“ณิชา-ณัฏฐณิชา” 8 ปีในวงการบันเทิง ละครกว่า 20 เรื่อง ผ่านชีวิตนักแสดงบทบาทสุดหิน และเรื่องราวสุดดราม่าเป็นโรคซึมเศร้า นั่งร้องไห้ เพราะงานแสดงเป็นเหตุทำให้สารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ
นางเอกหน้าหวาน ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ เปิดเผยในรายการ Thairath Talk กับอดีตที่มีอาการเสพติดความเศร้าขั้นรุนแรงจากงานแสดง และภายใต้ความกดดันที่เธอแบกรับ

สำหรับ ณิชา เธอบอกว่า “หนูเป็นแค่นักแสดงที่ดี ไม่ใช่ดารา หนูยังต้องฝึกฝนต้องเรียนรู้” และเธอยังไม่เก่งนักในการอยู่ต่อหน้าผู้คน ถึงแม้ว่าเธอจะผ่านผลงานละครมากแค่ไหน คุยลึกชีวิต ณิชา กับความฝันวัยเด็ก และชีวิตตัวตน ความรักของเธอ
ณิชาเล่นละครมาแล้วกว่า 20 เรื่อง ตลอด 8 ปี
“ไม่รู้ตัวเลย (หัวเราะ) ถ้าชอบว่าละครเรื่องไหนที่เป็นมาสเตอร์พีซของหนู คือเรื่องเสน่ห์นางงิ้ว เพราะเป็นเรื่องที่หนูจำมากๆเป็นละครที่ยากมากๆ สำหรับหนูและไกลตัวมากๆ ทุกคนช่วยสอนและเคี่ยวกับหนูมากๆ ด้วยบทละครที่ยากมาก และเป็นแนวดราม่าเรื่องแรกของณิชา พอละครเรื่องนี้ออกมา หนูรู้สึกภูมิใจค่ะที่ผ่านมันมาได้ คำว่าดาราสำหรับคนอื่น หนูมองว่าเขาคือดาวโดดเด่นสปอตไลต์ส่อง แต่หนูรู้สึกว่าหนูไม่น่าจะเป็นแบบนั้น หนูรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักแสดง แม้เราไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ในการแสดง ไม่ได้เก่งหรือทำได้เลยในทันที หนูต้องเรียนรู้มัน ต้องใช้พรแสวงในการทำความเข้าใจในสิ่งที่เราอยากจะทำ ก็เลยรู้สึกว่า เวลามีคนยอมรับเราว่าเป็นนักแสดงที่ดี มันมีความสุขค่ะ”
...
เห็นเวลาให้สัมภาษณ์ ณิชามักจะออกตัว ก่อนตลอดว่า จะพูดจาคุยไม่รู้เรื่อง เพราะณิชา ตื่นเต้น
“(หัวเราะ) อย่างที่บอกค่ะ หนูเป็นนัก แสดงที่ดี ไม่ใช่ดารา ที่ดีเวลาให้สัมภาษณ์ หรืออยู่เวที แล้วมีสปอตไลต์ส่อง คนมอง คือหนูยังทำตรงนี้ได้ไม่เก่ง แต่ถ้าให้หนูแสดง หนูรู้สึกว่ามันคืออาชีพ อันนั้นหนูทำได้ค่ะ”


ณิชากับโรคซึมเศร้าเป็นไงเล่าให้ฟังหน่อย
“ตอนนั้นที่เกิดเหตุการณ์ เป็นช่วงหลังจากถ่ายละครเสน่ห์นางงิ้วมาสักพักใหญ่ๆ ต่อด้วยละครเรื่องเพลิงพรางเทียนต่อ มันเป็นช่วงการทำงานที่ยาวนานทั้งสองเรื่องและเป็นละครดราม่าทั้งสองเรื่อง เลยทำให้เราใช้สารเคมีที่หลั่งความเศร้ามาเป็นระยะเวลานานมากๆ แล้วพอปิดกล้องละครทั้งสองเรื่องไป เลยกลายเป็นว่าสารเคมีในสมองปรับตัวไม่ทัน มันเลยยังหลั่งอยู่แบบเดิมทุกวัน เลยทำให้เราเศร้าโดยที่ไม่มีสาเหตุ ทั้งที่ชีวิตทุกอย่างแฮปปี้ การทำงานก็ไม่ได้กังวลอะไร สุดท้ายแล้วเจอพี่ออม-สุชาร์ ซึ่งแนะนำว่าให้อยู่กับมัน เมื่อไหร่ที่รู้สึกก็รู้สึกแล้วก็ปล่อยมันออก แล้วก็ค่อยๆกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติไปเรื่อยๆ อย่าไปฝืนว่าฉันจะต้องมีความสุข ต้องไปทำนั่นเพื่อให้มีความสุข แค่มีสติในการใช้ชีวิต ดึงตัวเองออกมาให้ไวเมื่อรู้ว่ากำลังจะเศร้า ให้หาอย่างอื่นทำ อย่าไปโฟกัสกับมันอย่าไปเครียดว่าเราเป็นอะไร แล้วมันก็ค่อยๆหายไปเอง”
...นี่ถือเป็นวิทยาทานสำหรับคนที่เผชิญกับโรคซึมเศร้าเลยทีเดียว จากโรคซึมเศร้าดังกล่าวทำให้ถึงขั้นคิดอยากฆ่าตัวตายหรือไม่?! ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆได้ในรายการ Thairath Talk วันอังคารที่ 7 ก.ย. ห้ามพลาด.

...