"ซีพี" เจ้าภาพใหญ่ ประชุมผู้นําการศึกษาของโลก ชูปฏิรูปให้ตอบโจทย์ธุรกิจ 5.0

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"ซีพี" เจ้าภาพใหญ่ ประชุมผู้นําการศึกษาของโลก ชูปฏิรูปให้ตอบโจทย์ธุรกิจ 5.0

Date Time: 2 ธ.ค. 2565 05:32 น.

Summary

  • สภาเพื่อการศึกษาระดับโลก ร่วมกับเครือซีพี เปิดเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำด้านการศึกษาระดับโลก “Forum for World Education 2022” ครั้งแรกในไทย

Latest

ค้นหาดินแดนในฝันกับ "ทราเวลเทค" รมิดา ก้อนฆ้อง ผู้นำทัวร์เหนือจินตนาการ

สภาเพื่อการศึกษาระดับโลก (FWE) ร่วมกับเครือซีพี เปิดเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำด้านการศึกษาระดับโลก “Forum for World Education 2022” ครั้งแรกในไทยภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจเปลี่ยน การศึกษาปรับ รับแนวโน้มอนาคต” ระดมความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมขับเคลื่อนและปฏิรูปการศึกษาให้ตอบโจทย์ธุรกิจในโลกยุค 5.0 ชี้ระบบการศึกษาต้องสร้างการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิต สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และค้นหาตัวเองให้กับเด็กและเยาวชน ลงทุนกับการสร้างครูคุณภาพ ไม่แยกการศึกษากับการทำงาน ประธานอาวุโสซีพีเชื่อมั่นประเทศจะเติบโตรุ่งเรืองได้ขึ้นอยู่กับการศึกษา

ที่สถาบันผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. มีการประชุมสัมมนา “Forum for World Education 2022” ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจเปลี่ยน การศึกษาปรับ รับแนวโน้มอนาคต” (Shaping The Future of Education To Match Global Economic Trends) โดยสภาเพื่อการศึกษาระดับโลกหรือ Forum for World Education (FWE) ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์และโรงเรียนนานาชาติคองคอร์เดียน ระหว่างวันที่ 1-2 ธ.ค. โดยได้เชิญผู้นำด้านธุรกิจระดับโลกที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคนและการศึกษาเข้าร่วมประชุม พร้อมกับผู้นำด้านการศึกษาจากต่าง ประเทศกว่า 400 คน ระดมความเห็นการออกแบบรูปแบบการศึกษาให้ตอบโจทย์อนาคตสอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจในทุกประเทศทั่วโลก ตั้งเป้าหมายสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา เตรียมความพร้อมทรัพยากรมนุษย์ให้แข็งแกร่ง สร้างอนาคตเศรษฐกิจโลกยุค 5.0 ต่อไป

ในงานได้รับเกียรติจากผู้นำด้านธุรกิจระดับโลกที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคนและการศึกษา พร้อมผู้นำด้านการศึกษาจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุม อาทิ ดร.เฉิง เยี่ยน เดวิส ผู้ร่วมก่อตั้งและเลขาธิการ FWE ดร.ตัน ซี เล็ง รมช.การค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายแอนเดรียส ชไลเคอร์ ผอ.องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) นายไมเคิล บลูมเบิร์ก ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวบลูมเบิร์กและอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก นายวิคราม เรา หัวหน้าด้านวิสาหกิจอาเซียน จากแอมะซอน ดร.อิโนเอะ มิสึเทรุ กรรมการบริหารอาวุโส สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น นายคอลลิน มาร์สันผอ.ด้านการศึกษา กูเกิล เอเชียแปซิฟิก และนายลีไค เฉิน หุ้นส่วนอาวุโสและหุ้นส่วนผู้จัดการแมคเคนซี่

ขณะที่นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่เข้าร่วมสัมมนาด้วยกล่าวว่า การพัฒนาประเทศในยุคนี้ต้องพึ่งพาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิทยาการแผนใหม่ ในส่วนของอุดมศึกษาไทยช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้มีการปฏิรูปในหลายด้าน เปิดโอกาสให้ภาคสังคมและธุรกิจเข้ามามีส่วนกำหนดนโยบายด้านการศึกษาเพื่อข้ามข้อจำกัดต่างๆให้เกิดเป็นนวัตกรรมด้านการศึกษา เราจะจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาอย่างไร ให้เด็กๆสนุก ทำอย่างไรให้เรียนจบภายใน 2-3 ปี ทำอย่างไรให้เด็กเรียน 2 ปี แต่มีความรู้เท่ากับเรียน 4 ปี ต้องทำให้เด็กเห็นความสำคัญของความรู้และนำความรู้ไปสู่การปฏิบัตินำไปสู่รายได้ จะต้องไม่แยกการศึกษาออกจากการทำงาน ต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องเหล่านี้ให้เกิดขึ้น

ส่วนนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ประเทศจะเจริญรุ่งเรืองได้เท่าไรขึ้นอยู่กับการศึกษา การศึกษาคือการพัฒนาคน องค์กรที่ยิ่งใหญ่ถ้าไม่สร้างผู้นำที่มีความรู้ในหลายๆ เรื่องจะไม่มีคำว่า CEO ในอดีตเรามักสร้างคนให้มีความรู้แบบไซโลเพราะกลัวการถูกซื้อตัวไป แต่ซีพีเราใช้คำพูดเก่าเอามาใช้กับยุคใหม่คือเรากำลังสร้างเถ้าแก่ เพราะเถ้าแก่ต้องรู้ทุกเรื่องกำไร บัญชี ขาดทุน บุคคล ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ แล้วไม่กลัวว่า เขาจะออกจากเราไปที่อื่น เพราะถือว่าเราได้สร้างคน ให้กับสังคมและประเทศชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าเราจะสร้างคนให้เป็นผู้นำเราจะต้องสร้างผู้นำที่มีความกตัญญู รู้จักการให้ รู้จักเรียนรู้ รู้จักเสียเปรียบ นี่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนที่เห็นแก่ตัวจะไม่มีทางเป็นผู้นำที่ดีได้ เครือเจริญโภคภัณฑ์มี 6 ค่านิยมที่สำคัญคือ 3 ประโยชน์ นวัตกรรม เร็วและมีคุณภาพ ยอมรับความเปลี่ยนแปลง ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ที่สำคัญที่สุดต้องมีความกตัญญูเป็นอันดับหนึ่ง จะเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นคนดี รู้จักตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน กตัญญูกับพ่อแม่ รักครอบครัวรักองค์กรบริษัท รักพนักงาน จึงจะเป็นผู้นำที่ดีได้

นอกจากนี้ ในการประชุม นายธานินทร์ยังกล่าวถึงระบบการศึกษาและธุรกิจในโลกยุคใหม่ไว้อย่างน่าสนใจว่า ระบบการศึกษาจะต้องปรับเปลี่ยน ต้องพยายามสร้างคนให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อที่ว่าการเรียนอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือทำด้วย เพื่อให้เกิดปัญญา ปัญญาสำคัญไม่แพ้ใบปริญญา วันนี้เราต้องให้คนรุ่นใหม่ทำไม่ต้องกลัวทำผิดผิดคือครูถือเป็นค่าเล่าเรียน ถ้าเรื่องธุรกิจเด็กสมัยนี้เค้าฉลาดกว่ายุคของเรา ในยุคก่อนต้องอายุมากกว่า 50 ถึงจะขึ้นเป็นผู้นำได้ แต่ยุคนี้ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องให้คนรุ่นใหม่ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ระบบการศึกษาวันนี้เด็กอายุ 18 ปี ควรต้องจบมหาวิทยาลัยได้แล้ว เพราะเด็กในวัยนี้พวกเขามีพลังมหาศาล อย่าเอาพลังของเขาไปขังไว้ในโรงเรียน เราอยู่ในยุคของคนแก่ ดังนั้น จึงต้องสร้างคนพัฒนาคนออกมาทำงานให้เร็วที่สุด วันนี้แค่เรียนอย่างเดียวไม่พอต้องทำงานไปด้วย ปริญญากับปัญญาแตกต่างกัน ปัญญาเกิดจากการลงมือทำ อดทน ล้มเหลว เรียนรู้ แต่ปริญญาเป็นเรื่องของความจำ ดังนั้น ปัญญาจึงมีความสำคัญ ตัวขององค์กรเองก็ต้องปรับตัว ลดขั้นตอน ลดขนาดไซโล และลำดับขั้น ยุคสมัยนี้องค์กรต้องแบนลงและในขั้นตอนต่างๆต้องใช้ Software เข้ามาติดตามให้รู้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆทุกวัน ยุคนี้เป็นยุคสมัยที่ต้องเร็วและต้องมีคุณภาพและต้องทำของยากให้เป็นของง่าย

สำหรับสภาเพื่อการศึกษาระดับโลก หรือ Forum for World Education (FWE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2562 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่นครบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ สหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อระหว่างระบบการศึกษากับการทำงานให้สอดคล้องกับภาคธุรกิจ นำเสนอมุมมองด้านธุรกิจต่อการจัดการศึกษา เพื่อช่วยขับเคลื่อนและปฏิรูประบบ การศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทโลกทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การประชุมสัมมนานี้จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2562 จัดครั้งแรกที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส และในปีนี้มาจัดที่ประเทศไทย โดยจัดทั้งในรูปแบบ Online และ On site โดย Online ลงทะเบียนรับชมได้ที่ www.fwe 2022.com


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ