ไม่เล่นไม่ได้แล้ว สำหรับโตโน่–ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ พระเอกหนุ่มร้อยล้าน กลับมาร่วมงานกับหม่ำ จ๊กมก นักแสดงตลกไอดอล อีกครั้งในภาพยนตร์ “ส้มปลาน้อย” สร้างโดย ค่าย M39 ร่วมกับบั้งไฟฟิล์ม ฟินสุดๆที่ได้เล่นหนังเว้าอีสานบ้านเกิด ภารกิจว่ายน้ำข้ามเกาะ ปลุกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังไม่ล้มเลิก!! ตั้งใจปีหน้าจะต้องทำภารกิจลุล่วงแน่นอน ส่วนความรักยอมรับแฮปปี้สุดๆ นางเอกสาว–ณิชา ณัฏฐณิชา คอยเป็นกำลังใจที่สำคัญ ซัพพอร์ตกันและกัน ใน “คนดังนั่งคุย”

ตัดสินใจเล่นหนังเรื่อง “ส้มปลาน้อย”

“ความจริงแล้วผมรักพี่หม่ำ ผมภูมิใจที่ได้ใช้ภาษาบ้านเกิด จริงๆตั้งแต่หนังเรื่องส่มภัคเสี่ยนแล้ว มาเรื่องนี้ อยู่ในจักรวาลเดียวกัน เป็นภาคต่อแต่ว่าเนื้อเรื่องหลักเน้นที่น้อย ฝาแฝดของเสี่ยน มีเหตุการณ์ ตัวละครใหม่ๆทำให้เนื้อเรื่องสนุก เข้มข้นมาก มีตัวละครมาเพิ่ม อย่างครูเต้ย อภิวัฒน์, น้องอุ้ม อิษยา”

บทน้อยที่โตโน่เล่นสนุกจับใจขนาดไหน “ผมว่าท้าทายดีด้วยกับการที่จะต้องเล่นเป็นแฝด แล้วเราได้เจอนักแสดงใหม่ๆ รวมถึงการกลับมาร่วมงานกับพี่หม่ำ น่าจะสนุกและเรารอคอยอยู่แล้ว พอเราได้เห็นบท ได้ถ่ายทำสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศเดิมๆ กลับมาแต่มีความแปลกใหม่ที่ใส่เข้าไปเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ เราได้ทีมงานที่เก่ง มารวมตัวกันทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ดีใจงานมันเสร็จและใกล้ฉายให้คนไทยได้ดู อยากให้คนไทยมีความสุข”

บรรยากาศกองนี้คึกคักครื้นเครงน่าดู

“ดีใจผมกลับมาเจอพี่หม่ำ และเป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอพ่อพรศักดิ์ ส่องแสง ร่วมงานครั้งแรกเลยครั้งแรกเจอครูเต้ย น้องอุ้ม ไม่เคยร่วมงานมาก่อน”

...

ต้องร่วมงานกับคนใหม่ๆ ทำลายกำแพงกันยังไง “จริงๆแล้วค่อนข้างเข้ากันได้เร็ว ด้วยความที่เป็นตัวละครด้วย ไอ้น้อยที่เราเล่นมันซื่อๆ ไม่ได้มีอะไรเข้าใจยาก เป็นตัวละครจริงใจ เวลาเข้าซีนไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ผมจะเอาความทรงจำช่วงอยู่ที่ขอนแก่น ลักษณะความคิดกับเพื่อนๆ ตอนที่เราอายุสิบกว่าๆ ช่วงวัยรุ่น ใครๆต้องเคยมีความรัก หลงรักเราแล้วมาวันนึงเจอกับคู่แข่ง รวย ดูดี เข้ามาทำให้โลกของเรามีปัญหา เราค่อนข้างเป็นตัวแทนของคนเหล่านั้น”

ทำให้นึกสมัยป๊อปปี้เลิฟว่างั้นเหอะ “ด้วยครับ คนบ้านผมโดนเยอะ โดนแย่งแฟนไปเพราะเขารวยกว่า แพ้คนกรุง”

บทในเรื่องเล่นเป็นฝ่ายรักเขาข้างเดียวแอบขัดใจในความเป็นโตโน่มากน้อยขนาดไหน “ไม่ครับ คือจริงๆเป็นความสัมพันธ์ที่แบบ อยากให้เข้าไปดูในโรงมากกว่า อธิบายเหมือนกับมันผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก เพียงแค่ไม่กล้าบอกรัก และกลัวว่าบอกไปจะไม่เหมือนเดิม แต่เพราะความไม่บอกนี่แหละ เขาถึงเข้ามา พอเขาเข้ามามันจะทำยังไงต่อไปต่างหากล่ะ”

ถ้าชีวิตจริงเราตกอยู่ในสถานการณ์ แบบนี้ล่ะจะแก้ปัญหา ยังไง

“โอ้ ก็เจ็บปวดแหละครับ ถ้าเป็นตัวน้อยจะทำยังไงผมไม่บอก อยากให้ไปดูกันเอง แต่ถ้าเป็นตัวผมผมจะต้องสู้นะ ถ้าผมรักต้องสู้ แต่แพ้คือแพ้ ถ้าเขาเลือกแล้วจบ ก็ต้องทำใจ แต่ถ้าเขายังไม่ได้เลือก มันยังมีโอกาสอยู่ เราคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยกเว้นเรารู้ผู้หญิงมีความสุขกับคนนั้น เราต้องดูผู้หญิงเขามีใจมั้ย ถ้าไม่มีใจตั้งแต่แรกเราควรรู้ตัวไม่ใช่ดันทุรังทำให้เขาลำบากใจมากกว่าเดิม”

ร่วมงานกับอุ้มแรกๆ มองน้องยังไงบ้าง “ตอนแรกคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำจะออกมายังไง แต่พอเข้าด้วยกันแล้วอุ้มเก่ง มีความเป็นธรรมชาติเลยทำให้ง่ายเวลาเข้าซีน จะยากตอนเข้าซีนกับพี่หม่ำ หรือซีนที่บางทีกลั้นหัวเราะกันเอง มันยากขนาดไหน ผมว่าผมเป็นคนเส้นตื้นนะ คือถ้าบู๊ ดราม่าผมค่อนข้างมั่นใจ พอเป็นตลกผมกลั้นไม่ไหว บางทีเห็นหน้าพี่หม่ำ แล้วมีซีนบางซีน ผมกำลังอกหัก พระมาปลอบใจ คือเป็นพี่หม่ำปลอบใจแล้วเราต้องหันไปถามพระว่า... ‘มหา มหาเคยหน้าตาดีบ่’ มหาๆ เคยหน้าตาดีหรือเปล่า แล้วเราต้องมองหน้าแก แล้ว แกตอบกลับมาว่า ‘เคย’ มันต้องกลั้นหัวเราะเพราะเป็นหน้าพี่หม่ำ มันยากตรงที่กำลังดราม่าอยู่แล้วต้องมองหน้าพี่หม่ำนี่แหละ ดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนที่เราชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นพี่หม่ำ พี่พรศักดิ์ พี่ฝน ธนสุนทร มีนักแสดงอีกหลายคนเลยที่เรารู้สึกว่ารักพวกเขา”

ไม่ค่อยเห็นโตโน่รับงานหนังละครแบบถี่ๆรัวๆเท่าไหร่เลย

“นานๆทีครับ ส่วนใหญ่ผมจะรับละครปีละเรื่อง หนังปีละเรื่อง จะไม่รับชนกัน แล้วช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ไปเน้นเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย มันทำให้เวลาในการรับงานของเราน้อยลงไป แต่ทุกครั้งที่รับเราก็ทุ่มเทกับมันมาก เวลาเราทำอะไรสักอย่างเราจะทำทีละอย่าง แล้วทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาผมรับบท อย่างล่าสุด เรื่องพระจันทร์แดง ผมรับบทเป็นเสือ มันต้องทำการบ้านเยอะมาก ใช้พลังเยอะ ไม่ไหวถ้าจันทร์-พุธ เล่นเป็นคนนี้ พฤหัสฯ-ศุกร์ ต้องเล่นเป็นอีกคน ผมไม่ไหวครับ เลยรับทีละเรื่อง และรับปากกับพี่หม่ำตั้งแต่แรกเอาไว้ด้วย ถ้าพี่ทำภาคสองเราจะมาเล่นให้ก็มีผู้จัด คนทำหนังติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ถามว่ามีเสียดายมั้ย แต่ผมรู้ว่าถ้าผมทำเต็มที่ให้เค้าไม่ได้ ผมจะไม่ทำครับ ถ้าผมรับปาก ผมจะทุ่มทุกอย่างให้กับทีมทีมนี้เลย ผมจะเอาชีวิตของผมเป็นคนคน นั้นเลย ดังนั้นการไม่รับไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาไม่ดี แต่เราอยากเต็มที่ให้เขา เลยรับงานได้น้อยครับ (หัวเราะ)”

...

ก่อนหน้านี้เห็นโตโน่ว่ายน้ำข้ามเกาะ กิจกรรมจะมีต่อเนื่องอีกมั้ย

“ผมตั้งใจปีหน้าที่จะมาถึงผมจะว่ายให้จบ เหลือครึ่งทาง เหลือประมาณ 30 กิโล มันประสบความสำเร็จในเรื่องของยอดบริจาคเราได้มาเกือบ 20 ล้าน ซื้ออุปกรณ์เลยทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวมถึง รพ.ที่อยู่ตามชายฝั่งตามเกาะ แต่ว่าการว่ายครั้งนี้เราได้พูดไปแล้วด้วยผมจะว่ายตัวเปล่าให้ถึงสมุย สองคือมันมีบ่อเต่าที่อยู่ที่เกาะมันใน เป็นบ่อเต่าอนุบาลแบบเปิด เป็นบ่อเดียวในประเทศและในอาเซียนด้วยครับ มันพังลง ผมอยากใช้ 30 กม.ที่เหลือเอายอดบริจาคเท่าที่ทุกคนจะเห็นว่ามันสมควร คนที่เชียร์เราเอาไปซ่อมแซมบ่อเต่าให้มันกลับมาทำงานได้ น่าจะเป็นช่วงกลางปีหน้า ผมรอละครเรื่องใหม่ที่กำลังเปิดกล้อง ถ่ายทำและปิดกล้องให้เรียบร้อยก่อน ผมอยากให้คนรู้ว่าเราว่ายเพราะอะไร ให้รู้ว่าทะเลมันสำคัญยังไง เรากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเสียงของเราพอจะมีคนฟังบ้าง ผมว่ามันก็คุ้มครับถ้าหากจะเกิดอะไรขึ้น”

รอบแรกที่ว่ายน้ำอยู่กลางทะเลในใจเรานึกอะไรอยู่ “บางทีก็นึกถึงพระครับ (หัวเราะ) บางทีจ้วงไปก็พุทโธ บางทีคลื่นมันใหญ่มันแรง มองไม่เห็น นึกถึงกรมหลวงชุมพร นึกถึงสัตว์ทะเล บางที 500 เมตรหนักว่า 4-5 กม.อีก บางทีเป็นช่วงกระแสน้ำ ต้านเราพอดี”

...

ถึงอันตรายแต่ใจใหญ่มาก “อยากให้เด็กๆอยากให้ทะเลบ้านเราสวยๆ และสิ่งที่มีค่ามากและเป็นกำลังใจคือเวลาคุณหมอ คุณพยาบาลได้ใช้ความสามารถของเราอย่างเต็มที่ มีเครื่องมือ ผมเสียใจตอนมาเรียม คนร้องไห้ตอนเห็นพะยูนมาเรียมตาย ผมไม่อยากให้คุณหมอร้องไห้ อยากให้คุณหมอได้มีเครื่องมือได้ตรวจว่ามันเป็นอะไร อ่อ มันกินขยะ มีเครื่องเอกซเรย์ อย่างน้อยๆได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ แต่ไม่ใช่แบบว่าอยากจะช่วยแต่ไม่มี แล้วผมพอทำอะไรได้บ้าง ผมก็มีแค่นี้ครับ ตัวผมนี่แหละ โอเคว่ายน้ำแล้วกัน ผมไม่ได้มีต้นทุนอะไร ต้นทุนที่สูงที่สุดและมีค่าที่สุดสำหรับผมคือชีวิตผม ผมก็เอาต้นทุนของผมนี่แหละเอาไปเล่นในเกมนี้”

ชีวิตทำเพื่อคนอื่นตลอดๆ แล้วชีวิตครอบครัวเราเริ่มมองบ้างหรือยัง

“ไม่ครับ คือตอนนี้ผมให้กับงานและคุณแม่มากๆครับ ผมมีความรู้สึกว่าผมอยากพาแม่ไปเที่ยว ผมเห็นคุณแม่เริ่มแก่ลง ผมไม่อยากพาท่านไปตอนที่ท่านเดินไม่ไหวแล้ว ในตอนนี้ท่านยังมีแรงเดินวิ่ง หัวเราะ ยังมีแรงด่าผม ผมก็เลยอยากจะทำให้ท่านมีความสุขที่สุด จริงๆมีแพลนพาไป พอเจอโควิดเลยยังออกไปไหนไม่ได้ อยากพาท่านไปเที่ยวต่างประเทศ เคยพาท่านไปเที่ยวญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้พาไปไหว้ไอ้ไข่ ไหว้ศาลหลักเมือง ท่านก็ดูมีความสุข อยากพาท่านไป ในเรื่องครอบครัวเรื่องส่วนตัวของตัวเองยังไม่ได้คิดเลยครับ”

...

ก่อนหน้าแม่มีพูดหรือถามเรื่องแต่งงานบ้างมั้ย “ไม่มี คือแม่เข้าใจผมด้วย คือแม่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่ แกก็คงเชื่อมั่นในตัวผมแล้วปล่อยให้ผมดำเนินชีวิตของตัวเองไป แม่ไม่เคยตีกรอบเรื่องนี้กับผม”

แฟนๆก็ลุ้นและเชียร์อยากเห็นโตโน่แต่งงาน มีความสุข “ไม่แต่งผมก็มีความสุขครับ (ยิ้ม) ผมว่าทุกอย่างให้เวลาเป็นตัวบอกดีกว่า ในตอนนี้ผมมีเป้าหมายของผม”

คบกับน้องณิชาเติมเต็มขนาดไหน “ณิชาเป็นกำลังใจครับ เป็นคนสำคัญของผม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงครอบครัว”

หลังๆไม่ค่อยเห็นเราสองคนพูดถึงความรักกันเท่าไหร่ “จริงๆผมไม่ค่อยพูดเรื่องนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พูดต่อเมื่อมีพี่ๆนักข่าวถาม ความรักผมไม่ค่อยชอบพูด โดยมากจะใช้การกระทำแทนคำพูด ไม่ค่อยมาบอกรักหรือไม่ เป็นแฟนหรือไม่เป็นแฟนอะไรแบบนี้ ผมว่าไม่สำคัญอะไรกับสังคม มันไม่ได้ให้อะไรในเรื่องส่วนตัวเราเข้าใจกัน เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ก็พอ”

รูปคู่ไม่ค่อยลง “ครับ นานๆที ทุกอย่างราบรื่น เข้าใจกันดี ไม่มีเรื่องให้ทะเลาะกัน แต่ต้องขอบคุณเค้าที่เค้าอดทน เค้าค่อนข้างซัพพอร์ตเรา อย่างเรื่องว่ายน้ำ เราซ้อมนานกว่าจะว่ายได้ ใช้เวลา ทำให้เวลาที่เราเจอกันน้อยลงไปอีก หรือเวลาโควิดเราไปเตะบอล”

โหย กิจกรรมเราเยอะเชียว “ผมถึงบอกว่าเราสองคนเข้าใจกันก็พอแล้วครับ”

ปีหน้ามีโปรเจกต์อะไรที่อยากทำอีกมั้ย

“อยากไหว้น้ำให้สำเร็จ อยากว่ายน้ำให้ถึงสมุยให้ได้ และคงทำเก็บรักษ์ เก็บขยะ รณรงค์สิ่งแวดล้อม โดยเพิ่มกีฬาเข้าไปด้วย เราไปฝึกฟุตบอลก็เพื่อสิ่งนี้แหละ จะเอาทักษะการกีฬา และอุปกรณ์กีฬาไปมอบให้กับเด็กๆตามโรงเรียนที่เขายังขาดแคลน ผมถึงไม่นึกถึงเรื่องของตัวเองเลย เพราะผมยังทำไม่สำเร็จเลย ผมยังทำให้ประเทศไทยหลุดจากประเทศที่ทิ้งขยะมากที่สุดในโลกไม่ได้เลย นั่นคือเป้าหมายของผม โฟกัสของผมไปอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เพื่อใครแต่เพื่อตัวผมเอง เพราะเป็นประเทศของผม อากาศที่เราหายใจเป็นของพวกเรา เป็นของลูกหลานเรา มันจะไม่ใช่เรื่องของผมได้ยังไง ถ้าเราไม่ทำไม่ช่วยกัน ใครจะมาทำให้เรา ผมมีทุกวันนี้ได้เพราะทุกคน ผมไม่ได้มาจาก
แมวมอง ผมมาจากวันนึงผมถือกีตาร์เข้ามา มีคนช่วยโหวตให้ผม จนผมได้เข้ามาในบ้านเดอะสตาร์ โอเค หลังจากนั้นผมต้องพัฒนาตัวเอง ถ้าหากไม่ต้องมองว่าผมเป็นดารา โลกใบนี้ให้อากาศผมหายใจ ให้แผ่นดินให้ผมได้ยืน ให้ผมได้รู้จักรัก ตามหาความฝัน แล้วผมจะตอบแทนสิ่งนี้อะไรได้บ้าง ผมว่าผมกำลังทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นครับ”

ว้าว!! ใจหล่อมาก...ก.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน