนเกินจากกระแสเงินสดและเงินเพิ่มทุน แต่รุ่งขึ้น 22 ธ.ค.65 สตาร์คแจ้งตลาดว่า จะซื้อหุ้นคืนเมื่อบริษัทมีกำไรสะสมเพียงพอ สรุปคือไม่ซื้อหุ้นคืน และแจ้งอีกว่า เงินเพิ่มทุนที่ได้จะนำไปใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น วันนี้ ไม่รู้เงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาทหายไปไหน ผู้ถือหุ้นน้อยใหญ่ได้แต่น้ำตาเช็ดหัวเข่า

งานนี้ STARK สร้างสตอรีหลอกทุกคนได้เหลือเชื่อ แต่คำถามใหญ่ของนักลงทุนคือ ผู้สอบบัญชีรับรองบัญชีไปได้ยังไงถึง 4–5 ปี โดยไม่รู้ว่าเป็นบัญชีหลอก?

“ลม เปลี่ยนทิศ”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ