ก่อนที่โควิด-19 จะสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก ปลายปีก่อน อากง สั่ง คุณนก-พงศ์พันธ์ ตั้งสะสม ว่า เราต้องไปขอบคุณ เจ้าพ่อกวนอู ที่เมืองลั่วหยางกันได้แล้ว เพราะก่อนนั้น 5 ปี ไปขอพรให้ท่านช่วยให้มีการทำบางเรื่องให้สำเร็จ คุณนก จึงคุยกับทัวร์เพื่อจัดโปรแกรม และสิ่งที่คิดคือไปทั้งทีต้องไปให้คุ้มและไปขอพรเพิ่ม ก็เลยจัด 3 เมืองรวดคือ ปักกิ่ง ลั่วหยาง ซีอาน กำชับทัวร์ว่าให้ไปสถานที่สวยงามทั้งหมด ทริปนี้จึงบินกระจาย นั่งบิสซิเนสไป 15 ที่ อีก 7 ที่เป็นอีโค่ โดยบินไปลงที่ปักกิ่งแล้วนั่งรถไฟที่นั่งวีไอพี ไปลั่วหยาง นอนโรงแรม 11 ดาว (ซึ่ง คุณนก นับจากดาวที่ธงและดาวที่ รร.รวมกัน)
แต่พอไปถึงจริงปลายปี อากาศติดลบ หนาวมาก จะไปไหว้เจ้าแต่ละที หนาวจับขั้วหัวใจ โปรแกรมที่ตั้งไว้จึงถูกตัดออกเรื่อยๆตามสภาพอากาศ เหลือที่ไปขอพรเฉพาะที่อยากขอจริงๆ

พอต้องเดินทางจากปักกิ่ง โดยรถไฟไปลั่วหยางปรากฏว่ากระเป๋า และของทุกอย่างต้องยกเองหมด แถมรถบัสก็จอดห่างทางเข้าสถานีเกือบกิโลเมตร ด้วยอากาศที่เกือบ -10 และมีลม ทุกคนลากกระเป๋าไป ตะโกนด่าทัวร์ไป แต่ต้องเลิกด่าเพราะอ้าปากมากก็ลิ้นแข็งเพราะอากาศหนาว แถมเพราะมัวแต่โอ้เอ้ เพราะกลัวหนาวจึงตกรถไฟขบวนแรก ต้องตั้งหลักกันใหม่ทั้งครอบครัว 20 กว่าคน มีทั้งเด็กและคนแก่ คุณนก หัวหน้าคณะ เลยต้องบอกทัวร์ให้ไปหาคนลากกระเป๋ามาให้ โดยยอมจ่ายใบละ 50 หยวน สรุปโดนค่ายกกระเป๋าไปบานตะไท แต่ด้วยความที่อยากสบายเลยต้องยอมวะ
...
ที่ไหนได้ ได้สบายไม่นานพอรถไฟซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชม. ไปถึงลั่วหยาง พอใกล้ถึงก็พบว่าต้องจัดการกระเป๋าเองทั้งหมดตอนลง เพราะจ้างเฉพาะตอนยกขึ้น เลยต้องวางแผนอีกว่าใครต้องอยู่จุดไหน เพราะมีเวลาแค่ 1 นาที ที่รถไฟจอด ซึ่งกระเป๋าทุกใบพร้อมคนต้องลงไปครบ ไม่งั้นจะติดรถไฟไปไหนต่อไม่รู้ชะตากรรม คุณนก จึงต้องติดต่อทัวร์ที่ลั่วหยางอีก เพื่อให้ส่งคนมารับ โดยยอมจ่ายเงินค่ายกกระเป๋ารอบสอง
แต่ด้วยความพยายามและตั้งใจไปไหว้องค์พ่อกวนอู ในที่สุดทุกอย่างก็สำเร็จ แม้กว่าจะไปถึงสาหัสมากและเหนื่อย แต่พอได้ไหว้ทุกอย่างก็ดีขึ้น และการไปครั้งนี้ ก็ตั้งใจไปอัญเชิญท่านมาเมืองไทย เพราะ 5 ปีที่แล้ว บอกท่านไว้ คุณนก เลยเช่ามา 2 องค์ องค์ละ 200,000 บาท ตอนแรกก็คิดว่าจะอัญเชิญมาดีไหม และจะกลับยังไง เพราะต้องกลับรถไฟ กระเป๋าเดิมก็มากแล้ว แต่ด้วยความที่ตั้งใจก็จัดการเอาลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แยกส่วนกลับมาจนได้ โดยตอนจะกลับตัดโปรแกรมออกหมด เพราะอากาศหนาวมาก หิมะเริ่มมา บางคนเริ่มเป็นไข้ ดีที่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีโคโรนา
พอกลับมาถึงไทย หลายคนก็เป็นไข้หวัดใหญ่ตามๆกันทันที พอเริ่มมีข่าวโคโรนาทุกคนเริ่มโทร.หากันระงม และบอกว่าโชคดีมากที่เราไปก่อนและกลับมาก่อน ไม่งั้นไม่มีทางได้อัญเชิญองค์กวนอูและกูเองกลับมาแน่

คุณนก บอกว่า โชคดีมากที่ตัดสินใจไปตามที่ อากง สั่ง และยอมหนาว เพราะกลับมา คุณนก ได้ลาภแบบฟลุกๆก้อนโตมากๆเหมือนถูกรางวัลที่ 1--รอไวรัสหยุด จึงตั้งใจจะกลับไปไหว้อีก และจะไปที่ที่ยังไม่ได้ไป เพราะตอนนั้นผัดเจ้าไว้ว่า ลูกช้างขอไปคราวหน้า เพราะหนาวจนจะแข็งตาย
อ่านเรื่อง คุณนก แล้วหวังว่าทุกท่านที่กำลังจะประสาทเสีย หรือเสียไปแล้ว คงพอขำออกบ้างนะคะ เพราะคนเขียนก็ชักจะอาการแย่จนต้องเลิกอ่านไลน์ 90% จนจากที่เครื่องบอกว่า ใช้เวลากับหน้าจอวันละ 5 ชั่วโมง กลายเป็นเหลือ 15 นาที โดยทำใจว่า ถ้าติด ก็รักษาไป.
โสมชบา