ระหว่างทั่วโลกกำลังรับผลกระทบหนัก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนการเดินทางลดลงวูบและสายการบินต่างๆทยอยเลิกบินชั่วคราว รวมทั้ง การบินไทย ซึ่งลือสนั่นว่าอาจจะต้องปิดกิจการ แต่ระหว่างกำลังระส่ำระสาย ก็มีพนักงานที่ไม่สนใจว่า การบินไทยจะอยู่หรือไป อาทิ คุณนก–นัจ อรรถโสภากุล คุณขนม–ปวริกา ศวิตวาต และทีมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งไม่ได้บินทำงาน แต่สมัครเป็นทีม ลูกเรือจิตอาสา ไปช่วยงานที่สุวรรณภูมิ ซึ่งมีผู้โดยสารจำนวนมาก เข้าคิวรอที่นั่ง ทุกครั้งที่ประกาศเรียกชื่อผู้โดยสาร บรรดาพนักงาน และผู้โดยสารที่ยืนสแตนด์บาย จะปรบมือดีใจด้วยแบบช่วยลุ้น
มีเหตุการณ์ ที่ คุณนก และทีมงานประทับใจมาก เพราะ 2 สาวเยอรมันพี่น้องที่มาเที่ยวเมืองไทย ถูกเที่ยวบินขากลับสายการบินอื่นเท มีแต่การบินไทยที่ยังบินไปแฟรงก์เฟิร์ต 2 สาวจึงมาสแตนด์บาย จนถึงคิว หลังตรวจเอกสารครบ คุณขนม รีบพาไปจ่ายเงินแต่เงินไม่พอ คุณขนม จึงพาไปถอนเงิน ATM แต่ใช้การ์ดทุกใบ กดเงินแต่ไม่สำเร็จ 2 สาวจึงตัดสินใจเดินไปหาผู้โดยสารอื่นที่ยืนรออยู่เพื่อขอยืมเงิน ซึ่งก็มีคุณลุงชาวเยอรมัน ที่โดนเทจากสายการบินอื่นเหมือนกัน และเพิ่งจ่ายเงินค่าบัตรให้ครอบครัวของตัวเอง 4 คน แสดงน้ำใจกับเพื่อนร่วมชาติที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน จ่ายเงินให้ทันที คุณขนม ก็รีบพากลับมาที่เคาน์เตอร์เช็กอิน เพื่อ load กระเป๋าเดินทาง แต่ 2 สาวบอกว่า backpack ถือขึ้นเครื่องได้ แต่มีจักรยาน 2 คันที่เอามาเพื่อปั่นจักรยานเที่ยวภาคใต้--แต่จักรยาน 2 คัน ยังไม่ได้แพ็กเพื่อโหลด และขลังกว่านั้นคือที่แฮนด์มีพวงมาลัยแห้งๆห้อยไว้
...

2 สาวบอกว่ามีเครื่องมือแพ็กจักรยานได้ภายใน 10 นาที แต่ ณ เวลานั้น Boarding Gate เชิญผู้โดยสารขึ้นเครื่องแล้ว แต่ 2 สาวยังอยู่หน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าถ้าจะให้แพ็กจักรยาน คงตกเครื่องแน่ๆ จึงต้องขอให้เลือกว่าจะยอมตกเครื่อง หรือจะเดินทาง โดยไม่มีจักรยาน 2 สาวจึงตัดสินใจที่จะทิ้งจักรยานไว้ที่สนามบิน ระหว่างไปเกท เจอฝรั่งชายหญิงคู่หนึ่ง 2 สาวจึงหยุดพูดคุยอยู่สักพัก ทำให้ลูกเรือทราบว่าฝรั่งชายหญิง ซึ่งจะบินกลับวันพรุ่งนี้ มีน้ำใจอาสาเอาจักรยานกลับไปให้ เพราะรู้ว่าเป็นจักรยานคู่ใจ ที่เดินทางกันมาหลายทริป และมีคุณค่าทางใจกับ 2 สาวมาก
คณะพนักงานจิตอาสาจึงแนะนำว่า ต้องไปแพ็กที่ไปรษณีย์ โดยคณะลูกเรือช่วยกันเข็นไปให้ แล้วพบว่าต้องมีอุปกรณ์ถอด ถึงจะแพ็กใส่กล่องได้ คุณขนม จึงโทร.หาสามีซึ่งชอบขี่จักรยาน ให้เอาอุปกรณ์มาถอดให้และแพ็กจักรยาน ระหว่างรอก็ได้ทราบว่า ฝรั่งชายหญิงคู่นั้นอยู่ออสเตรเลีย เพิ่งเจอกับ 2 สาวเยอรมันเมื่อวานแถวๆสนามบิน เห็น 2 สาวจูงจักรยานมาด้วย เลยคุยกัน เพราะชอบขี่จักรยานเหมือนกัน แล้วมาเจอกันอีกที ตอนที่ 2 สาวกำลังจะขึ้นเครื่อง
ลูกเรือจึงถามว่าแล้วจะเอาจักรยานไปให้สาวเยอรมันยังไงคนละทวีป แต่ 2 ออสซีบอกว่า คุยกันไว้แล้วว่า จะนัดไปปั่นที่ออสเตรเลีย หรือไม่ที่เยอรมัน เพื่อจะได้ส่งมอบจักรยานกัน ซึ่งเขาเชื่อว่า ความรักจักรยานเหมือนกัน น่าจะทำให้ได้เจอกันอีก แม้จะมีแค่ชื่อของ 2 สาวเยอรมัน แต่คงจะติดต่อกันได้ผ่านเว็บไซต์สำหรับคนปั่นจักรยาน
พอแพ็กจักรยานเสร็จ ต้องจ่ายเงิน 700 และค่าฝากจักรยาน 2 คันอีก 300 บาทต่อวัน 2 ออสซีทั้งคู่ก็เงียบ เพราะมีเงินเหลือไม่เยอะ จึงบอกว่าจะขนจักรยานกลับไปโรงแรม ซึ่งจักรยาน 2 คันก็ใหญ่ จะขนลำบาก คุณกบ–เบญจมาศ พุ่มศิริ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เลยจ่ายค่าฝากจักรยานให้
เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่เหมือนถูกจับมาวางในจังหวะที่เหมาะอย่างไม่น่าเชื่อ แต่จิ๊กซอว์ตัวสำคัญคือความรักการบินไทย ที่ทำให้ทุกคนมาเจอกัน และช่วยกันแก้ไขปัญหาได้เป็นเปลาะๆ--1 พ.ค.63 นี้ คุณนก คุณขนม บอกกับทุกคนว่า ป้าม่วง ก็จะอายุครบ 60 ปีแล้ว ชาวการบินไทยแค่อยากจะบอกคนไทยว่า ป้าม่วง จะทำหน้าที่ของตัวเองที่มีต่อผู้โดยสารในนามของประเทศไทย ในฐานะสายการบินแห่งชาติให้ดีที่สุด.
โสมชบา