ปี 2024 ถือเป็นปีทองของ “โปรจีน–อาฒยา ฐิติกุล” นักกอล์ฟสาวมือหนึ่งของไทย วัยย่าง 22 ปี ที่ทำผลงานท็อปฟอร์มสุดๆ โดยคว้าแชมป์ 2 รายการรวดในแอลพีจีเอทัวร์ ทั้งศึก “Dow Championship” ทัวร์นาเมนต์ประเภททีม 2 คน ที่จับคู่เพื่อนชาวจีน “หยิน รั่วหนิง” พร้อมคว้าแชมป์จาก “CME Group Tour Championship” ขึ้นแท่นเป็นก้านเหล็กสาวที่น่าจับตามองที่สุดในโลก โดยเป็นผู้ทำเงินสูงสุดของแอลพีจีเอทัวร์ 2024 รวมกวาดรายได้ทุกรายการไป 7.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (251 ล้านบาท)
ในขณะที่สปอตไลต์ทุกดวงกำลังจับจ้องมาที่ “โปรจีน” ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีโอกาสได้สัมภาษณ์ “โปรจีน” ในฐานะ “Rolex Testimonee” คนแรกของไทย ถึงเบื้องหลังความสำเร็จ, การรับมือกับความท้าทายทางจิตใจ, Work-Life Balance สไตล์โปรจีน และคำแนะนำดีๆสำหรับนักกอล์ฟรุ่นใหม่
“ตอนที่กำลังจะขึ้นเป็นมือหนึ่งในแอลพีจีเอทัวร์ จีนรู้ก่อนอาทิตย์หนึ่ง ถามว่ารู้สึกยังไง ตื่นเต้น หรือดีใจมันก็มี จำได้ว่าเราโทร.หารุ่นพี่คนหนึ่ง แล้วเขาบอกว่าก็ไม่เห็นต้องรู้สึกอะไร เพราะเราไม่ใช่มือหนึ่งคน เดียวในโลก มีคนขึ้นมาเยอะแล้ว เออมันก็จริง มันไม่ใช่เราคนเดียวที่เคยขึ้นมาก่อน มันมีคนที่อยู่มานานมาก อยู่มาเยอะ ขึ้นมาเยอะก็มี พอเป็นมือ หนึ่งโลกได้อาทิตย์หนึ่งก็ไม่ได้รู้สึกอะไรจริงๆ โอเคมันคงมีชื่อติดว่าจีนเป็นนักกอล์ฟหญิงมือหนึ่งของโลก แต่ในพาร์ตของเรา จีนก็ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม พยายามพัฒนาตัวเองในทุกๆ วันเหมือนเดิม แล้วก็เป็นจีนคนเดิม ที่ไม่ว่าแรงกิ้งขนาดไหน เราก็ไม่ลืมพาร์ตที่เราต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งโลก หรือเป็นมือเท่าไหร่ เราก็ต้องพัฒนาตัวเองไม่หยุด ถามว่ากดดันไหม ก็คงมีเวลาลงแข่ง ใครบอกว่าไม่กดดันก็โกหกแล้ว มันจะมีตลอด แบบวันหนึ่งมันดีแล้วอีกวันไม่ดี มันเป็นเรื่องธรรมดาของกอล์ฟ จีนรู้สึกว่าในพาร์ตที่เราทำดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปคาดหวังอะไร เพราะเราก็ทำมันออกไปได้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปคาดหวังว่าต้องทำให้ดีๆๆๆตลอด มันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราพอใจกับทุกๆอย่างที่เราทำออกไปในทุกๆวันหรือยัง เพราะมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ บางคนก็แบบอยากเป็นมือหนึ่งตลอด บางคนรู้สึกว่าทำแค่เนี้ยก็ประสบความสำเร็จในโกลของเขาแล้ว”...“โปรจีน” บอกเล่าถึงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา
...
ถูกยกเป็นนักกอล์ฟน่าจับตามองที่สุดในโลกปี 2025 รู้สึกยังไง
จีนมองว่าเป็นช่วงเวลาของความท้าทาย จีนไม่คิดว่านักกีฬาคนไหนจะประสบความสำเร็จง่ายๆตั้งแต่วันแรก จีนเริ่มเล่นกอล์ฟตอนอายุ 6 ขวบ ใช้เวลามากกว่า จะมาถึงจุดที่ยืนอยู่ตอนนี้ ชีวิตจีนมันเหมือนรถไฟเหาะ เรามีอาชีพที่ขึ้นจริงๆแล้วก็มีอาชีพที่ลงจริงๆ แต่ขาลงของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป จีนคิดว่าจีนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ต้องเผชิญกับความกดดันจากสื่อ, แฟนๆ และตัวเอง เอาเป็นว่าจนถึงขณะนี้มันก็ยังคงเป็นอาชีพที่ดีจริงๆ แม้จะเดินทางมาไม่ถึงครึ่งทางก็ตาม

รับมือกับแรงกดดันยังไงเวลาที่รถไฟเหาะตีลังกาลง
ก็มีในช่วงที่แบบรับมือได้ดี แล้วรับมือไม่ได้ดี จีนเจอแรงกดดันมาแบบเร็วมาก ตั้งแต่ตอนร่วมทีมชาติไทยแข่งเอเชียนเกมส์และซีเกมส์ แล้วก็มีในช่วงที่รับมือไม่ดีเลย จีนก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ เรียนรู้จนมาถึงเทิร์นโปร (ปี 2020) พอเป็นโปรปุ๊บก็มีแอทเทนชันเข้ามาเยอะ จีนรับมือดีบ้างไม่ดีบ้างสลับไปเรื่อยๆ พอมองในอีกจุดๆหนึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่เจอเร็ว เวลารับมือก็ไม่ได้แบบไม่รู้จะรับมือยังไง จีนรู้สึกว่าเราต้องทำทุกวันทุกโมเมนต์ที่เรามีให้ดีที่สุด โฟกัสกับสิ่งที่มี จีนเชื่อว่านักกีฬามีขึ้นแล้วก็มีลง เป็นเรื่องปกติ เวลาที่มันขึ้นอยู่ เราก็ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะทำได้ คือโมเมนต์นั้นพอใจกับทุกๆสิ่งที่ได้ทำออกไป จีนว่านั่นเป็น Self-Care (การดูแลตนเอง) ที่ทำได้ดีที่สุดเวลามีความกดดัน ไม่ว่าเราจะรับมือกับมันได้ดีหรือไม่ดี
มีโมเมนต์ไหนในอาชีพที่ประทับใจเป็นพิเศษ
มีช่วงเวลาโปรดมากมาย เช่น ตอนเริ่มเล่นกอล์ฟใหม่ๆ หรือตอนได้ 2 เหรียญทองจากการแข่งขันซีเกมส์ ซึ่งจีนเพิ่งอายุ 14 ปี มัน เป็นช่วงเวลาที่พิเศษ เพราะเป็นปีแรกที่จีนได้ร่วมทีมชาติไทย ตอนลงแข่งรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ แต่ก็ยังสามารถคว้า 2 เหรียญทองมาได้ มันจึงเป็นโมเมนต์พิเศษจริงๆอีกช่วงที่พิเศษคือตอนเทิร์นโปร และได้ชัยชนะครั้งแรกจากการแข่งขันในแอลพีจีเอทัวร์ ซึ่งมันพิเศษมากๆ คนมักพูดกันว่าชัยชนะครั้งแรกเป็นอะไรที่ยากที่สุด และมันยากที่สุดจริงๆ
การแข่งขันครั้งไหนที่ได้เรียนรู้มากที่สุด
ทุกการแข่งขันทำให้ได้เรียนรู้หมด แต่อันหนึ่งที่อยากขอบคุณจนถึงทุกวันนี้ คือปีที่ไม่ได้แชมป์!! ทุกคนก็จะแบบน่าเสียดาย แล้วมันก็มีโมเมนต์เกิดขึ้นเยอะ จีนขอบคุณตัวเองในวันนั้น ขอบคุณที่จีนไม่ได้แชมป์ เพราะถ้าวันนั้นจีนได้แชมป์ ก็ไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองในแอลพีจีเอทัวร์จะเป็นยังไง แต่พอไม่ได้แชมป์ จีนต้องพยายามทำทุกอย่าง เริ่มหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกทาง เพื่อจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแอลพีจีเอทัวร์ มันทำให้เรามีประสบ การณ์เยอะขึ้นจริงๆ ดีกว่าถ้าชนะไปตอนนั้น ได้เข้าไปตั้งแต่ตอนนั้น จีนอาจจะทำไม่ได้ดีขนาดนี้ การที่เราไม่ชนะก็เป็น ไปได้ว่า มันยังไม่ใช่วันและเวลาของเรา มันเลยทำให้จีนต้องไปที่อื่นก่อน ไปลำบากก่อน
เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดบ้าง
เยอะมากค่ะ เยอะมากจริงๆ การที่เราล้มมันทำให้ไปได้เร็วและดีกว่าตอนที่เราสำเร็จ ใช่มันจะมีช่วงแบบพอยิ่งชนะเยอะก็ยิ่งทำให้เราเสพติดการชนะ จีนเคยเป็นคนคนนั้นที่เสพติดการชนะ จนแบบเวลาแพ้แล้วมันดาวน์มากๆ ทั้งที่ผลงานดีมากเลยนะ แต่แพ้แล้วมันดาวน์มากๆ ทำไมเมื่อไหร่จะชนะสักที ชนะเกินไปมันแบบพอตอนล้มจะรู้สึกดาวน์กว่าคนอื่น ทั้งๆที่ไม่ได้ล้มอะไรขนาดนั้นเลย
...

นักกอล์ฟอาชีพมี Work–Life Balance ไหม
Work-Life Balance เป็นสิ่งสำคัญมากๆที่ต้องมี จีนว่าคนเราเวิร์กเต็มที่ได้ แต่ให้เวิร์กตลอด 24 ชั่วโมง คงไม่ได้ มันจะเบิร์นเอาต์ (หมดไฟ) เมื่อก่อนจีนเป็นคนที่แบบซ้อมเยอะมากๆ ต้องตั้งใจซ้อม ต้องไปให้ถึง ใส่สุดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย แต่เริ่มคิดว่าเราอาจลืมคิดถึงเรื่องสุขภาพและร่างกายไป จริงๆร่างกายเรามันก็เครียดไป เวลาทำงานจีนพยายามแยก โดยจะเวิร์กกับสปอนเซอร์ให้เรียบร้อย เช่น การร่วมงานกับโรเล็กซ์เป็น “Rolex Testimonee” คนแรกของไทย ซึ่งจีนรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ แล้วค่อยไปซ้อมให้แบบสุดๆเต็มที่ไปเลย จะได้ไม่ต้องกังวลอะไร ถามว่าชอบทำอะไรในเวลาส่วนตัว ก็เข้าฟิตเนส, ดูซีรีส์ และหาของอร่อยๆกิน
ขอเคล็ดลับความสำเร็จของโปรจีนที่อยากแบ่งปัน?
นักกอล์ฟมีกุญแจความสำเร็จมากมาย แต่ว่าการทำงานหนักเป็นสิ่งจำเป็นแน่นอน จีนชอบทำงานหนัก และค้นพบว่าการทำงานอย่างชาญฉลาดก็เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ จีนต้องฝึกซ้อมหนักวันละ 8-10 ชั่วโมง และพบว่าคุณภาพควรมาก่อนปริมาณ นักกอล์ฟและนักกีฬาต้องใช้ร่างกายมาก คุณต้องดูแลร่างกายของคุณ และสมองของคุณ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือทีมงาน ที่คอย ซัพพอร์ตคุณทุกเรื่อง ไม่ว่าคุณจะเล่นดีหรือไม่ดี คำว่าทีมงาน จีนหมายถึงครอบครัว, ผู้จัดการ, โค้ช และแคดดี้
...

ก่อนลงแข่งเตรียมจิตใจยังไง
จีนฟังพอดแคสต์เยอะก่อนออกไปแข่ง เป็นพอดแคสต์ประเภทฝึกสมาธิและพัฒนาตัวเองซะส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้ฟังเพลง ความท้าทายก็มีตลอด มันมีทุกวันเลยนะ แบบมันต้องสู้กับจิตใจตัวเอง ตื่นมาทุกวันนี้ก็ยังสู้กับจิตใจตัวเอง ช่วงที่ผ่านมาฝึกเรื่องเมนเทิลเยอะ เช่น ลองให้ความคิดตัวเองจากลบเปลี่ยนเป็นบวก และพยายามมีสติรู้ตัวเองในทุกๆขณะที่เดินอยู่ในสนาม คืออยู่กับปัจจุบัน
ใครคือโรลโมเดลของโปรจีน
นอกจากคุณปู่และคุณพ่อแล้ว ถ้าเป็นเรื่องกอล์ฟ จีนชอบ “ลิเดีย โค” เขาประสบความสำเร็จมาก แต่ก็ยังเป็นคนเดิมตลอดอยู่ แล้วก็เป็นรุ่นพี่ในทัวร์นาเมนต์ที่น่ารักมาก เวลามองโรลโมเดลจะไม่ได้มองแค่ว่าเขาเก่ง แต่มองรอบด้านที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวินัยที่เขามี, การวางตัวหรือนิสัย เขาเป็นคนหนึ่งที่แบบนิสัยดีมาก, มีวินัยดีแบบสุดๆและขยันมาก

...
สำหรับนักกอล์ฟหญิงรุ่นใหม่ๆมีอะไรอยากแนะนำไหม
อยากบอกว่าอย่าเทกอะไรซีเรียสเกินไป เพราะคำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีใครกำหนดว่าอะไรคือประสบความสำเร็จ อะไรคือดี แล้วก็อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร มีไอดอลได้ แต่อย่าพยายามเลียนแบบใคร อย่าอยากเป็นเหมือนจีน ให้เลือกเส้นทางของตัวเอง อย่างจีนเองก็ไม่เคยคิดว่าต้องเป็นแบบใคร เป็นเหมือนใคร เป็นอะไรยังไง เพราะจะทำให้เราไม่มีวันมีความสุข ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองดีที่สุด พอเรามองกลับมา ถึงเราจะทำออกมาได้ดีมากหรือไม่ดีมาก เราก็จะภูมิใจกับสิ่งที่เราทำอยู่ดี อยากให้เอนจอยกับอะไรที่ทำอยู่ เพราะเมื่อเราเอนจอยกับอะไร เราจะอยากทำมันออกมาให้ดีในทุกๆวัน “Be Your Own Beautiful Flower” จีนรู้สึกว่าเราเป็นดอกไม้ที่เติบโตมาแตกต่างกัน แต่สุดท้ายเราดูแลมันรดน้ำพรวนดินมัน จนสามารถเติบโตเบ่งบานในตัวของมันเอง จริงๆเราไม่ต้องดีต้องเด่นต้องดังเหมือนใคร ขอให้สวยงามในแบบของเราเองก็พอ.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ