พูดถึงทะเลสาบสงขลา นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในฐานะที่เป็น ลากูนหรือทะเลสาบเปิดที่มีทางออกติดต่อกับอ่าวไทย และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่แห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นอกจากเรื่องความสวยงามของตัว ทะเลสาบแล้ว ทะเลสาบสงขลายังถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพันธุ์ปลาในทะเลสาบสงขลามีถึง 700 ชนิด ไม่รวมสัตว์น้ำประเภทปูและกุ้งอีกกว่า 20 ชนิด...

ประเมินว่าในแต่ละปีมีการจับสัตว์น้ำจากลุ่มน้ำทะเลสาบของโครงการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาถึงประมาณ 7,000 ตัน ตีเป็นเงินก็น่าจะตกประมาณ 200 ล้านบาท

มีโอกาสลงใต้ไปเยือนสงขลาเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้รู้ว่าทะเลสาบมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชุมชนโดยรอบ เป็นทั้งแหล่งโปรตีนและแหล่งทำมาหากินของประชากรไม่น้อยกว่า 7,500 ครอบครัว ได้อาศัยทรัพยากรจากทะเลสาบทั้งพืชและสัตว์ ไม่รวมประชากรอีกกว่า 100,000 ครอบครัวที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม

ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูบ้านหัวเขา.
ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูบ้านหัวเขา.

...

ไปสงขลาคราวนี้ เป็นการไปดูความสำเร็จของการจัดตั้ง “ธนาคารลูกปู” ที่ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูบ้านหัวเขา ต.หัวเขา อ.สิงหนคร ที่พัฒนามาจากกลุ่มประมงพื้นบ้านในพื้นที่ และ ปตท.สผ.ได้เข้าไปสนับสนุนเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว เพื่อให้พี่น้องกลุ่มประมงพื้นบ้านมีอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืนและยังช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลให้มีความสมดุลอีกด้วย

อนันต์ มานิล ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้าน ป.ทรัพย์อนันต์ เล่าให้ฟังว่า กลุ่มของเขาเกิดขึ้นจากการรวมตัวของชาวประมงราว 200 คน ที่ใช้เครื่องมืออวนจมและลอบดักปูหากินในน่านน้ำทะเลสาบสงขลา ในเขต อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ และ อ.ระโนด ตอนแรกก็ใช้ระบบเดียวกับธนาคารปูทั่วไป คือ ชักชวนให้สมาชิกนำปูที่มีไข่นอกกระดองมาให้ยี หรือ เขี่ยไข่แทนการรับเลี้ยงแม่ปูจนไข่ฟักออกเป็นตัวอ่อน เพื่อย่นระยะเวลาคืนแม่ปูแก่เจ้าของ แต่หลังจากนั้นก็มาคิดกันใหม่ แทนที่จะให้ชาวบ้านเอาปูมาให้เรายี เราก็ไปสอนเขาให้ยีไข่ปูเอง ยีเสร็จก็เอามาบริจาคให้ทางกลุ่มขยายพันธุ์ต่อจนกว่าจะถึงระยะลูกปูวัยอ่อนที่พร้อมคืนสู่ทะเล

สาธิตการยี หรือเขี่ยไข่ปู.
สาธิตการยี หรือเขี่ยไข่ปู.

“คล้ายๆกับเอาทรัพย์สินคือไข่ปูนี่ละมาฝากไว้กับธรรมชาติให้มีชีวิตเติบโตต่อ สิ่งที่ได้คือ ดอกเบี้ยไม่รู้จบกับชาวประมงเราในอนาคต จากรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย มาจนถึงรุ่นพ่อ แม่ ลูก หลาน เหลน ทุกคนมีสิทธิทำมาหากินตรงนี้เป็นเจ้าของทรัพยากรตรงนี้”

ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่เป็นศูนย์เพาะฟักลูกปู แต่ธนาคารปูของกลุ่มประมงพื้นบ้าน ป. ทรัพย์อนันต์พัฒนาเป็น “ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูบ้านหัวเขา” อย่างเต็มรูปแบบ มีผู้คนแวะเวียนมาศึกษาดูงานตลอด โดยแบ่งพื้นที่เป็นห้องอบรมและจัดนิทรรศการมีชีวิตควบคู่ไปกับโรงเพาะฟักและอนุบาลลูกปู

ปล่อยลูกปูสู่ทะเล.
ปล่อยลูกปูสู่ทะเล.



“ใครที่มาที่นี่นอกจากมาเที่ยวทะเลสาบสงขลาแล้ว ถ้ามาที่ธนาคารของเราจะได้ตักลูกปูจากบ่อเพื่อศึกษาของจริงไปพร้อมกัน มานอนที่นี่ 1 คืน จากไข่ปูจะกลายเป็นลูกปูจำนวนมหาศาล” อนันต์บอก

แม่ปู 1 ตัว ที่น้ำหนักประมาณ 1-2 ขีด จะผลิตไข่ได้ 700,000-1,000,000 ฟอง หากแม่ปูมีสุขภาพดีจะยิ่งผลิตไข่ที่แข็งแรง ไข่จะแยกเป็นเม็ดเดี่ยวและมีอัตราการฟักเป็นตัวอ่อนสูงเฉลี่ย 600,000 ตัว หรือหากแม่ปูมีน้ำหนัก 2-3 ขีดจะผลิตไข่ได้ราว 1,800,000 ฟอง และมีอัตราการฟักเป็นตัวอ่อนสูงเฉลี่ย 1,000,000 ตัว

...

ทริปพวกเราปล่อยปูตอนเช้า แล้วก็กินปูกันแบบหรอยจังฮู้ในตอนเย็น....

ดูพื้นที่แหล่งปิโตรเลียม.
ดูพื้นที่แหล่งปิโตรเลียม.

คุณประพนธ์ จารุไสลพงษ์ ผู้จัดการอาวุโส ฐานสนับสนุนการพัฒนาปิโตรเลียม ปตท.สผ.บอกกับ เราว่า นอกจากสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยแล้ว เรายังต้องทำโครงการเพื่อสังคม ซึ่งยากมากที่จะทำโครงการให้ตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ทุกกลุ่ม

แต่สำหรับธนาคารลูกปูเกิดขึ้นได้เพราะความใกล้ชิดกับชุมชนในพื้นที่ ทำให้เราทราบถึงปัญหาของ พี่น้องชาวประมงจากปัญหาปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลง จึงเข้าไปส่งเสริมในการพัฒนาประมงอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมจัดตั้งเครือข่ายอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลในจังหวัดสงขลา ปัจจุบันศูนย์เพาะฟักลูกปูบ้านหัวเขากลายเป็นที่ศึกษาดูงานและศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการประมง สถานที่ฝึกอบรมเกี่ยวกับการเพาะฟักลูกปู ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัดสงขลา

พลังชุมชน...สู่ความสำเร็จ.
พลังชุมชน...สู่ความสำเร็จ.

“ตั้งแต่ปี 2556 เราปล่อยลูกปูคืนสู่ธรรมชาติไปแล้วกว่า 500 ล้านตัว คืนความอุดมสมบูรณ์แก่ธรรมชาติ ทำให้เศรษฐกิจชุมชนแข็งแรง” ประพนธ์บอก

ทุกวันนี้ชาวบ้านที่นี่มีแต่รอยยิ้ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน ชาวประมงจับปูม้า ปูดำ ปูเสือ ได้มากกว่าเดิมหลายเท่า บางคนจับปูได้วันละ 1,000 กิโลกรัมต่อลำ มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี

ปูทะเลตัวโต...เนื้อหวาน.
ปูทะเลตัวโต...เนื้อหวาน.

...

จากความสำเร็จเล็กๆ กลายเป็นการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ นอกเหนือจากช่วยอนุรักษ์ไม่ให้ปูสูญไปจากทะเลแล้ว นับจากนี้เชื่อแน่ว่าอนาคตบ้านหัวเขา สิงหนคร จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของจริงๆที่เนื้อหอมไม่เบาเลยล่ะ...!!