อยู่ในโหมด “อินเลิฟ” แท้ๆ แต่สาวอีสานมหัศจรรย์ “ธัญญ่า อาร์สยาม” (ชัชชญา ทวินันท์) กลับส่งเพลงเศร้า “แฟนเก่าบ่เซาลืม” ที่ดึงคู่จิ้นในตำนานอย่าง เบิ้ล ปทุมราช มานั่งแท่นโปรดิวเซอร์ เขียนบท และกำกับเอ็มวีให้ด้วย เป็นชิ้นงานที่มีความสุขมาก หลังจากเคยผิดหวัง การทำเพลงจนถึงขั้นหมดไฟมาแล้ว พร้อมเล่าเส้นทางความรักกับอาร์โล่ แฟนหนุ่มจาก สปป.ลาว รุ่นน้อง ไม่คิดว่าจะคบเด็กแต่แฮปปี้มาก ใน “คนดังนั่งคุย”ทำไมถึงเป็นเพลงแฟนเก่าบ่เซาลืม มีที่มายังไง“เพลงนี้จากปลายปากกาของน้องหนามเตยค่ะ ตอนแรกหนูก็ยังไม่รู้สึกชอบมาก เลยส่งไปให้พี่เบิ้ล ปทุมราช ฟัง พี่เบิ้ลชอบ ทำนองดีเลยนะ เดี๋ยวเรามาเกาเนื้อกัน พี่เบิ้ลมีส่วนในเพลงนี้ 98% เลยค่ะ พี่เบิ้ลอยากกลับมาทำให้เรา เราได้คุยกัน เราไม่ได้ทำงานเพลงด้วยกันตั้งแต่เพลงใจกังวลแล้ว ไม่ได้คุมน้องร้องเพลง หลายคนอยากให้เบิ้ลกับธัญญ่าทำเพลงด้วยกัน จริงๆพวกเราไม่ได้ห่างกัน ยังไปกินข้าว ไปสังสรรค์กัน พี่ลูลู่ พี่ลาล่า พี่เบิ้ล เป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้อง มันโตมาด้วยกัน ทีนี้คุยในวงสังสรรค์เรามาช่วยกันดีมั้ย พี่เบิ้ลช่วยหาเพลงให้จนมาเจอเพลงนี้ พี่เบิ้ลก็มาคุมการร้อง เปลี่ยนไปในทิศทางที่เราโตขึ้นจากแต่ก่อน พี่เบิ้ลบอกเวลาหนูร้องเสียงออกมาไม่เต็ม พอแกคุมร้องเพลงเลยอยากให้หนูร้องเสียงเต็มมากขึ้น เรารู้สึกว่าพอออกมาเป็นเพลงนี้ กลายเป็นชอบฟังตัวเองร้องเพลงมากขึ้น ฟังแล้วรู้สึกสบายหู ไม่รู้สึกกั๊ก เนื้อหาเพลงน้องหนามเตยก็เขียนดี ลืมแฟนเก่าไม่ได้ บ่เซาลืม คือไม่เลิกที่จะลืมสักที ยังมูฟออนไม่ได้ เนื้อหาเหมือนเขาไปแต่งงานกับคนอื่น เอ็มวี พี่เบิ้ลครีเอตออกมาให้เป็นงานแต่งของคนอื่น ชาวบ้านสมัยเก่า มีพี่ลูลู่ พี่ลาล่าและน้องกานต์ ทศน มาช่วย หลายๆคนมาช่วยกันเลย เอ็มวีเลยออกมาบ้านๆ แต่มีความอลังการ วันนั้นมีอุปสรรคในการถ่ายคือ ฝนตกอยู่ประมาณชั่วโมงกว่า น้องกานต์ก็โชว์คาถาใหญ่เลย มาสวดคาถาหยุดฝนกัน พี่เบิ้ลก็จุดธูปไหว้ สุดท้ายผ่านไป 1 ชม.กว่าก็ถ่ายกันต่อ ฝนตกจนฟ้าเปิด ก็ไม่รู้เป็นเพราะคาถาของใคร (หัวเราะ) เพราะวันนั้นต่างคนต่างมู กลัวไม่ได้ถ่ายต่อ” กำลังอินเลิฟแต่ร้องเพลงอกหัก แถมเป็นอาการมูฟออนไม่ได้อีกต่างหาก“จริงๆมันเป็นแค่เพลงเพราะว่า เหมือนสงกรานต์คนไปตื๊ดๆกันเต็มที่เลยเราก็เลยปล่อยออกมาเพลงช้าๆให้ทุกคนได้พักผ่อนบ้าง ความเป็นหนูร้องเพลงช้ามาตลอด ถามว่าอยากออกเพลงเร็วมั้ย อยากทำนะแต่หนูหาเพลงเร็วได้ยากมากเช่นกัน อยากพลิกออกเพลงเร็ว แต่ไม่รู้จะต้องเป็นเพลงขนาดไหน เคยทำเพลงเร็วแล้วหนูเหมือนคนอกหักไปเลย ทำไปพลิกไปเลยยังหาเวย์ไม่ได้ เพลงช้าอินเลิฟก็ไม่ใช่แนวตัวเองก็ต้องเป็นเพลงช้าที่อกหัก เลยไม่เกี่ยวกับชีวิตความเป็นจริง เป็นการสื่ออารมณ์จากเพลงมากกว่า”กระแสเพลงออกมาดีขนาดไหน “เกินคาดมากๆด้วยในติ๊กต่อก คนเล่นติ๊กต่อกจะทะลุไป 3 หมื่นแล้ว เล่นแผ่นเสียงตกใจ เพราะตั้งแต่หนูปล่อยเพลงมาไม่เคยมีใครเล่นแผ่นเสียงเพลงของเราเลย อย่างมากสุดหลักพันแต่ครั้งนี้หลักหมื่นดีใจมาก เพราะเราปั่นไว้ตั้งแต่เพลงยังไม่ได้ปล่อย (หัวเราะ) ส่วนยูทูบล้านกว่าภายใน 6 วัน เป็นสถิติที่พึงพอใจ ก็ดีใจในรอบ 4 ปี”มีคนชื่นชมเสียงดี เสียงเพราะอินเนอร์มาเต็ม“ยกความดีความชอบให้คนคุมเราต้อง อวยยศ สรรเสริญเค้านิดนึง (หัวเราะ) ค่ะ”กับเพลงนี้มีความท้าทายอะไรเกิดขึ้นมั้ย “ไม่มีค่ะเพราะหนูไปท้าทายอะไรเค้าไม่ได้อยู่แล้ว ก่อนเปิดดูผลงานพี่เบิ้ลพูดว่าดูได้นะแต่ไม่มีสิทธ์ิติใดๆ ชอบหรือไม่ชอบก็ไม่ต้องพูด โอเค ตามนั้นค่ะ (หัวเราะ) ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ ทุกคนแฮปปี้ เวลาทำเพลงหนูไม่ได้คาดหวังเหมือนแต่ก่อนแล้วจะต้องดังมากๆ ต้องสำเร็จเพราะเราหวังสูงเราจะเจ็บถ้ามันไม่ได้ดั่งใจเรา หนูจะคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เราตั้งใจทำแล้วออกมาคนดูชอบแม้จะเป็นคนเดียวหรือสองคนที่ชอบ ก็คือคนชอบ ตัวเรามีความสุข มันคือความสุขแล้ว หนูเคยมีโมเมนต์ทำเพลงแล้วทุกข์ แล้วอกหักกับเพลง ไม่อยากทำเพลง เรารู้สึกทำไมแย่จัง ทำไมเราทำไม่ได้ มันกลายเป็นว่าความสุขของเรากลายเป็นความทุกข์ หนูเลยเปลี่ยนทัศนคติใหม่ สิ่งที่เรารักจะต้องเป็นความสุขสิ เราทำงานด้วยความสุข ตรงนี้เราปรับใหม่ ทำให้มันมีความสุข ตอนนี้กลายเป็นเราทำแล้วมีความสุข คนดูชอบ เราชอบ ทีมงานชอบแค่นี้เป็นความสุขแล้ว” เหมือนตอนนี้เราเปลี่ยนมายด์เซตในการทำงานใหม่“ใช่ค่ะ เราคาดหวังเยอะเลยเจ็บมาก ไม่ไหวๆ ไม่ได้ทำเพลงมา 2 ปี ระทวย ร้าวรานมากจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกแย่ไปหมดแต่ตอนนี้ก็ปรับความคิด เปลี่ยนมุมมองใหม่”มีใครที่สะกิดหรือดึงเราออกจากความดิ่งตรงนั้นให้เรากลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “จิตแพทย์ค่ะ (ยิ้ม) จริงๆเมื่อปีที่แล้วหนูรักษาเลยนะ หนูเป็นเยอะ ทั้งเรื่องครอบครัว มันรุมๆไปหมด อยากให้ทุกคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ เราไม่ได้เป็นบ้าแต่ความคิดเรามันเปลี่ยน เคมีในสมองเรามันลบ มันอาจจะมีเคมีบางตัวไม่ได้สมบูรณ์ต่อร่างกายเราต้องไปปรับ ทำให้เราดีขึ้น เป็นผลดีที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตต่อได้อย่างมีความสุข เมื่อก่อนกินยา 5-6 ตัวก่อนนอน แต่ว่าหลังๆลดยาไปเยอะ แล้ว นักจิตฯเค้ามีวิธีการพูดให้เราปรับความคิด ซึ่งมันดีมาก มีทัศนคติใหม่ๆ เราจะรักตัวเองมาก แม้หลายๆ คนถามทำไมหนูอกหักแต่ทำไมมูฟออนได้ไวจัง หนูบอกเลยว่าถ้าเป็นคนปกติยากมากแต่หนูใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์ เพราะหนูคิดบวกและรักตัวเองมาก มีพลังบวกมาก เราต้องรักตัวเอง ชีวิตเราต้องเจอสิ่งดีๆค่ะ”ความทุกข์ที่หนักสุดของธัญญ่าขนาดไหน? “หนูเคยคิดวางแผนการตายเลย หนูเป็นเยอะมากตอนนั้น แต่หนูไม่ได้ออกมาบอกใคร ไม่ได้มานั่งโพสต์เรื่องไม่ดี หนูจะไม่โพสต์ให้ใครเห็น จะท่องไว้เสมอว่า โซเชียลคือสิ่งที่จะต้องทำให้แฟนคลับมีความสุข จะไม่ปล่อยพลังลบให้กับในโซเชียล ถ้าวันที่หนูเพ้อแสดงว่าวันนั้นหนูน่าจะหนักมากค่ะ จริงๆ มันถึงขั้นนั้นจนเราต้องไปหาหมอ จุดเริ่มต้นของการไปหาหมอก็คือมีพี่นักข่าวช่องหนึ่ง เขารู้จักกับคลินิกนี้ เขาเลยแนะนำ ก็เลยไป พอไปแล้วดีขึ้นก็เริ่มรู้สึกว่ามันควรที่จะไป ก็เลยแนะนำคนรอบข้าง” ช่วงนี้งานเยอะมาก ยิ่งงานคู่กับอาร์โล่แฟนหนุ่ม ยิ่งขายดี?“(ยิ้ม) ค่ะ ยิ่งเป็นงานคู่ ไลฟ์สดคู่ยิ่งดี จนทำผลิตภัณฑ์ของตัวเองแล้วและเริ่มขายของตัวเองแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นลูกค้าจ้างไลฟ์แทบทุกวันเลยตลอด 2 เดือน”แฟนๆกรี๊ดคู่ธัญญ่ากับอาร์โล่มาก รู้สึกอย่างไร? “งงมาก เพราะตอนแรกคู่หนูคิดว่าจะไม่เปิดตัว จะไม่อะไรเลย เพราะรู้สึกว่าไม่อยากเอิกเกริกอีกแล้ว อยากอยู่เงียบๆ เป็นความรักที่รู้กัน 2 คน แต่ก็ไม่ได้ปิด แค่ไม่อยากลงรูปคู่บ่อย ไม่อยากมาเล่นโซเชียลเป็นคู่ แต่สุดท้ายเราแค่อยากให้เกียรติเขาสักคลิปหนึ่งว่าเรามีแฟน เพราะเขาลงรูปคู่เราเพื่อเป็นการให้เกียรติเรา 1 รูป เราตกลงกันว่าจะลงสักรูปเพื่อเป็นการให้เกียรติกัน และเขาก็มีคนเข้ามาเยอะมาก หนูหวงเขาก่อน (ยิ้ม) ด้วยความที่เขาเด็กกว่าด้วย เพราะหนูโดนกระทำมาหมาดๆ หนูกลัว และเขาก็เด็กกว่า และยังหล่อ จิ้มลิ้ม และหนูก็หวงเด็ก หนูเข้าไปดูเฟซฯเขา คนกดหัวใจเยอะมาก มีแต่สาวลาวน่ารักๆทั้งนั้น ทำไงจะทำให้หนูมั่นใจ ให้หนูไม่คิดมาก เขาก็ถามว่าจะให้ทำยังไง หนูก็บอกว่าคิดเอา หนูไม่อยากไปสั่ง แล้วเขาก็ลงรูปหนูเอง เขาให้เกียรติเรา เราก็เลยให้เกียรติเขา และพื้นที่ที่จะลงและสื่อไม่น่าจะไปเห็น หนูไม่ต้องการเป็นข่าว เพราะถ้าหนูลงไอจีหรือเฟซบุ๊กมันต้องเป็นข่าวแน่ๆ สิ่งที่หนูคิดว่าไม่น่าจะเป็นข่าวคือหนูไปลงติ๊กต่อก (หัวเราะ) และติ๊กต่อกคนดูหลายล้านมาก หลังจากนั้นก็เป็นกระแส เพื่อนหนูก็ไปลงคลิปอีก ก็เลยมีคนติดตามเรามากขึ้น เราวิดีโอคอลแบบหน้าคู่แล้วมีคนชื่นชอบ เราเลยทำทุกวัน จนมีงานเข้ามา” เป็นคู่ที่หนุนกัน งานโอเค เงินโอเค รักโอเค?“ใช่ค่ะ มาพร้อมๆกันหมดเลย รู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนที่เข้ามาทำให้เราดีขึ้น แต่เราก็ยังไม่ได้ตัดสินทั้งหมด ต้องดูไปเรื่อยๆค่ะอย่างที่บอก”ตอนที่เริ่มจีบกันเขารู้มั้ยว่าธัญญ่าคือนักร้อง? “ไม่รู้จักเลย ครั้งแรกที่เจอที่ลาว เขาไม่รู้เลย รู้แค่ว่าเราร้องเพลงเป็น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ และหนูเห็นเขาก่อน เล็งล็อกเป้าไว้แล้วค่ะ แต่ไม่คิดว่าเจ้าของงานจะจูงมือเขามาทำความรู้จักกับหนู ก็เลยได้รู้จักกันตั้งแต่วันนั้น”รักระยะทางไกลกับอายุที่ห่างกัน มีอุปสรรคหรือปัญหาอะไรมั้ย? “สำหรับระยะทางตอนแรกไม่มีค่ะ เพราะเขามาบ่อยมาก อายุมีค่ะเพราะว่าหนูเป็นคนที่ทำงานตั้งแต่เด็ก และโต เลยรู้สึกว่านิสัยเราโตมากและเป็นคนที่ทำงานตลอดเวลา ส่วนเขาก็ทำงานแต่เด็ก แต่ก็เพิ่ง 22-23 ก็ยังมีความงอแงอยู่บ้าง ก็ต้องค่อยๆ ปรับกันไปค่ะ ต่างคนต่างปรับเข้าหากัน”อาร์โล่เค้ามีอาการหวงเรามั้ย?“มีหวงเรื่องการแต่งตัวค่ะ (ยิ้ม) เป็นสิ่งที่เราเคยใฝ่หามาตลอดว่าทำไมเวลามีแฟน ทำไมแฟนไม่หวงเรื่องการแต่งตัว พอมาเจอคนนี้หวง ไม่ได้ถึงขั้นส่งชุดที่จะใส่ให้เขาดู แต่เหมือนว่าเวลาใส่เสื้อผ้า ใส่เอวลอย เขาก็จะดึงๆ ซึ่งหนูมีความสุข (ยิ้ม) หนูรู้สึกว่าหนูสวยมาก หนูแฮปปี้มาก หนูรู้สึกว่าเขาหวงเรา เรารู้สึกว่ามีคุณค่า ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิด รำคาญ หรือว่าเยอะไปนะคะ และเขาก็ไม่ได้ทำเยอะไป แค่มีคำถามว่าทำไมต้องใส่โชว์ เราก็รู้สึกสวยมาก (ยิ้ม)”เคยคิดมั้ยว่าตัวเองจะมีแฟนที่เด็กกว่า? “ไม่เคยเลยค่ะ เพราะว่าชอบคนอายุเยอะกว่า ให้สัมภาษณ์ว่าชอบคนอายุเยอะกว่ามาตลอด ไม่เคยจะคิดคบเด็ก”ตอนนั้นที่เล็งๆ คิดมั้ยว่าเขาอายุน้อยกว่า “ไม่ค่ะ ตอนนั้นคิดว่าเขาอายุ 27-28 แล้ว เขาแต่งตัวโตมาก เขานิ่ง บุคลิกเขาโต เขาวางตัวนิ่งค่ะ เลยคิดว่าอายุมากกว่าแน่ๆ แต่พอคุยและรู้ว่าอายุน้อยกว่าก็ถอยไม่ได้แล้ว (หัวเราะ)”ที่บ้านว่ายังไงบ้าง โดนแซวมั้ย กินเด็กเป็นอมตะ? “เรื่องโดนแซวก็มีบ้างค่ะ (หัวเราะ) แต่หนูว่าทุกอย่างถ้าเราไม่ไปมองเรื่องอายุ หนูไม่เคยเจอคนที่มาช่วยหนูทำมาหากินแบบนี้ (ยิ้ม) แล้วเขาก็ชัดเจนว่าเขาอยากจะช่วยเราให้เราดีขึ้น เขาจะพูดเรื่องปิดบ้านปิดรถตลอด เพราะหนูพูดตลอดว่าอยากปิดบ้าน ปิดรถให้ได้เร็วๆ จะได้มีครอบครัว เพราะเรา 26 ปีนี้ เขาก็เลยจะพูดเรื่องปิดบ้าน ปิดรถตลอด เพราะเขาก็อยากสร้างครอบครัวแล้ว เพราะเขาก็เป็นคนที่ครอบครัวไม่ได้สมบูรณ์ เขาเลยอยากมีครอบ ครัวที่สมบูรณ์เหมือนกัน เรามีเป้าหมายตรงกัน ก็เลยง่ายที่จะคุยกัน”.เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน