ชูใจ...บรรจงเทน้ำร้อนต้มเดือดจากเตาถ่าน ไอกรุ่นของน้ำร้อนๆกระทบกับกาแฟคั่วสด กลิ่นกาแฟจางๆลอยเตะจมูก
“ชูใจเลือกแบบอ่อนๆให้ชิมก่อน แต่ถ้าชอบเข้มเดี๋ยวชงให้ใหม่นะจ๊ะ”
ไม่ใช่แค่กาแฟเท่านั้นหรอกที่โดนใจ แต่ทั้งคำพูดและรอยยิ้มของคนชงกาแฟต่างหาก ที่ทำให้บทสนทนาในวันฟ้าครึ้ม ช่างอ่อนหวานและงดงาม

ชูใจ...เป็นคนขายกาแฟที่เงียบๆ พูดน้อยแต่ยิ้มเยอะ แถม...ร้านกาแฟของเขายังโดนใจคนบ้านๆอย่างเราๆ คุณคงไม่เคยเห็นหรอก...กาแฟหาบไม้คานที่แขวนกระบุงไม้ไผ่ไว้ทั้งสองด้าน ที่คนทางภาคเหนือเรียกว่า“เปี้ยด”
เราเจอ ชูใจ ที่บ้านของน้าจิ๋ม ระหว่างทางไปปาย โดยการแนะนำของ เอ...ปาริชาติ บุญคล้าย ผอ.กองตลาดภาคเหนือ ททท.
ปกติชูใจจะขายกาแฟทุกวันอาทิตย์ที่ตลาดนัด Rustic บริเวณเจเจมาร์เก็ต ไม่ห่างจากตลาดนัดเกษตรอินทรีย์ของเชียงใหม่ แต่บังเอิญวันนี้เราโชคดี ที่ชูใจแวะมาหาน้าจิ๋ม
...

ไม่ใช่แค่หน้าตาของร้านกาแฟที่เป็นแค่หาบและกระบุงวางกับพื้นเท่านั้น ที่เชื้อเชิญให้ผู้คนลงนั่งล้อมวงจิบกาแฟของชูใจ แต่ด้วยบุคลิกของคนขายกาแฟที่แต่งกายด้วยชุดม่อฮ่อม สวมหมวกงอบ วางกระจาดไว้ตรงหน้า ให้ลูกค้าจ่ายเงินตามความพึงพอใจ ก็ถือเป็นการสร้างแบรนด์สินค้าแบบธรรมดาๆ แต่โดนใจไปอีกแบบ
“ถ้าใครเป็นลูกค้าของเรา เขาก็จะนั่งลงเอง” ชูใจบอก ขณะที่มือก็ชงกาแฟผ่านแท่นดริปรอน้ำหยดอย่างช้าๆ แบบใจเย็น

เขาเล่าว่า ปลูกกาแฟเอง ที่บ้านใน ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นกาแฟออร์แกนิก ปลูกในผืนป่าร่มครึ้มที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี
“ถ้าพี่ชอบเข้มๆเดี๋ยวชงให้ใหม่ อันนี้จะเข้มกว่า” เขาบอกพร้อมกับหยิบกาแฟคั่วขวดใหม่ใส่แท่นดริป แล้วค่อยๆบรรจงเทน้ำร้อนลงไป
“ดีกว่ามั้ย กินกับขนมกลีบลำดวนของน้าจิ๋ม เข้ากัน”

กินกาแฟมาทั่วโลก ไม่มีความสุขเท่ากาแฟในถ้วยดินเผาเล็กๆของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า นี่กระมังที่เป็นที่มาของชื่อ “choojai coffee” กาแฟที่ชุบชโลมใจคนดื่มในทุกๆครั้ง
คุณอาจจะมีเงินพอที่จะดื่มกาแฟแก้วละหลายร้อยบาทในโรงแรมหรูหรา หรือร้านกาแฟบนยอดตึก แต่เชื่อเถอะต่อให้คุณมีเงินแค่ไหน โอกาสที่จะได้กินกาแฟแบบเรียบง่าย ที่ชูใจ...เขียนป้ายหน้าหาบของเขาไว้ว่า “pay as you feel free” จ่ายเท่าที่คุณพึงใจ คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆนัก
...

ชูใจ บอกว่า เขามีความสุขและพึงพอใจกับชีวิตเรียบง่ายที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ครอบครัวของผมมีสวนกาแฟอยู่บนดอย ที่ดอยสะเก็ด บนความสูงประมาณ 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นกาแฟอินทรีย์ ที่เขาบอกว่า การปลูกกาแฟแบบนี้เป็นการคืนสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับธรรมชาติ คืนธรรมชาติให้กลับคืนสู่ดิน น้ำ และจุลินทรีย์ตัวเล็กตัวน้อยที่เคยสูญหาย

...
“กำไรของผมเหรอ ความสุขมั้ง ไม่เคยคิดว่าต้องขายได้กี่แก้ว ได้เงินเท่าไหร่ต่อวัน เคยมีเหมือนกันที่ลองตั้งราคา 60–80 บาท แต่แล้วเราก็อึดอัดเอง เหมือนมันไม่ใช่อะ ก็เลยกลับมาขายกาแฟแบบเปิดหมวก จ่ายเท่าที่คุณพอใจ”
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า ความสุขผ่านไปเร็วเหลือเกิน จิบกาแฟของชูใจ พร้อมกับมองความสงบ เรียบง่ายภายในบ้าน “งามแสงเดือน” ของน้าจิ๋ม หรือ คุณศิริงาม ยาวิราช ที่เจ้าตัวบอกว่า ตั้งชื่อบ้านนี้ด้วยตัวเอง เพราะเห็นดวงจันทร์กลมงาม ตอนที่สร้างบ้านเสร็จ

“มีคนมาขอซื้อบ้านพี่ 15 ล้าน แต่บอกว่า ให้คงทุกอย่างแบบที่เราอยู่ พูดง่ายๆคือให้ย้ายไปแต่ตัว มันไม่ได้อยู่ที่เงินนะ มันอยู่ที่ว่าทุกอย่างในบ้านหลังนี้เราใช้หัวใจทำ” น้าจิ๋ม เล่าขณะที่มือข้างหนึ่งก็คนน้ำเงี้ยวในเตาที่กำลังเดือดปุดๆไปด้วย
...
นอกจากเป็นบ้านแล้ว “งามแสงเดือน” ยังเป็นร้านขายกาแฟ งานศิลปะ งานผ้าด้นมือ งานเย็บปักถักร้อย ของทุกชิ้นที่วางในบ้าน สามารถเลือกซื้อได้

น้าจิ๋มบอกว่า เธอชอบงานเย็บปักถักร้อยที่ชอบมากเป็นพิเศษคือ เอาผ้าชาวเขามาประดิษฐ์ ร้อยลูกปัดเป็นสร้อยคอและพวงกุญแจ แรกๆก็ส่งขายตามร้านของที่ระลึกในเชียงใหม่ แต่พอทำไปนานๆของมีเยอะขึ้น ส่วนหนึ่งก็ยังคงส่งขายตามร้าน ส่งไปญี่ปุ่น ที่เหลือก็ขายอยู่ที่บ้าน ของบางชิ้นมีชิ้นเดียวในโลก เพราะทำเอง ทำอันเดียว ขายไปแล้วทำใหม่ก็ไม่เหมือนอันเดิมแล้ว
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟแบบผ่านต้องแวะ แต่เป็นการมาบรรจบกันของพลังงานความสุข ทั้งจากคนทำบ้านสวยๆ คนชงกาแฟหอมๆ และนักเดินทางที่มีจุดหมายปลายทางมากมายเหลือเกิน
งามแสงเดือน กับ กาแฟชูใจ สองสิ่งแห่งความสุข
ที่ตอบโจทย์...คำว่า ดีต่อใจได้อย่างงดงามเหลือเกิน....!!!