เปิดทำเนียบเจ้าแม่เมืองไทย คงไม่มีใครจะแซ่บซ่าส์โอ่อ่าอลังการเท่ากับสามซือเจ๊ผู้ยิ่งใหญ่อย่าง “เจ๊เล้ง-อารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล” ม่ายหมื่นล้านเจ้าของร้านเจ๊เล้ง ดอนเมือง วัย 70 ปี, “เจ๊ง้อ-ณชนก แซ่อึ้ง” เจ้าแม่ธุรกิจอาหารครัวเจ๊ง้อ วัย 80 ปี และ “เจ๊เกียว-สุจินดา เชิดชัย” เจ้าแม่เชิดชัยทัวร์ วัย 80 กะรัต นอกจากจะเป็นต้นแบบของคนสู้ชีวิตด้วยลำแข้งตัวเองจนเป็นเถ้าแก่เนี้ยพันล้านหมื่นล้าน ทั้งสามเจ๊ยังขึ้นชื่อเรื่องความโหดและเค็ม จนใครๆก็เข็ดขยาดไม่กล้าแหยมกับซือเจ๊ ไม่เชื่อตามชมได้ในรายการสามแซบ ทางช่อง 3 วันอาทิตย์นี้

จริงไหมคะมีเสียงร่ำลือว่า เวลาทำงานทั้งสามเจ๊จะโหดกับลูกน้องมาก

เจ๊เล้ง : เวลาทำงานก็ต้องมีดุ และจริงจังบ้าง ทำงานกับเจ๊เล้งต้องทำได้หมดทุกอย่าง คนหนึ่งต้องคุมสต๊อกดูบัญชีได้หมด ทุกคนต้องเรียนรู้งานได้หมด ทำงานวนกันได้ หัวลาออก หางก็ขึ้นแทนได้ หรืออย่างไปคุมก่อสร้างตึก 21 แท่ง เราจะไปไซต์งานเดินตรวจงานเองทุกชั้น จะใช้วิธีว่าถ้าทำตามที่เราสั่งไม่ได้ เราไม่จ่ายตังค์ ถึงวันจ่ายตังค์เราไปตรวจงานเลย ถ้ายังไม่เรียบร้อยก็ไม่จ่าย เคยไปตรวจงานแล้วมีขยะอยู่เต็มตึกไม่มีใครเก็บ มันเกี่ยงกันว่าไม่ใช่ของตัวเอง เราเลยบอกว่าวันนี้ถ้าขยะไม่หมด คนที่มารอรับเงินเราไม่จ่ายสักคน แป๊บเดียวพวกมันช่วยกันเก็บจนเกลี้ยง สามัคคีกันเลย

เจ๊เกียว : มีลูกน้อง 2,000 คน และรถทัวร์ 500-600 คัน เป็นผู้ชายเกือบทั้งนั้น เวลาคุมลูกน้องต้องถือหลักธรรมะ ให้เค้ารัก นับถือและเชื่อใจเราก่อน แล้วเค้าจะฟังเรา ฉันไม่ดุหรอก (ยิ้ม) แต่จะเป็นหัวหน้าต้องใช้เมตตาธรรม ลูกน้องที่ทำงานกับฉันไม่มีเกษียณ จะให้ทำงานด้วยจนตาย ฉันเป็นคนโผงผาง ก็มีคนทั้งรักและเกลียด คนโคราชส่วนใหญ่รักเรา แต่คนเกลียดก็มีนะ มีคนเกลียด เราก็อโหสิให้ คนเราถ้าไม่โดนด่าเลยจะอยู่ได้ยังไง

...

เจ๊ง้อ
เจ๊ง้อ

เจ๊ง้อ : ตอนนี้ร้านเจ๊ง้อมี 11 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ มีลูกน้อง 200 กว่าคน สไตล์การทำงานของเราจะเป็นแบบครอบครัวลูกน้องเรียกว่าแม่ง้อทุกคน ปกติก็มีดุลูกน้องเหมือนกัน แก่แล้วก็มีตามอารมณ์นะ

อะไรคือคาถาชีวิตที่ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นเถ้าแก่เนี้ย

เจ๊เกียว : ความเค็ม!! ได้ฉายาเค็ม เพราะเป็นคนประหยัด ไม่กล้าใช้เงิน ชีวิตนี้ไม่เคยซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม ไม่ไปเที่ยวไหนเลย ไม่ไปกินข้าวร้านแพงๆ เก็บเงินไปช่วยคนจนดีกว่า ทุกวันนี้รวยแล้วแต่ยังตื่นมาทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงตีสี่ นอนวันละ 3-4 ชั่วโมง มาตั้งแต่สาวๆเลยติดนิสัย กลางคืนจะนอนไม่หลับ ถึงเป็นประธานบริษัทแล้วก็ยังนอนตีสี่

เจ๊เล้ง : ถือคติทำธุรกิจแบบพี่เลี้ยงน้อง ไม่เป็นหนี้ ค่อยๆทำเริ่มจากเล็กๆก่อน เราลงทุนก้อนแรก พอได้กำไรก็เอาไปลงทุนต่อเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็ยังทำงานเฝ้าร้านทุกวัน ทำงานทั้งวันเพราะชอบทำงาน ตอนกลางวันจะกินข้าวที่โต๊ะทำงาน พอปิดร้านก็ขึ้นไปชั้นบนเป็นที่นอนของเรา

เจ๊ง้อ : เป็นช่างตัดเสื้อมา 50 ปี ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะรวย แต่เพราะเป็นคนชอบทำอาหารและชอบกิน มีของอร่อยตรงไหนเราต้องลองไปชิมให้ได้ แล้วเอามาลองทำดูให้อร่อยกว่าเค้า ตอนเปิดร้านตัดเสื้อก็จะชอบทำอาหารให้เพื่อนๆชิม เพื่อนๆชอบกันบอกว่าเราทำอร่อย หลังๆเพื่อนให้เงินเราไว้ไปซื้อของทำอาหาร และยุให้เปิดร้านอาหารไปเลย แต่แรกๆ เราไม่อยากทำ เพราะแก่แล้ว แต่สุดท้ายก็มาเปิดร้านครัวเจ๊ง้อตอนวัยเกษียณ ฉันเชื่อว่าคนเราประสบความสำเร็จได้ถ้าทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ ทุกวันนี้ตื่นตี 5 ทุกวัน 7-8 โมง ก็ออกมาร้านแล้วอยู่ร้านทั้งวัน จนปิดร้าน 4 ทุ่ม ไม่เคยเบื่อที่จะทำอาหารดีๆให้ลูกค้ากิน

ในบรรดาสามเจ๊ ใครเชื่อเรื่องดวงมากที่สุด

เจ๊เกียว : เป็นคนเชื่อหมอดู จะทำอะไรก็ต้องดูหมอ ทำเชิดชัยทัวร์มา 63 ปี ไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะไม่ว่าจะทำอะไรไปไหนก็ต้องดูหมอก่อน ดูหมอกับหมอไพศาลมา 46 ปีแล้ว ถือเลข 8 กับ 6 เป็นเลขดวงตัวเอง ทำบุญต้องมีเลขนี้

...

เจ๊ง้อ : เป็นคนไม่เชื่อหมอดู การทำงานเราต้องเชื่อตัวเองก่อน แต่จะเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ถ้ามีผู้ใหญ่มาชี้แนะ เราก็ต้องฟัง เวลาจะเปิดร้านต้องให้ซินแสมาดูว่าดวงเราถูกกับทิศไหน ถ้าดูแล้วทิศไม่ตรงก็ต้องเปลี่ยนทันที

เห็นโหดๆแบบนี้ ได้ข่าวว่าทั้งสามเจ๊ใจปํ้ากว่าที่คิดเยอะ โดยเฉพาะเจ๊เล้งเพิ่งแจกเงินให้อดีตสามีไป 700 ล้านบาท เพื่อขอหย่า?!

เจ๊เล้ง : เพิ่งแจกเงินอดีตสามีไป 700 ล้าน ตอนนี้ทำอะไรก็เลยต้องหาเงินไว้ก่อน และห้ามใครมายืมเงินเด็ดขาด!! แต่ตอนนี้สบายใจมาก ชีวิตมีความสุขแล้ว ตั้งแต่โดนผัวทิ้งก็มีคนส่งของมาปลอบใจทุกวัน แทบไม่ได้ซื้อของกินเอง พอเป็นโสดปั๊บมีคนมาสมัครเป็นสามีทุกวัน บางคนมาหาถึงที่ทำงาน เป็นทหารยศใหญ่ๆก็มี บางคนส่งจดหมายมาขอสมัครเป็นสามี

เจ๊เล้ง
เจ๊เล้ง

...

เจ๊เกียว : ยกหนี้ให้คนไปพันกว่าล้าน!! ส่วนใหญ่คือมาผ่อนรถกับเราแล้วก็ไม่มีเงินส่งต่อ เราจะไปยึดรถก็สงสาร สุดท้ายต้องยกหนี้ให้ รวมๆแล้วพันห้าร้อยล้านบาท เรายกหนี้ให้ แต่ไม่อโหสิกรรมให้นะ คือถ้าใครที่เคยเป็นเจ้าหนี้เรามาก่อน เรายกหนี้ให้แล้วขออโหสิกรรมกันไปเลย แต่ถ้าใครไม่ใช่เจ้าหนี้เรามาโกงเรา เราขอให้ตามไปใช้หนี้เรา

ชีวิตผ่านความลำบากมาเยอะ แต่ทุกคนยังดูสดชื่นแข็งแรง ไม่ทราบว่ามีเคล็ดลับอะไรดี

เจ๊เล้ง : ทุกวันนี้กินข้าววันละมื้อเดียว ตอนเช้าตื่นมาจะกินกล้วย 2 ลูก และกระชายกับน้ำผลไม้ปั่น 1 เหยือก ใส่ผักปลูกเองจะทำให้อร่อย กับมะนาว 2 ลูก และใส่ผลไม้ที่มีเหลือๆอยู่ก็ใส่ไป เช่น แอปเปิ้ล, เสาวรส, กล้วย และยังกินกระชายช่วยลดความดัน ทุกวันนี้เจ๊ตื่นตี 05.45 น. มาปั่นจักรยานวันละ 20 กิโลทุกวัน แล้วค่อยเข้าร้านทำงาน มื้อกลางวันจะกินกับข้าว 5-6 อย่าง เน้นกินผัก ส่วนตอนเย็นจะไม่กินเลย ถ้ามีเวลาว่างจะชอบไปเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ ชอบดำน้ำ ปีนเขา โหนสลิงข้ามแม่น้ำ ไปปีนเขาวงพระจันทร์ ปีนเขาอยู่ 2-3 ลูก ขึ้นบันไดเป็นพันๆขั้น เคยปั่นจักรยานขึ้นเนิน ล้มจนกระดูกข้อศอกเสื่อม

เจ๊ง้อ : แก่แล้วกินไม่เยอะ จะยกขาออกกำลังกายในห้องนอนทุกวัน ครีมบำรุงไม่เคยซื้อ มีแต่คนเอามาให้ เจ๊เคยทำศัลยกรรมไปแก้ตาตกเพราะดูเศร้า นอกนั้นธรรมชาติ

เจ๊เกียว : ชอบออกกำลังกายและพยายามกินอาหารที่เป็นประโยชน์ จะเดินตลอดทั้งวัน เวลาทำงานไปไหนมาไหนก็จะเดิน เกิดมาในชีวิตไม่เคยปวดท้องเลย มีแต่เวียนหัวเดินเซ เป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน อาหารหลักของเจ๊คือน้ำพริกกับส้มตำ น้ำพริกจะตำเนื้อปลาตัวเล็กๆ เข้าไปด้วย ส่วนเรื่องผิวพรรณ เจ๊ชอบสวยแบบธรรมชาติ ขนาดคิ้วไม่มียังไม่เขียนคิ้วเลย แต่ขอมีสีสันหน่อย ต้องทำไฮไลต์ตา ครีมบำรุงก็ไม่ได้กินเงินเจ๊ ใช้แต่ครีมกันแดด ทุกวันเจ๊จะล้างหน้านานครึ่งชั่วโมง ใช้ผ้าขนหนูทำเป็นลูกประคบชุบน้ำอุ่นแล้วเอามาเช็ดหน้า

...

เจ๊เกียว
เจ๊เกียว
กัดฟันสู้มาทั้งชีวิต ถ้าต้องกลับไปจนเหมือนก่อนจะรับไหวไหม

เจ๊เกียว : บอกตรงๆไม่กลัวจนไม่กลัวเหนื่อยนะ เพราะเป็นคนสู้ชีวิตและขยันทำงาน ฉันจะคิดเสมอว่าเวลาไม่เคยหวนกลับ เสียแล้วเสียเลย เราเลยจะเป็นคนที่ไม่ยอมเสียเวลาเด็ดขาด.

ทีมข่าวหน้าสตรี