พรปีใหม่จาก นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ (คอลัมน์ บอกเล่าเก้าสิบ นิตยสาร หมอชาวบ้าน ฉบับ ม.ค.2565) หัวข้อ การสร้างสุขในการใช้ชีวิตและการทำงาน หมอเรียงลำดับตามความสำคัญไว้ 7 ข้อ
1.หมั่นบริหารกาย จิต อารมณ์ และปัญญา เริ่มด้วยการออกกำลังกาย เจริญสติ และการทบทวนตัวเอง การรู้จักจัดการกับอารมณ์และความเครียด การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การนอนหลับให้เพียงพอ การเรียนรู้สิ่งใหม่และการฝึกลับสมอง และการทำงานจิตอาสา ฯลฯ
2.ใส่ใจเรียนรู้ให้เข้าใจเรื่องกลไกสมอง 3 ส่วน สมองส่วนหลัง (สมองตะกวด) สมองส่วนกลาง (สมองสุนัข) และสมองส่วนหน้า (สมองมนุษย์) ซึ่งทำหน้าที่เพื่อการอยู่รอด อยู่ร่วมและอยู่อย่างมีความหมายตามลำดับ
การรู้เรื่องสมอง คือการรู้ทันว่าตัวเองกำลังคิด พูด และทำ ด้วยสมองส่วนไหน
เมื่อรู้ทันก็จะหยุดใช้สมองตะกวด (การคิดเอาตัวรอด) และสมองสุนัข (การใช้อารมณ์) หันมาใช้สมองมนุษย์ สติปัญญาและเหตุผลแทนทันที ทำให้เรามีสติรู้ตัว รู้ตนและคิดบวก นำพาให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องดีงาม
3. รู้จักเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน ไม่ว่าคนเล็ก คนน้อย คนมีอายุตำแหน่งฐานะและอำนาจหน้าที่น้อยกว่าเรา...ส่งเสริมให้มีการอยู่ร่วมกันด้วยดี เกิดความร่วมใจร่วมมือและปัญญาร่วม ในการทำกิจต่างๆให้สำเร็จลุล่วง
4.ในการทำงาน ให้ใช้หลักทำงานด้วยใจ และทำงานเป็นยาใจ คือมีใจรักงาน ตระหนักรู้ในคุณค่าและเป้าหมายของงาน ขณะเดียวกันก็ใช้งานเป็นเวทีในการเรียนรู้ (ให้เข้าใจตน เข้าใจคน เข้าใจงาน) และสานสัมพันธ์กับผู้คนทั้งปวง (ให้เกิดการเข้าถึง มีความรัก ผูกพัน เกื้อกูลกัน) ช่วยให้พัฒนางานให้ก้าวหน้า ยั่งยืน
5.หมั่นเรียนรู้จากประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตและการทำงาน ด้วยการมีสติ (คือ จิต ที่นิ่ง-ช้า-ใส-ตื่น-รู้) กำกับอยู่เสมอ
...
รู้ว่าอะไรดี อะไรควร ให้ลงมือทำทันที (3 ท.) และทบทวนทันที (4 ท.) ว่า “ได้ทำแล้วหรือยัง” ทำแล้วมีอะไรที่น่าภูมิใจ และให้กำลังใจตัวเอง มีอะไรที่ควรแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
ทุกคนมีกลไกสมองที่สามารถเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติหรือจากประสบการณ์ ด้วยหลัก สุ จิ ปุ ลิ ฟังคิดถามเขียน เป็นวงจร “ทำไป ทบทวนไป เรียนรู้ไป ปรับปรุงไป”
ก่อให้เกิดการพัฒนาตน พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น และพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง
6.มองเห็นด้วยตนเองถึงความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง อันเนื่องด้วยความผันแปรของเหตุปัจจัยซับซ้อนที่เกี่ยวข้อง
7.รู้จักใช้ชีวิตที่สมดุล พอเพียง มีความหมาย และสันติสุข ด้วยการเข้าถึงความจริงของโลกและชีวิต ตระหนักในคุณค่าของชีวิตและการเรียนรู้ ซึ่งอาจกระตุ้นด้วยข้อคิด เช่น
“ชีวิตเรายาวหรือสั้น ไม่สำคัญเท่ากับคุณค่า” “สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดีเสมอ”
“ชีวิต คือการเดินทาง” “ชีวิต คือการเปลี่ยนแปลง” “ชีวิต คือการเรียนรู้” และ “การเรียนรู้คือความสุข”
พรปีใหม่ หรือยารักษาใจ 7 ข้อหรือ 7 ขนาน ที่หมอเขียนใบสั่งยาให้ ผมอ่านแล้วก็พอเข้าใจ เราทุกคนเป็นคนไข้ของหมอ ทุกคนป่วยทางใจด้วยโรคใดโรคหนึ่ง หรือทุกๆโรค
อยากหาย...ก็คือต้องไปเจียดยาเอามาปรุงและรักษาด้วยตัวเอง โรคทางใจ จะทุเลาหรือจะหายหรือไม่ ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง.
กิเลน ประลองเชิง