มีอย่างนี้ด้วย! เควิน เฟดเดอร์ไลน์ อดีตสามีของนักร้องชื่อดัง “บริทนีย์ สเปียร์ส” พยายามขอเงินค่าเลี้ยงดูบุตรจากอดีตภรรยาเพิ่มจากเดิมฟังแล้วเห็นใจนักร้องสาววัย 36 ปีแฮะ
ขอเล่าก่อนว่า บริทนีย์เป็นซุป’ตาร์เจ้าของเพลงดังๆ อย่างซัมไทม์ส, อุ๊ปส์!....ไอ ดิด อิต อะเกน, ท็อกซิค ที่บ้านเรารู้จักกันดี เพราะบางคนก็โตขึ้นมาพร้อมกับเพลงของเธอนั่นแหละ
สงสัยอดีตสามีของบริทนีย์เห็นว่า นักร้องซุปเปอร์สตาร์อดีตภรรยาดิ้นรนทำงานร้องเพลงได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากการเปิดแสดงโชว์ที่นครลาสเวกัสแล้ว (คงอยากได้ส่วนแบ่งมั่ง) เหตุนี้เควิน ซึ่งเป็นอดีตแดนเซอร์ให้บริทนีย์จึงขอเงินค่าเลี้ยงดูบุตร (เอาลูกมาอ้างรึเปล่าไม่รู้?) จากที่เคยได้จากฝ่ายหญิงประมาณเดือนละ 20,000 ดอลลาร์ (ราว 6 แสน 2 หมื่นบาท) แต่ฝ่ายชายบอกว่าได้แค่นั้นไม่พอแล้ว จึงขอเงินเพิ่มเป็นเดือนละ 60,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 ล้าน 8 แสนกว่าบาทต่อเดือน อื้อหือ) ขอกันดื้อๆเนี่ยนะ ทำเอาซุปเปอร์สตาร์นักร้องสาวสะอึกไปเลย ที่จริงตามธรรมชาติ สามีน่าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรให้ภรรยาหรืออดีตภรรยามากกว่าเนอะ
แต่กรณีของสาวบริทนีย์กับเควินนั้นกลับตรงกันข้ามจนหลายคนมองว่า เควินเกาะเมียกินหรือไง? ถึงต้องขอเงินค่าเลี้ยงดูบุตรมากขนาดนั้น บางคนเห็นด้วยว่า อดีตสามีนักร้องสาวเสียงดีน่าจะไปหางานทำจริงๆซะที ไม่ใช่เป็นแค่ดีเจ (ก่อนหน้านี้พยายามหันไปเอาดีทางด้านการเป็นนักร้องแร็ปเปอร์แต่ก็ไปไม่รอด) ทว่าเควินก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรในเมื่อยังขออดีตภรรยาได้ โดยอ้างว่าเอามาเป็นค่าเลี้ยงดูลูกซะอย่าง
กระนั้นอย่างว่า บริทนีย์ก็ทำตัวเองด้วยแหละที่ตัดสินใจ (ผิดหรือถูกตอนนี้เธอคงรู้ตัวแล้ว) ที่ไปแต่งงานกับเควิน แถมยังมีลูกชายด้วยกัน 2 คน แล้วมีอยู่พักหนึ่งที่นักร้อง คนดังผิดปกติไป จึงทำให้ฝ่ายชายยื่นขอเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรต่อศาล ตอนนั้นเค้าได้สิทธินี้ซะด้วย ทำให้ฝ่ายหญิงต้องช่วยเรื่องเงินเพื่อเลี้ยงลูก เป็นงั้นไป!
...
เรื่องนี้ก็ขอให้ทั้งคู่ไปตกลงเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรให้เหมาะสมละกัน แหมอยากให้บริทนีย์ยื่นคำร้องขอเป็นฝ่ายดูแลบุตรเองบ้าง ในเมื่อสถานการณ์ไม่เหมือนในอดีตแล้ว เพราะฝ่ายหญิงสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของเธอเอง ถึงได้บอกไงว่า น่าเห็นใจเธอจริงๆ
เนี่ย มีลูกก็ต้องช่วยเลี้ยงกันไป จะปฏิเสธความรับผิดชอบก็กระไรอยู่!
ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่า แฟนของคุณเคย “เอารัดเอาเปรียบ” คุณผู้หญิงกันบ้างรึไม่? กันเถอะ เพราะถ้าหากเค้าเอาเปรียบคุณอยู่ละก็ คุณจะได้รู้ตัว และจะได้คุยกับเค้าให้เลิกเอาเปรียบคุณได้แล้ว เพราะทำอย่างนี้ มันไม่แฟร์ (ไม่ยุติธรรม) เท่าไหร่นัก ทางที่ดีคุณก็ไม่ควรเสียรู้เค้าด้วยซ้ำ เพราะจะมีแต่ชีช้ำใจ โถ ไม่ควรๆ
งั้นเอาละ มาดูกันว่า ฝ่ายหญิงสามารถ “เสียรู้” ฝ่ายชายได้อย่างไร? บ้าง เช่น........
1.เค้าไม่ยอมบอกอย่างชัดเจนว่า คุณทั้ง 2 เป็นอะไรกันแน่?
หมายฟามว่า เค้าไม่ยอมพูดตรงๆว่า เราเป็นแฟนกันหรือยอมรับว่า เค้ารักคุณออกสื่อ ตรงข้ามเค้าจะบ่ายเบี่ยงตลอดว่า เราทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกัน หรือคบกันเป็นพี่เป็นน้อง แต่การแสดงออกน่ะเหรอ?
เค้าชอบจับมือถือแขนคุณตลอด แถมแต๊ะอั๋งบ่อยๆด้วย แต่ปากกลับบอกไม่ได้คบกันฉันคนรัก
อ้าว......แล้วอย่างนี้คุณเป็นอะไรกับเค้ายะ? เป็นแค่เพื่อนเองเหรอ? หรือเป็นพี่เป็นน้อง? แหม ทำเป็นปิดบังสังคมกลัวคนอื่นรู้ เพื่อที่เค้าจะได้ยังมีโอกาสไปคบหากับสาวคนอื่นไงเล่า เกินไปไหมล่ะ
ในเมื่อความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน เท่ากับเสียรู้เค้าไปแล้วละมั้ง
2.เค้าไม่เคยมีเวลาว่างให้คุณนัก คุณก็ทนไปสิ
ปากของเค้าอาจบอกว่า คิดถึงเหลือเกิน แต่พฤติกรรมของเค้าไม่ค่อยมีเวลาว่างมาหาคุณนักหรอก และเป็นได้ที่คุณก็รู้เรื่องที่เค้าไม่มีเวลาให้ ทว่าคุณก็ยังแก้ต่างให้เค้าในใจว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าก็มีเวลามาหาคุณเอง เพราะเค้าก็ต้องคิดถึงคุณบ้างสิ แต่เอ....เค้าจะคิดถึงคุณหรือคิดถึงใคร เอ๊ะคิดถึงแต่ตัวเองรึเปล่า?
3.เค้ามักทำให้คุณรู้สึกผิดในสิ่งที่คุณทำบ้างหรือไม่?
เช่น ถ้าวันไหนคุณไปหาเค้าถึงที่ทำงานโดยต้องการจะเซอร์ไพรส์ด้วยการไม่บอกว่าจะไปหา แต่จู่ๆก็ไปเลย แทนที่เค้าเห็นหน้าคุณแล้วจะดีใจ ไม่มีซะล่ะ เค้ากลับทำหน้าบึ้งใส่ แล้วพาคุณไปนั่งที่โซฟารับแขก และปล่อยให้คุณนั่งรอเค้าทำงาน โดยเค้าแยกไปนั่งในส่วนที่ทำงานและไม่สนใจคุณอีก
หรือ พอเค้าเห็นคุณมาหาก็รีบไล่ให้กลับบ้านไปซะ เพราะเกรงว่าจะมีคนเห็นคุณอยู่กับเค้า ทำให้ คุณรู้สึกผิดที่มาหา ถ้าเค้ามีอาการแปลกๆอย่างที่เล่าให้ฟัง จงรู้ไว้เถอะว่า เค้าไม่ได้แคร์คุณจริงร็อก
4.เฉพาะเวลาที่เค้าอยู่กับคุณตามลำพังเท่านั้นจึงแสดงความสนใจคุณอย่างจริงจัง
แบบว่าถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่น เค้ามักทำเป็นไม่สนใจคุณเท่าไหร่ถึงมือไม้ของเค้าจะแต๊ะอั๋งคุณก็ตาม แต่ความไม่ใส่ใจในตัวคุณในที่สาธารณะมีมากกว่า ตรงข้ามถ้าอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 เค้าจะพะเน้าพะนอคุณจัง ขอแค่ไม่มีใครเห็น เค้ามักเอาใจใส่คุณมากกว่าตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นซะอีก แล้วทำไมต้องเป็นอย่างนี้ล่ะ
5.เวลาไปไหนด้วยกัน เค้ามักให้คุณช่วยแชร์ค่าใช้จ่ายด้วยตลอด เป็นงั้นไป เฮ้อ!
@@@@
เมอร์ลิน