หลังจากปลุกปั้นและทุ่มงบประมาณไปอย่างมหาศาล จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เป็นตัวแทนแห่งความพากเพียรขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา องค์การอวกาศยุโรป หรืออีเอสเอ และองค์การอวกาศแคนาดา เมื่อเร็วๆนี้ องค์การนาซาออกแถลงว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ที่นักดาราศาสตร์หวังว่าจะเป็นการประกาศยุคใหม่ของการค้นพบ จะถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อสานต่อภารกิจของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ถือเป็นความหวังอย่างมากของนักดาราศาสตร์รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ด้านดวงดาว ที่ต้องการใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา เพื่อย้อนกลับไป ศึกษาช่วงเวลากว่า 13,500 ล้านปีก่อน เป็นช่วงที่ดาวฤกษ์และดาราจักรหรือกาแล็กซีกลุ่มแรกก่อตัวขึ้นเมื่อ 200-300 ล้านปีหลังจากเหตุการณ์บิ๊กแบง (Big Bang) โดยคุณลักษณะสำคัญของกล้องคือความสามารถในการตรวจจับช่วงรังสีอินฟราเรดที่ดีกว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล
นักดาราศาสตร์ยังหวังว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ จะช่วยเร่งการค้นพบโลกที่อาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่แบบเดียวกับโลกของเรา เพื่อยืนยันว่าพวกเราไม่ได้อยู่ลำพังในจักรวาล ทั้งนี้ มีการตรวจพบดาวเคราะห์ดวงแรกที่โคจรรอบดาวดวงอื่นในทศวรรษที่ 1990 และจนถึงขณะนี้มีดาวเคราะห์นอกระบบมากกว่า 4,000 ดวงที่ได้รับการยืนยันแล้ว ซึ่งไม่แน่ว่าการมาถึงของกล้องเจมส์ เวบบ์ อาจค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตะลึงแก่มนุษยชาติก็เป็นได้.