“...โลกนี้ไม่สมประกอบ เพราะบางคนชอบเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน โลกนี้มีสักกี่คนเป็นบัวหลุดพ้นดังคนชื่อบัวลอย... บัวลอยยย” แว่วเสียงเพลง “บัวลอย” ของ “คาราบาว” สะท้อนชีวิตความเสียสละของชายพิการแต่จิตใจกล้าหาญอาสารับใช้ชาติ หวนให้นึกถึงขนมไทยรสชาติหวานมันอย่าง “บัวลอย” ขึ้นมาทันที

“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “บัวลอยจิ๋วเมืองนนท์” ร้านอร่อยขายอยู่คู่เมืองนนท์มานาน 35 ปี ของ “ป้าจิ๋ว–กอบ-กุล มาเกิด” อายุ 60 ปี และ “ลุงป๊อก– สุชาติ มาเกิด” อายุ 64 ปี สามีคู่ชีวิต

แดดยามบ่ายร้อนระอุ ผมขับผ่านถนนพิบูลสงคราม มองสองข้างทางดูเงียบเหงาถนัดตา แต่ที่หน้าปากซอย “พิบูลสงคราม 30” หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า “ซอยโยกย้าย” กลับคึกคัก มีผู้คนยืนรอคิวเนืองแน่นหน้ารถเข็นขายบัวลอย

...

“ป้าจิ๋ว” หญิงวัยเกษียณง่วนอยู่หน้ากระทะทองเหลืองใบใหญ่ ทั้งตอกไข่ไก่ลงไปในน้ำเชื่อมเดือดปุดๆ เม็ดบัวลอยขนาดจิ๋วค่อยๆพองตัวขึ้น “ป้าจิ๋ว” คว้าตะบวยตักบัวลอยหลากสีสันพร้อมน้ำเชื่อมกรอกใส่ถุง ตบท้ายด้วยน้ำกะทิข้นๆ ผมมองดู “ป้าจิ๋ว” ตักบัวลอยมือเป็นระวิงถุงแล้วถุงเล่า

พอถึงคิวผมถือโอกาสสั่งทั้ง บัวลอยไข่หวาน, บัวลอยไข่เค็ม และบัวลอยไข่เยี่ยวม้า มาชิมให้สมการรอคอย กลิ่นหอมน้ำกะทิโดดเด่นยั่วยวนใจ ส่วนตัวแป้งบัวลอยเคี้ยวหนึบนุ่มกำลังดี รสชาติรวมๆหวานหอมเค็มกลมกล่อมดี ส่วนไข่ไก่ก็สุกได้ที่ ไข่แดงเยิ้มๆ ละลายในปาก ส่วนไข่แดงเค็มเม็ดใหญ่เพิ่มอรรถรสในการกิน รสชาติเข้มข้นสะใจ

“ไข่เยี่ยวม้า” มักเห็นในเมนูอาหารคาว กลับเข้ากันดีกับบัวลอยเหลือเชื่อ ไข่-แดงเยิ้มๆไข่ขาวเด้งๆ รสชาติตัดกับความหวานของบัวลอยดี บอกเลยว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่มีร้านไหนถูกใจ “คุณชายแป๊ะ” เท่าบัวลอยเจ้านี้ ขอเทใจให้ “บัวลอยจิ๋วเมืองนนท์”

“เหลือเชื่อนะครับ ไม่คิดว่าคนจะรอคิวขนาดนี้ ทั้งๆที่เป็นช่วงโควิด” ผมชวน “ลุงป๊อก” คุย

“ลุงป๊อก” ตอบอย่างภูมิใจ “ลูกค้าเชื่อมั่นในรสชาติของร้านเรา โดยเคล็ดลับทำบัวลอยให้อร่อยถูกใจลูกค้า อยู่ที่ตัวแป้งกับน้ำกะทิ เป็น 2 สิ่งที่สำคัญ อย่างเม็ดบัวลอยมีทั้งหมด 7 สี มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ 7 ชนิด ผสมกับแป้งข้าวเหนียว สีขาวจากเผือก, สีเหลืองจากฟักทอง, สีส้มจากแครอท, สีแดงจากน้ำแดง, สีฟ้าจากดอกอัญชัน, สีเขียวจากใบเตย และสีม่วงจากมันม่วง นำวัตถุดิบมานึ่งแล้วนวดกับแป้งข้าวเหนียว ตัวแป้งจะเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบๆ อยากรู้ว่าร้านไหนใช้สีผสมอาหารให้ลองดูที่น้ำเชื่อมต้มบัวลอยมันจะฟ้องทันที ถ้ามีสีแสดงว่าใช้สีผสมอาหารในตัวแป้ง ร้านลุงน้ำเชื่อมจะขาวใส เพราะเราใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติล้วนๆ”

“ตัวชูรสชาติให้บัวลอยอร่อยยิ่งขึ้น คือน้ำกะทิ ใช้แต่หัวกะทิล้วนๆ ไม่มีหางกะทิ หรือน้ำเปล่าเจือปน ร้านเราจะเคี่ยวกับใบเตย ก่อนแต่งรสด้วยเกลือ เมื่อผสมลงไปในบัวลอย รสชาติจะหวานมันเค็มกลมกล่อม ลุงกับป้าขายบัวลอยไข่หวานตั้งแต่ถ้วยละ 3 บาท จากปั้นเม็ดบัวลอยด้วยมือ ทุกวันนี้ต้องอาศัยเทคโนโลยีใช้เครื่องนวดและเครื่องปั้นเพื่อทุ่นแรง ช่วยให้ปั้นเม็ดบัวลอยได้ถึงวันละ 40 กิโลกรัม เช่นเดียวกับหัวกะทิที่ใช้

...

วันละ 40 กิโลกรัม เป็นเจ้าประจำที่ส่งให้มานานแล้ว รับรองว่าหอมมันที่สุด นอกจากบัวลอยไข่หวาน ที่ร้านมีบัวลอยไข่เยี่ยวม้า และบัวลอยไข่เค็ม ให้ลูกค้าเป็นทางเลือก ไข่แดงเค็มและไข่เยี่ยวม้ามีขายวันละ 60 ใบ ใครมาก่อนได้ก่อน ส่วนไข่ไก่เตรียมไว้ขายวันละ 13 แผง”

เดิมทีก่อนจะมาขายบัวลอย ลุงเคยเป็นลูกจ้างผลิตรถยนต์หรูยี่ห้อดัง แต่ชีวิตระหกระเหินเปลี่ยนงานไปเรื่อย กระทั่งมีลูกจึงตัดสินใจกับป้าจิ๋วว่า ถึงเวลาแล้วต้องหาที่ลงหลักปักฐานค้าขาย จึงลองหัดทำขนมบัวลอย ค่อยๆพัฒนาคุณภาพของบัวลอยและน้ำกะทิให้อร่อย มีมาตรฐานคงที่ ด้วยความตั้งใจจริง ทำให้ลุงกับป้าจิ๋วสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้จากบัวลอยเม็ดจิ๋ว แม้ทุกวันนี้เราจะมีระยะเวลาขายสั้นลง ทำให้ลุงต้องลดปริมาณ เพื่อให้ขายหมดทันวันต่อวัน ตามมาตรการเคอร์ฟิวของรัฐ”

สนนราคา บัวลอยไข่หวาน 20 บาท, บัวลอยไข่เยี่ยวม้า 25 บาท, บัวลอยไข่เค็ม 25 บาท, บัวลอยไข่คู่ (ไข่เค็มกับไข่ไก่) 35 บาท และ บัวลอยไม่ใส่ไข่ 15 บาท นอกจากนี้ ยังมี ลูกตาลลอยแก้ว 25 บาท, วุ้นใบเตย 25 บาท, ขนมเปียกปูนใบเตย 12 บาท, ถั่วกวน 12 บาท และ ข้าวเหนียวแก้ว 12 บาท อุดหนุน “ร้านบัวลอยจิ๋วเมืองนนท์” ขายทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ไม่อยากเสียเที่ยวโทร.สอบถามได้ที่ 08–1908–6450 หรือ Facebook : บัวลอยจิ๋วเมืองนนท์ สามารถสั่งผ่าน Grab-Food และ LINE MAN.

...

คุณชายแป๊ะ