พลิกบทบาทขึ้นแท่นพระเอกละครบ้านทุ่ง หนุ่ม อินดี้–อินทัช เหลียวรักวงศ์ ตื่นเต้นประเดิมเป็นละครใหม่ไทยรัฐ ทุกวันเสาร์ 6 โมงเย็น ทาง “ไทยรัฐทีวี ช่อง 32” ออกสตาร์ตกับ “ดอนบ้านดอย ปอยบ้านทุ่ง” ละครโรแมนติก-คอมเมดี้ ตลก เบาสมอง ดูง่าย งานนี้ อินดี้ เปิดใจพร้อมเผยหลังเพิ่งคว้าปริญญาตรี ให้คุณ แม่ฮันนี่–ภัสสร ชื่นใจ เลยคว้าตัวมาคุย

เริ่มจาก “ต้องขอบคุณพี่ธัญญ่า-ธัญญาเรศ และทางไทยรัฐทีวีมากๆที่ให้โอกาสดี้ได้เป็นดอน ในละครดอนบ้านดอย ปอยบ้านทุ่ง เป็นละครคอมเมดี้ที่มีสาระความรู้เยอะพอสมควรเกี่ยวกับการเกษตรและบ้านทุ่ง เรื่องนี้พลิกคาแรกเตอร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่คิดว่าเราจะได้เล่นคาแรกเตอร์แบบนี้ และไม่คิดว่าจะได้เจอบรรยากาศที่เป็นบ้านทุ่งชนบทแบบนี้ เราไม่เคยได้รับประสบการณ์แบบนี้พอมาเจอก็เป็นประสบการณ์ใหม่ ข้อดีคือมันเป็นคอมเมดี้ ความเหนื่อยมันจะบรรเทาลงไปเยอะครับ”

ถามถึงสารจากคุณแม่ฮันนี่ ห้ามมีเมีย แต่มีแฟนได้?

“จริงเหรอ สารจากแม่เลยเหรอ จริงๆแม่ชอบพูดแบบนี้อยู่แล้ว เราบอกแม่ประจำว่าดี้เป็นคนไม่ได้มานั่งชี้จิ้มอายุอยู่แล้ว บางคน
อาจจะคิดว่ามีครอบครัวสักอายุ 34-35 นะ แต่ว่าดี้เป็นคนไม่ได้ฟิกอายุตัวเองว่าต้องเท่าไหร่ ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งอาทิตย์หน้าหรือเดือนหน้าเลยเรามีความรักขึ้นมา เราเจอใครสักคนถ้ามันใช่เราก็มี แล้วถ้ามันใช่มากกว่านั้นอีกเราก็โอเค เราไม่ได้มานั่งรู้สึกว่า 35 แล้วกันหรือขอทำงานอีกสี่ปี ผมรู้สึกว่าการทำงานกับการมีใครสักคนนึงมันแยกกันอยู่แล้ว มันไม่ใช่ว่าพอเรามีปุ๊บเราต้องหยุดการทำงาน มันไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้ว”

...

แม่อยากให้เราสร้างเนื้อสร้างตัวลุยงานก่อน?

“คือแม่เค้าเป็นห่วงเรามาก กลัวว่าเราจะหลุดโฟกัสงาน เขากลัวว่าวันใดวันหนึ่งที่ดี้มีความรักที่แบบมั่นคงทุกอย่างแล้ว เราพร้อมแต่งงานมีลูกมีครอบครัว เค้ากลัวว่าเราจะทิ้งงาน กลัวเรารับละครเรื่องหนึ่งจากเมื่อก่อนรับหลายเรื่อง”

แล้วเราเป็นคนแบบนั้นจริงมั้ย?

“ไม่ เราแยกได้ สมมติเรามีแฟน เราก็รับงานปกติ ผมไม่เคยเลือกนะว่าถ้ามีแฟนต้องเลือกต้องแบ่งเวลาให้เค้าหน่อย ซึ่งแม่ก็เห็นอยู่แล้วประจำว่าเราเป็นแบบนี้นะ เราไม่เคยไปปฏิเสธงานหรือว่าทิ้งงานหรือว่าทำให้ใครต้องเดือดร้อน”

เชื่อเรื่องพรหมลิขิต?

“ใช่ ถ้ามีปุ๊บเราไม่ได้มานั่งจำกัดว่าถ้าเรา 31-32 มันยังเร็วไปมั้ยถ้าจะมีลูก”

ไม่ได้อยากมีแฟน อยากมีภรรยาเลย?

“มีแฟนครับ หมายถึงว่าถ้ามีแฟนแล้วพัฒนาไปมากกว่านั้นเราก็ยินดี เราไม่ได้มานั่งจำกัดเวลาอายุตัวเอง บางคนอาจจะคิดว่าคบกับแฟนไปนานๆกว่านี้หน่อย ต่อให้ใช่ก็ให้นานกว่านี้ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น”

เราอยากมีครอบครัว?

“ใช่ แม่รู้ ดี้เคยบอกแม่ว่าดี้อยากมีลูก เพราะว่าดี้เป็นคนมีงานอดิเรกเยอะ อยากเล่นเกมต่อเลโก้ เราเป็นคนชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ต่อเครื่องบิน ถ้าเกิดว่าทำกิจกรรมเหล่านี้กับลูกเราได้ เราก็จะเอนจอย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบ อันนี้คือสิ่งที่ดี้คิดไว้นะ”

เห็นภาพตัวเองเป็นคุณพ่อ เป็นสามี?

“ภาพของการเป็นคุณพ่อเนี่ย เออ ผมยังนึกไม่ออกเหมือนกัน ผมเคยถามเพื่อนผมเหมือนกัน คิดมั้ยว่าถ้าเราเป็นพ่อมันจะเป็นยังไง ก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะเค้าก็เห็นว่าเราทำงานอยู่ทุกวัน เวลาให้ตัวเองยังน้อยเลย จะไปเป็นพ่อได้ยังไง”

แม่ถามมั้ยถึงเวลามีหรือยัง?

“แม่เค้าก็มีถาม มีหรือยัง โอเคมั้ย งานเป็นยังไง กระทบงานมั้ย เค้ามานั่งงี่เง่ากับงานเราหรือเปล่า เค้าจะห่วงเราเรื่องนี้ แต่เค้าไม่ได้มานั่งฟิกว่าคนนั้นต้องเป็นคนยังไง ชอบทำอะไร เข้ากับเราได้มั้ย ต้องนิสัยยังไงไลฟ์ไสตล์เป็นยังไง แม่ไม่เคยฟิกเลย เค้าจะให้อิสระในการตัดสินใจของเราพอสมควร”

ถ้ามีจะพาไปให้แม่ดูตัวมั้ย?

“ใช่ๆ คือผมเป็นคนที่ ณ ปัจจุบันถ้าผมคบใครก็พาไปให้แม่เจอ เราไม่ได้มานั่งปิดอยู่แล้วว่าอย่าเพิ่งพาไปเจอเลย”

แล้ว ณ ตอนนี้มีใครหรือยัง?

“ก็มีคนคุยอยู่ แต่ว่าไม่ได้ถึงขั้นแบบจะเปิดแล้ว เอา เว้ย คนนี้แหละ ยังไม่ถึงขั้นนั้น คนนี้แม่เจอแล้ว ก็สักพักนึงแล้วครับ”

แม่ว่าไงบ้าง?

“แม่ไม่ได้กังวล เค้าเป็นห่วงฝั่งผู้หญิงมากกว่าฝั่งดี้ด้วยซ้ำ เราจะไปทำเค้าเสียใจมั้ย จะไม่มีเวลาให้เค้าหรือเปล่า ดูแลเค้าไม่ได้ แม่จะเป็นห่วงตรงนั้น เวลาเราเล่าอะไรให้ฟัง สิ่งที่แม่จะถามกลับมาคือ เรามั่นใจแล้วเหรอว่าเราจะดูแลเค้าได้ มันเป็นคำถามที่เรามานั่งคิดว่ามันต้องได้สิ”.

...

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ