เป็นหนึ่งในเวิร์กกิ้งวูแมนที่ไม่ยอมอยู่นิ่งและมีความสามารถรอบตัว “ลักขณา เชาว์วิศิษฐ” ได้สร้างธุรกิจจากโอกาสที่มองเห็นช่องทางการตลาด โดยเฉพาะตลาดออนไลน์ ทำงานโดยใช้ความจริงใจในการทำธุรกิจ เพื่อสร้างความไว้วางใจที่จะนำไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน

ลักขณา หรือ แตงกวา ผู้บริหารสาวที่ดูแลกิจการถึง 3 บริษัท ได้แก่ Wa Theater Premium Fruits นำเข้าอาหารและผลไม้พรีเมียมของญี่ปุ่น ที่ส่งตรงจากฟาร์ม, Kin all gen ผลิตภัณฑ์นำเข้าของใช้เด็กและคุณแม่จากประเทศญี่ปุ่น และสุดท้าย Number 3 bangkok ร้านกระเป๋าหนังจระเข้ ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ แตงกวา เล่าว่า พอ แตงกวา จบการศึกษาปริญญาโท University of Washington สาขา International studies (รัฐศาสตร์) ได้เข้ามาทำงานที่ บริษัทโตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด โดยตำแหน่งล่าสุด คือผู้จัดการฝ่าย Food & comsumer department ซึ่งโตโยต้า ทูโช ได้จัดงาน “TOYOTSU JAPAN FESTIVAL” (โตโยสึ เจแปน เฟสติวัล) เทศกาลสินค้าและอาหารจากประเทศญี่ปุ่นครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้ แตงกวา ได้รู้จักกับบริษัทที่ส่งผลไม้จากฟาร์มโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ แตงกวา ชอบในคอนเซปต์นี้ เลยมาชวน ป้าตือ–สมบัษร ถิระสาโรช และ พี่โอปอล์–ปาณิสรา อารยะสกุล มาร่วมหุ้นกันทำ Wa Theater Premium Fruits เพราะเราเห็นว่าเป็นสินค้าที่ดี คือเราซื้อผลไม้โดยที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซื้อจากฟาร์มที่ญี่ปุ่นเลย เราเริ่มทำเมื่อปลายปี 2559 ขายผ่านออนไลน์ ไอจี : wa_theaterthailand และเวลาใกล้ๆกัน แตงกวา ก็ได้ชวน คุณเปิ้ล–ภารดี อยู่ผาสุข ซึ่งเราเป็น คุณแม่ด้วยกันทั้งคู่ ทำธุรกิจนำเข้าของใช้ เด็กจากญี่ปุ่น Kin all gen เพราะแตงกวาเคยไปอยู่ญี่ปุ่น ชอบที่เขามีเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับคุณแม่เยอะมาก เพราะเขาไม่มีพี่เลี้ยง เราเลยนำเข้าของใช้ที่ค่อนข้างพรีเมียม วางขายที่พารากอน ดีพาร์ทเม้นสโตร์, เอ็มโพเรียม และเอ็มบาสซี
...
สำหรับธุรกิจน้องใหม่ล่าสุดของสาวเก่งคนนี้ เธอบอกว่า ธุรกิจกระเป๋าหนังจระเข้ Number 3 bangkok แตงกวา ร่วมทำกับ ป้าตือ เพิ่งเริ่มทำไม่นาน ด้วยความที่เรารู้จักโรงงานผู้ผลิต เราได้มาคุยกันว่า ที่จริงราคากระเป๋าหนังจระเจ้จริงๆไม่ได้สูงเหมือนที่ท้องตลาดทำราคากัน เราน่าจะทำกระเป๋าในราคาที่สามารถจับต้องได้ และได้หนังที่ดีจริงๆ เพราะอยากให้คนได้ใช้ของดีๆ เลยลองทำแบบที่ไม่ได้เยอะมาก เราเลือกแบบที่ใช้ได้ตลอดเวลา สีมีค่อนข้างเยอะ โดยขายผ่านทางไอจี : number3bangkok

“พอมาทำธุรกิจของตัวเอง ทำให้กวา ไม่มีเวลา เลยต้องออกจากโตโยต้า ทูโช มาลุยงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ธุรกิจผลไม้และกระเป๋าหนังจระเข้ เราขายทางออนไลน์มาตั้งแต่ต้น เจอวิกฤตินี้เราจึงไม่กระทบมาก ส่วนของเด็กก็ยังคงเก็บได้ในสต๊อก ในการทำธุรกิจ กวา เราต้องยึดหลักจริงใจต่อผู้บริโภค แต่เราพยายามสื่อสารกับผู้บริโภคว่า คุณได้สินค้าเกรด A จริงๆ แล้วจะพยายามแจกแจงให้ผู้บริโภคเข้าใจ ทำไมแพง ทำไมถูก แล้วของ กวา ยึดหลักเปลี่ยนได้ 100% เพราะเรามีส่งออนไลน์ อย่างผลไม้ ลูกค้าแทบจะไม่ได้มาเลือกหน้าร้านเลย ลูกค้าให้เราส่งเองตลอด เพราะฉะนั้นลูกค้าต้องมั่นใจเราระดับหนึ่ง ที่ให้เราเลือกผลไม้ที่ค่อนข้างแพง ความจริงใจจึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ นอกจากนี้ เรื่องราคาก็มีความสำคัญ ถ้าราคาแพงมาก เขาก็ครั้งเดียว ไม่มีการต่อเนื่อง ถ้าเราอยากได้ความยั่งยืน ต้องทำคุณภาพให้ดี ในราคาที่เหมาะสมค่ะ” ...นักธุรกิจรุ่นใหม่ บอกถึงแนวทางการทำงาน.
