ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน คือ กลุ่มคนเดินถนน นักปั่นจักรยาน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นกลุ่ม “เปราะบาง” ในการใช้ถนน 

GLOBAL STATUS RE PORT ON ROAD SAFETY 2018 รายงานว่าจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น จากข้อมูลปี 2016 พบว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 1.35 ล้านคนต่อปี หรือทุกหนึ่งชั่วโมงจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน 155 คน โดยอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 8 ของคนทุกกลุ่มอายุทั่วโลก...!

อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงที่สุดอยู่ในทวีปแอฟริกา รองลงมาคือทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทวีปที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนต่ำที่สุดคือยุโรป

แม้ว่ายุโรปจะมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่ำสุด แต่การคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนก็เป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าสนใจไม่น้อย ล่าสุดนักวิจัยจาก Universitat Oberta de Catalunya (UOC) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยออนไลน์แห่งแรกของโลก ได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในงานวิจัยเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบการเกิดอุบัติเหตุทางจราจรในเมืองให้ผู้กำหนดนโยบายใช้เป็นแนวทางในการวางผังเมือง โดยมีความหวังว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุทางท้องถนนและเป็นข้อมูลพัฒนาถนนในเมืองให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

ทั้งนี้ แม้จะมีการล็อกดาวน์เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา แต่อุบัติเหตุบนท้องถนนในเมืองหลวงอย่างมาดริดของสเปน มีมากกว่า 2,000 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย และ 5,700 ครั้ง ในบาร์เซโลนา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย

...

การคิดค้นครั้งนี้ นักวิจัยได้นำ AI มาใช้วิเคราะห์คลิปวิดีโอความยาวหลายชั่วโมง และภาพถ่ายการใช้ชีวิตหลายพันภาพในทั้งสองเมือง โดยใช้ความสามารถ AI ทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน นั่นคือ ส่วนการเรียนรู้ด้วยตัวเองของเครื่อง (machine learning) และโครงข่ายประสาทเทียม (artificial neuron network) เพื่อค้นหารูปแบบร่วมในเขตเมืองที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดย machine learning จะสามารถปรับการทำงานเมื่อรับรู้รูปแบบต่างๆในรูปของข้อมูล ในขณะที่ artificial neuron network จะเลียนแบบวิธีที่สมองทำความเข้าใจข้อมูลหลายชั้น

ผลการวิจัยพบว่า ลักษณะทางกายภาพบางประการเป็นปัจจัยในการสร้างปัญหาให้กับผู้ขับขี่ โดยยิ่งสภาพแวดล้อมหนาแน่นไม่เป็นระเบียบมากเท่าไร ผู้ขับขี่ก็ยิ่งมีสมาธิยากขึ้นเท่านั้น รูปแบบบางอย่างในผังเมือง เช่น การจัดวางม้านั่ง งานศิลปะบนพื้นที่สาธารณะ ป้ายโฆษณาสีสันที่ตั้งอยู่ใกล้ถนน และตำแหน่งของรถยนต์ที่จอดอยู่นั้นล้วนมีผลต่ออัตราการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยย้ำว่า ขณะที่ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญได้ แต่การที่ถนนในเมืองจะปลอดภัยมากขึ้น ตามวัตถุประสงค์ของการคิดค้นครั้งนี้ได้คือ การนำข้อมูลที่วิเคราะห์นั้น บวกเข้ากับความเชี่ยวชาญของสถาปนิก วิศวกร เจ้าหน้าที่ระบบคมนาคม และนักวางผังเมือง เพื่อกำหนดเป็นนโยบายในการสร้างเมืองที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุร่วมกัน.