แอปเปิล ได้วางจำหน่าย iPad mini รุ่นที่ 6 และ iPad รุ่นที่ 9 ตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา 2 รุ่นพร้อมกัน ซึ่งได้ทดลองใช้มาสักเดือนกว่าจะขอเปรียบเทียบว่ามีจุดดีจุดด้อยและเหมาะกับการใช้งานอย่างไรรวมถึงราคาจำหน่ายด้วย เริ่มต้นจากการออกแบบทั้ง 2 รุ่น iPad mini รุ่นใหม่ออกแบบใหม่หน้าตาทรงเดียวกับ iPad Pro 12, 9 นิ้ว รุ่นที่ 5 เป๊ะ เพียงแต่ย่อส่วนหน้าจอลงมาเหลือ 8.3 นิ้ว เพียงแต่ย้ายปุ่มระดับเสียงมาไว้ด้านเดียวกับปุ่มทัชไอดีแทน หน้าจอได้ขยายชิดขอบมากขึ้นเพื่อการแสดงผลเพิ่มขึ้น มีให้เลือก 4 สี เทาสเปซเกรย์, ชมพู, ม่วง และสตาร์ไลต์ ราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาท ส่วน iPad รุ่นที่ 9 ยังคงออกแบบเหมือนรุ่นก่อนหน้า หน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว เพิ่ม smart connector เพื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ตคีย์บอร์ด (ซื้อเพิ่ม) หน้าตาเหมือนที่ใช่ร่วม iPad Air รุ่นที่ 4 และ iPad Pro มี 2 สีคือสีเงิน และ สีเทาสเปซเกรย์ ราคาเริ่มต้น 11,400 บาทการใช้ดินสอของแอปเปิลทั้ง 2 รุ่นรองรับดินสอ Apple Pencil ต่างกันโดย iPad mini รองรับรุ่นที่ 2 (ซื้อเพิ่ม 4,490 บาท) และยึดติดกับแม่เหล็กด้านบน เมื่อใช้งานจอแนวนอน ทำให้สะดวกต่อการหยิบใช้งานได้ทันที ชาร์จแบบไร้สายในตัว ทางด้าน iPad รุ่นที่ 9 รองรับดินสอรุ่นที่ 1 (ซื้อเพิ่ม 3,400 บาท) เมื่อนำไปใช้วาดรูปบนแอป Procreate ต้องยอมรับว่าการใช้งานทั้ง 2 รุ่นแทบไม่แตกต่างกัน ทั้งน้ำหนักการกด การลากเส้นตอบสนองได้ไหลลื่นได้ทันใจ จะต่างกันก็เพียงแค่รุ่นที่ 1 ไม่สะดวกยึดติดจอเหมือนรุ่นที่ 2จอเล็กแต่แรงกับชิปใหม่ iPad mini ใหม่ใช้ชิป A15 Bionic ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ใน iPhone13 ซีรีส์ ซีพียูแบบ6 คอร์ ประมวลผลเร็วมากขึ้น 40% ความสามารถด้านการเรียนรู้เพิ่ม 2 เท่า ขณะที่ประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้น 80% ส่วน iPad รุ่นใหม่ใช้ชิป A13 Bionic กราฟิกเร็วขึ้น 20%เมื่อนำไปเล่นเกม Genshin Impact ซึ่งเป็นเกมที่ต้องใช้สเปกสูง ปรับค่าสูงสุด ใช้เวลาเล่นประมาณ 20 นาที ทั้งสองรุ่นตอบสนองได้ดีมาก ไม่เจออาการแล็กหรือสะดุดแต่อย่างไร แม้ว่าชิปจะต่างกันก็ตาม แต่สำหรับคนเล่นเกมจริงๆ ไม่ได้ปรับค่าสุด แต่ปรับค่ากลางๆ และเฟรมเรตที่ 60 fps เพราะเล่นนานๆไม่เปลืองแบตและหลีกเลี่ยงเครื่องร้อน กล้องรองรับ “จัดให้อยู่ตรงกลาง”iPad ทั้งสองรุ่นมีกล้องหน้าและกล้องหลังเหมือนกัน กล้องหน้าอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งานวิดีโอคอล Center Stage หรือจัดให้อยู่ตรงกลาง ระหว่างเรียน ประชุมออนไลน์ กล้องจะปรับมุมให้คุณอยู่ตรงกลางอัตโนมัติระหว่างการเคลื่อนไหวไปมา แต่กล้องหลังต่างกัน iPad mini มีขนาด 12 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอไฟล์ขนาด 4K@60fps ขณะที่ iPad ใหม่ขนาด 9 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 1080@60 fps สรุปการใช้งานทั้งสองรุ่นเหมาะสำหรับการใช้งานคนละกลุ่มกัน iPad mini รุ่นที่ 6 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสเปกแรงๆ แต่พกพาสะดวก ใช้มือเดียวหยิบใช้งานได้เลย แต่มีราคาแพงกว่า ส่วน iPad รุ่นที่ 9 เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป เรียน-ทำงานออนไลน์ ดูหนัง ฟังเพลงได้ครบครัน ราคาถูกกว่า จอใหญ่กว่า แม้จะใช้ชิปรุ่นเก่ากว่าแต่สเปกก็แรงรองรับการใช้งานหนักๆได้สำหรับ iPad mimi รุ่นที่ 6 ถูกมองว่าจอภาพมีปัญหาการใช้งานอ่านคอนเทนต์จออยู่แนวตั้ง การแสดงผลของข้อความระหว่างบรรทัดดูจะเด้งๆ ไม่นิ่ง เป็น อาการที่เรียกว่า jelly scroll ing เมื่อลากจอขึ้นลงจะทำให้ข้อความระหว่างบรรทัดเดียวกันเด้งเหมือนคลื่นขึ้นลง แต่เมื่อใช้ในแนวนอนจะไม่เด้ง แม้จะอัปเดตเป็น iPadOS 15.1หากใช้งานอ่านคอนเทนต์จริงๆแล้วเราไม่ได้เลื่อนจอขึ้นและลงตลอดเวลา ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาจอเด้งแต่อย่างใด.