กลับมาเขย่าวงการเพลงอีกครั้งให้แฟนเพลงได้ว้าวเหนือความคาดหมาย ศิลปินและโปรดิวเซอร์มากความสามารถ “เดอะ ทอยส์” (THE TOYS) หรือ “ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน” สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ!! คัมแบ็กมาพร้อมอัลบั้ม “6667” โปรเจกต์ใหม่ ฉีกแนวดนตรีมาจัดหนักกับแนวเพลงเมทัลร็อกสุดเดือด เปิดด้วยเพลง “งูงู้ (SNAKE)” ชื่อเพลงน่ารักที่เชือดเฉือนด้วยความหมาย เปรียบเปรยถึงคำพูดของคนที่ร้ายกาจเหมือนพิษร้ายของ “งู” ถ่ายทอดเรื่องราวของความรักที่เต็มไปด้วยคำหวานแต่แท้จริงแล้วอบอวลไปด้วยยาพิษ คำหลอกลวงงานนี้ “เดอะ ทอยส์” ได้โชว์เสียงว้ากครั้งแรกในชีวิตทำเอาฮือฮาทั้งวงการในบุคลิกมาดนิ่ง พูดน้อย ของหนุ่ม “เดอะ ทอยส์” กลับสวนทางกับการกล้าก้าวออกมา ทำเพลงในแนวที่หลากหลายเพราะในโลกของ “เดอะ ทอยส์” มีหลากหลายมิติ แต่สุดท้ายทุกอย่างที่ออกมานั้นมาจากการที่หนุ่มคนนี้ใช้ “ดนตรี” นำทุกสิ่ง ฟีดแบ็กต่างๆจากการเป็นคนดังที่ถูกจับตา จับจ้องหรือกระแสดราม่า ไม่มีผลกระทบต่อจิตใจแต่ขอใช้เวลาเดินหน้าผลิตงานเพลงแบบที่ตัวเองอยากทำและทำให้ดีที่สุด “เดอะ ทอยส์” เล่าถึงโปรเจกต์ล่าสุดนี้ว่า...คนเซอร์ไพรส์กับการเป็นสายร็อกของเดอะ ทอยส์ เป็นอีกด้านที่อยากทำออกมา?“ใช่ครับ จริงๆผมเคยทำตอนเด็กๆอยู่ช่วงนึง แต่ยังทำไม่เป็นรูปเป็นร่าง ตอนนี้เลยอยากทำ เอาง่ายๆก็คือสนองความต้องการของตัวเอง” มีที่มาที่ไปยังไงถึงเปิดตัวเป็นชาวร็อก? “ถ้าถามถึงที่มา ที่ไปจริงๆก็ไม่ค่อยมี แค่อยากทำงานเพลงเมทัลร็อก แรงๆ เล่นกีตาร์ ผมคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เราฟังมาตั้งแต่เด็ก เราโตมากับเพลงเมทัลร็อกแบบนี้ มันวนเวียนอยู่ในหัวอยู่แล้ว ส่วนการเตรียมตัวกับการเล่นเพลงแนวร็อก ผมก็ต้องเตรียมตัวมากขึ้นครับ”ทำไมถึงเลือกทำตอนนี้? “เหมือนตอนนี้เราอยากทำอะไรสักอย่าง ที่มันแปลกใหม่กับตัวเราเอง”จุดเริ่มก่อนหน้านี้ เราเป็นแชมป์ Overdrive Guitar Contest ประเทศไทย พลังความชอบเพลงร็อกมันอยู่ในตัวเรามาอยู่แล้วหรือเปล่า? “ผมชอบเพลงร็อกตั้งแต่เด็กๆ แต่ยังไม่เคยได้ทำออกมา และในเพลงที่ผ่านๆมาผมไม่ค่อยได้เล่นกีตาร์เลย โปรเจกต์นี้ก็คือผมเล่นแต่กีตาร์อย่างเดียวเลย” เพลง “งูงู้” ทำไมถึงเป็นเพลงอกหักถูกผู้หญิงทำร้ายจิตใจ เรื่องราวมาจากไหน?“ตอนแรกผมคิดเป็นเชิงสัญลักษณ์ ก่อน ถ้าพูดถึงความเป็นร็อกอะไรคือ ซิมโบลชัดๆ ผมคิดว่าเป็น เสือ สิงโต งู สุดท้ายชอบงู ก็เลยหยิบงูมา แล้วเขียนถึงงูว่าเป็นอะไรได้บ้าง ก็งูพิษ เป็นการหลอกลวงแล้วกัน เหมือนคนที่ทั้งๆที่เวลาที่เค้ากอดเรานั่นคือเค้าแสดงความรักเราแต่เค้าไม่ได้หวังดี มีเพลงมาก่อน แล้วค่อยเป็นเนื้อเพลงมา”แล้วทำไมต้องชื่อโปรเจกต์ 6667? “เป็นเลขของห้องที่ผมเคยอยู่ตอนเด็กๆ เลยจำเลขนี้ได้ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อินเพลงร็อกพอดี น่าจะทำออกมา 3 เพลงในปีนี้” เพื่อนๆร่วมวงว่ายังไงพอเราบอกว่าอยากทำเพลง ร็อก? “เค้าโอเคอยู่แล้วเพราะเค้าสายร็อก อยู่แล้ว”ทำไมต้องชื่อเพลง งูงู้ ดูน่ารักขัดกับความร็อก? “จริงๆผมอยากสื่อว่าเธอมันคืองู ผมว่ามันแรง เธอมันคืองูงู้ ผมชอบ แต่ความเมทัลร็อก เพลงคือเธอใจร้าย เธอหลอกเรา”หลายคนเซอร์ไพรส์ที่ได้เห็นทอยว้าก? “จริงๆตอนเด็กๆเราก็ร้องเพลงพวกนี้ เรารู้สึกว่าเราน่าจะทำได้ มันเหมือนเราร้องเพลงแบบนี้ได้”ฝึกทำเสียงดังอยู่ที่บ้านบ้างมั้ย? “อยู่บ้านไม่ได้พูดอะไรเลย”แฟนๆดูรอคอยและดีใจที่ได้เห็นพาร์ตนี้ของเรา? “ก็ขอบคุณมากๆเลยครับ”พอได้ทำอะไรแปลกใหม่ให้ตัวเองวันนี้แล้วความรู้สึกมันเป็นยังไง? “ความรู้สึกคือสะใจ แค่นั้นเลย ไม่ได้คิดมุมอื่นเลย” ความรู้สึกเวลาจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆกับตัวเองสักครั้งมันเป็นยังไง? “ผมแค่คิดว่าอยากทำ ความรู้สึกมันก็เหมือนเวลาเราอยากออกไปกินข้าว ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น อยากลองทำก็ทำเลย”หลังปล่อยเพลงมาได้ดูฟีดแบ็ก ต่างๆบ้างมั้ย? “ไม่ได้เช็กเลยครับ ทำเพลงแล้ว ก็ออกไปเล่นดนตรี”ความเป็น “เดอะ ทอยส์” เวลาปล่อยเพลงก็จะเจอ หลายอย่าง ทั้งแฟนๆที่รอคอย คน เปรียบเทียบ ดราม่า มันมีผลกระทบอะไรกับตัวเรามั้ย? “ไม่มีเลย” ไม่ได้มองฟีดแบ็กหรือผลลัพธ์? “ใช่ครับ ผมมองว่าตรงนั้นเราคุมอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ทำสิ่งที่เราคุมได้ และทำให้มันดีที่สุด” แล้วกำลังใจที่ได้รับจากแฟนเพลงได้จากทางไหน? “ผมคิดว่าคงเป็นเวลาเราไปเล่นดนตรี ได้เจอแฟนๆ ได้รับจากตรงนั้น นานๆมากๆจะมีคนรอบตัวมาเล่าถึงฟีดแบ็กต่างๆ เช่น เวลาประชุมกับค่าย”การทำเพลงจากวันแรกที่เริ่มในห้องนอนจนถึงวันนี้มีอะไรเปลี่ยนไปมั้ย? “ผมว่ามันเปลี่ยนทุกเพลงในวิธีการทำงาน ผมก็พยายามหาวิธีที่มันไม่ซ้ำไปเรื่อยๆทุกเพลง” เวลาผุดไอเดียทำเพลง ทุกอย่างมันมาพร้อมกันมั้ย? “มันมีไอเดียเหลือๆกระจายอยู่ในหัว เพียงแค่เราหยิบมันมาใช้” มีวันที่ไอเดียตันๆมั้ย? “ผมยังไม่เจอวันที่คิดไม่ออกมากๆนะ”เติมไอเดีย ความคิดตัวเองยังไง? “ผมมองว่าเรามีกระดาษเปล่าแผ่นนึง เราอยากวาดอะไรลงไปก็วาด”ชีวิตดูนิ่งๆแต่มีความหลากหลาย? “สำหรับผมนะ ผมคิดว่าการอยู่นิ่งๆน่าจะคิดอะไรออกกว่าการออกไปข้างนอก” มีแนวเพลงที่ชอบแล้วยังไม่ได้ทำมั้ย? “จริงๆผมคิดไว้เยอะมากเลยนะ”ช่วงหลังในเพลงเราเหมาเองทุกตำแหน่งทุกกระบวนการผลิต จะยังทำอย่างนั้นต่อมั้ย? “ผมมองว่ามันสะดวกดีที่เราทำอะไรเองหมด”ทำให้แฟนๆว้าวได้ตลอด แล้วมีอะไรบ้างที่ทำให้ชีวิตทอยว้าวได้ ณ ตอนนี้? “การได้กินอาหารอร่อยๆ (ยิ้ม)”เรื่องที่ยังท้าทายในวงการเพลงล่ะ? “ตอนนี้ผมทำค่ายเพลงอยู่ อยากให้ศิลปินคนอื่นๆได้รับพลังงานแบบเดียวกับที่ผมได้รับ อยากแชร์ตรงนี้ออกไปให้คนอื่นได้รับเช่นกัน”ณ ตอนนี้ ในฐานะผู้บริหารค่ายเพลง WHOOP (วูฟ) เราถ่ายทอดแนะนำศิลปินในค่ายยังไงบ้าง? “จริงๆผมให้อิสระเลย แต่แค่เอาส่วนที่มันยังเป็นรอยรั่ว ผมก็จะแปะให้ทำให้มันชัดเจนทางดนตรี” การวางตัวเป็นศิลปินล่ะ เราแนะนำยังไงบ้างมั้ย? “อิสระเลยครับ ให้ทางค่ายดูแลไป”มองวันแรก ที่เราเข้ามาเป็นศิลปินของค่ายกับวันนี้ที่เรามาทำค่ายเพลงของตัวเอง ปั้นศิลปินเองมันยากง่ายต่างกันอย่างไร? “มันก็เหมือนจะคนละแบบแต่สุดท้ายเราก็ดูกันด้วยเรื่องของเพลงอยู่ดี ตัวศิลปินเองเค้าก็จะมีเดโมมาอยู่แล้วประมาณนึงเราก็แค่เกลี่ยให้มันมีอะไรมากขึ้น โดยที่ไม่ไปเปลี่ยนอะไรเค้ามาก”แล้วถ้าในพาร์ตของเพลงตัวเองว่ายังมีจุดไหนที่ยังท้าทายเราและอยากทำ? “อย่างที่บอกคือเหมือนผมทำสนองความต้องการของตัวเอง ทำไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาก็ทำสนองนีดตัวเอง (ยิ้ม) อย่างลุคในโปรเจกต์นี้ บางคนคิดว่าร็อกหรือฮิปฮอป อาจจะดูการแต่งตัวเป็นหลัก ผมให้เน้นไปที่ดนตรีดีกว่า หมี ก็เหมือนตัวเราในอีกมัลติเวิร์ส น่าจะเป็นแบบนี้ เป็นสายว้าก”มีฝันอะไรที่อยากทำ แล้วคนไม่ค่อยรู้บ้างมั้ย? “ต่อไปใช่มั้ยครับ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเพลงอาจจะเป็นเรื่องธุรกิจ ณ วันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าทำอะไร แต่ ณ วันนี้ก็เริ่มลงทุนในอสังหา ริมทรัพย์ และเริ่มสนุก เป็นเรื่องที่สนใจมาสักพักนึง” เรื่องเกมล่ะก็ลงทุนไปเยอะ ได้กลับมามั้ย? “จริงๆน่าจะเท่าทุน มันเสียไปและได้กลับมา” เรียกว่าถ้าได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เราไม่ได้คิดว่าคนจะมองเรากลับมายังไง? “คือถ้าเป็น ตัวผมเอง ผมเอาเวลาไปลงทุนต่อดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาเยอะ คิดแล้วไปต่อเลย ถ้ามาหยุด ผมคิดว่ามันไม่เกิดประโยชน์”เวลาเราเรียนรู้อะไรด้วยตัวเองมันมีอุปสรรคมั้ยว่าเรารู้เรื่องนี้ถึงแก่นหรือยัง? “ผมคิดว่ามันต้องมีไม้บรรทัดของตัวเอง ถ้าเราจะไม่ใช้เทรนเนอร์ หรือครู เราต้องมีไม้บรรทัดของตัวเองที่มันตรงมากๆ แล้วเราจะทำอะไรได้แม่นขึ้น ถามว่าที่มันตรงได้เกิดจากอะไร ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้คำว่าสมาธิได้หรือเปล่า ถ้าสมาธิเราดี เราจะเข้าใจมัน” ความเป็นเพื่อนซี้กับ โบกี้ ไลออน (BOWKYLION) กลายเป็น ไวรัล ทำให้คนเห็นมุมต่างๆเรามากขึ้น? “จริงๆผมดีใจที่วันนี้โบกี้มาไกลมากๆ สนุกดีครับ ที่มีเพื่อนสนิท ลุยทำงาน มาด้วยกัน ผมก็สบายใจเวลาอยู่กับเค้า”คอยเตือนคอยแนะนำอะไรเราบ้างมั้ย? “ตอนนี้เค้าน่าจะไม่ค่อยมีเวลาด่าอะไรผม เพราะเค้างานเยอะ จริงๆมีอะไรเราก็เตือนกันตลอด เช่น บอกให้จับไมค์ด้านนี้ ละเอียดอยู่ ช่วยๆกันดู” เพลงต่างๆล่ะแชร์กันมั้ย? “เรื่องเพลงผมจะไม่ค่อยยุ่งกับใคร ผมชอบที่คนนั้นเป็นแบบนั้นแหละ เท่แล้ว”ถึงตอนนี้คิดว่าตัวเองบาลานซ์ชีวิตได้ดีกว่าตอนแรกๆมั้ย? “ดีนะ ผมว่าจุดนี้คือจุดที่ผมสบายที่สุด ผมเซตวิธีคิดได้แล้ว ว่าเราควรจะคิดอะไรยังไงในแต่ละเรื่องของชีวิต การลงทุน เล่นเกมเพลง โปรดักชัน”7 ปีกับการเติบโตเข้มข้นจากวันที่อายุ 20 มาอยู่ในวงการมันเปลี่ยนชีวิตมั้ย? “เหมือนผมทำอะไรจนชินไปแล้ว” จบซีซันร็อกแล้วอยากทำอะไรต่อ? “ผมอยากลองจับตะเกียบด้วยมือซ้าย คิดว่าถ้าเราจับตะเกียบด้วยสองมือคงดี” แปลว่าเรื่องการกินมีความสุขมากสำหรับเรา? “ใช่ครับ”การดูแลคนรอบตัวเราล่ะ ดูแลคนอื่นได้ดีขึ้นมั้ยทั้งครอบครัว คนรัก? “ผมคิดว่าผมดูแลดีนะเท่าที่มีเวลา ส่วนใหญ่ก็พาที่บ้านทุกคนไปเที่ยว แต่ผมอยู่บนรถนะ (หัวเราะ) ได้พาพวกเค้าไปแล้ว แต่ก็ดีใจที่ได้ขับรถพาเค้าไป ซึ่งถ้าเกิดค้างคืนเราก็จะลงรถไปนอนแล้วก็กลับมาอยู่บนรถ” เรียกว่านั่นคือความสุขแล้ว? “ใช่ครับ สำหรับ ณ ตอนนี้ (ยิ้ม)”ความสัมพันธ์กับคนรักล่ะ ดูแลเค้ามากขึ้นมั้ย? “เหมือนเดิมเลยครับ” กับแฟนๆเพลงล่ะเราเปิดมากขึ้นมั้ย? “ก็เคยคิดว่าอยากมีมีตติ้งกับแฟนๆ แต่คงต้องให้ค่ายเป็นคนวางแผน”การติดต่อสื่อสารกับแฟนเพลงล่ะทำมากขึ้นมั้ย เช่น ลงรูป ในโซเชียล? “ก็มีบ้าง ให้ได้ติดตาม”มีอะไรมั้ยที่แฟนๆทำให้เราประทับใจว่า การที่เค้าชอบเราแล้วทำให้ชีวิตเค้ามีความสุข? “จริงๆเคยมีคนเข้ามาบอกกับผมนะครับ ผมก็ดีใจที่มันเกิดประโยชน์กับคนอื่นได้จากสิ่งที่เราทำ ผมอาจจะจำเหตุการณ์ไม่ได้ชัดๆ แต่มันดีใจที่ทำให้รู้สึกว่าเราช่วยเค้าได้” การได้กลับมาอยู่ในบรรยากาศการทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งเป็นยังไงบ้าง? “ดีเลยครับ รู้สึกสนุกกับดนตรีเหมือนเดิม ผมว่าแฟนๆเติมพลังให้เราเยอะเลยครับ”.