จับคู่อีกครั้ง ถ่ายทอดความรักความแค้นข้ามภพข้ามชาติในละครเรื่อง “ดวงใจในมนตรา” ทางช่อง 3 ท้าทายฝีมือคู่จิ้นฮอต “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” กับสาว “ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ที่โคจรมาพบกันอีกครั้งหลังจับคู่สุดปังเคมีสุดฟินตั้งแต่ละครเรื่องแรก The Cupid ตอน “กามเทพซ้อนกล” เมื่อ 4 ปีก่อน แต่คราวนี้ โตโน่ รับบท “พชร” ชายผู้ที่อยู่มาอย่างทรมานไร้หัวใจและเป็นอมตะมานานกว่า 2,000 ปี ส่วนณิชารับบทหญิงสาว 2 ชาติภพ ปัจจุบันเป็น “พราวพลอย” และภาคอดีตเป็น “มทิรา” เลยคว้าตัวทั้งคู่มา เปิดใจใน “คนดังนั่งคุย” ช่วงวาเลนไทน์นี้เข้มข้นตั้งแต่ตอนถ่ายทำที่ทั้งคู่ทุ่มเทใช้เวลากว่า 2 ปี ควบคู่ไปกับความเข้มข้นของความสัมพันธ์ที่เขยิบความสนิทรู้ใจจนยอมเผยความรู้สึก แต่ละคำพาฟินสุดๆโดยไม่ต้องมีคำว่า “รัก”!!! เริ่มจาก...

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ

...

แฟนๆรอคอยคู่โตโน่–ณิชา มา 4 ปี จาก “กามเทพซ้อนกล” ทำให้เรากดดันมั้ย?

โตโน่ “ตื่นเต้น กดดันนะ เรื่องนั้นความคาดหวังไม่สูงเพราะเราไม่เคยเจอกัน พอมันสนุกแฟนๆชอบก็เกิดการรอคอย เรื่องนี้มันเป็นอีกเรื่องนึงเลย เอาแค่บทก่อน เราต้องทำการบ้านเยอะมาก บทก็ยาก ต้องอยู่มาเป็นพันปีทุกๆชาติภาพคนอื่นเปลี่ยนไปแต่เราไม่ตาย มีทั้งดราม่า โรแมนติก แอ็กชัน แฟนตาซี ตัวผมได้รับอิทธิพลจากตัวละครตัวนี้ ความแข็งเป็นอิฐเป็นปูน เวลาเราทำการบ้านเราต้องนึกถึงเจดีย์ภูเขาที่มันเห็นความเป็นไปในแต่ละยุค เห็นจิตใจคน เป็นโลกที่หดหู่สำหรับเค้านะ เราเป็นนักรบปกป้องกษัตริย์ และมีเรื่องความรัก ซึ่งมันเป็นเรื่องคู่ขนาน”

ณิชา “หนูไม่ได้กดดันตัวเอง ได้บทมาก็อยากทำเต็มที่ ไม่ได้มองว่าคนคาดหวังแบบไหน แต่เราทำเต็มที่เพราะบทค่อนข้างยากมี 2 ภพ ถ่ายสลับไปมา เป็นความเชื่อที่ต่างกันและไม่สามารถบรรจบร่วมกันได้ ของหนูตัวละคร 2 ภพก็ต่างกันสิ้นเชิง ยุคปัจจุบันเป็นพราวพลอย แค่มีเรื่องราวในอดีตด้วย ยากตรงที่ข้างในเราเป็นอีกคนนึง ไม่ใช่คนในภพก่อน ส่วนตอนเป็นมทิราในอดีต เป็นเรื่องยากเพราะเค้าความคิดสุดโต่งและไกลจากความเชื่อเรา เราก็ต้องไปหาครูค่อยๆไล่เลียงว่าเค้าเจออะไรมา”

โตโน่ “อีกความยากคือเราต้องถ่ายแข่งกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงเวลาต้องเลิกกองแล้วเป็นซีนใหญ่ๆ เราก็ต้องทำให้เต็มที่ สกิลบางอย่างเราต้องฝึกจริง เช่นการดำน้ำ พชรดำน้ำโดยไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการที่เราคิดเรื่องว่ายน้ำ ผมมาฝึกจากเรื่องนี้และทำให้คิดว่ามันเป็นไปได้”

สองคนช่วยกันยังไงบ้างในกอง?

โตโน่ “เรารู้ว่ามันยากในหลายองค์ประกอบเลยต้องช่วยกันมาก ทั้งในเรื่องการแสดงและสภาพจิตใจที่ทำให้ตัวละครเรามันเจอกันอย่างดีที่สุด ทีนี้พอเจอกัน ตัวละครคิดไม่เหมือนกัน เราก็จะทะเลาะกัน ความคิดเค้ากับผมคนละขั้ว เวลาปรึกษากันก็ทะเลาะกัน ถ่ายเสร็จก็เถียงกัน ตอนนั้นพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็เถียงกันตลอด”

ณิชา “เราต้องถกกันคุยกันตลอดก่อนเข้าฉาก เพราะบางทีเราไม่ได้ถ่ายอดีตก่อน ถ่ายปัจจุบันเลย ก็ต้องอาศัยการคุยกันเยอะๆ พอเถียงกันมันก็ช่วยนะ ทำให้ความเชื่อของอีกฝ่ายแน่นขึ้น”

แล้วเรื่องการทำงานในกองที่ยากลำบาก เติมกำลังใจให้กันยังไง?

โตโน่ “ผมจะอยู่แถวๆนั้นนะ ถึงซีนนั้นมันจะไม่มีผมเพื่อผมจะดูเค้า เรารู้ว่าเค้ากดดัน สมองเค้าพร้อมที่จะระเบิด”

ณิชา “คือมันยากจริงๆ หนูรู้ตัวเวลาที่รู้สึกมันจะแผ่รังสีออกมา เวลาเครียดจะเดินวนๆ ต้องเคลียร์ตัวเองก่อน”

โตโน่ “เราเข้าซีนด้วยกันเยอะที่สุด เวลาที่เรารู้ว่าณิชาเป็นพราวพลอยที่สับสนมันเป็นยังไง มันส่งผลต่อคนที่เล่นด้วยกันเพราะเราไม่ได้ต่างคนต่างเล่น”

ณิชา “ใช่ค่ะ อย่างเวลาที่หนูรู้สึกว่าพี่โตโน่เป็นอะไรหนูก็จะถามเค้า เค้าเคลียร์ตัวเองได้เร็วแต่หนูจะมีความสมองแตก แล้วก็รวบมาใหม่ค่อยเล่น”

โตโน่ “เรามีหน้าที่รอเค้า ถ้าเค้าคุยกับผู้กำกับเคลียร์มันจบ ถ้าไม่เคลียร์เราก็จะเข้าไปช่วยคุย”

อย่างช่วงถ่ายทำที่ต้องอยู่เกาะหลายวันดูแลน้องยังไง?

โตโน่ “เค้าสิครับดูแลผมมากกว่า (ยิ้ม) เรื่องการใช้ชีวิตนอกเหนือการแสดงผมค่อนข้างจะห่วยแตก เค้าไปถ่ายเกาะกูด 5 วัน วันที่ 2 ผมตื่นเช้ามากไปซ้อมว่ายน้ำข้ามเกาะ เท้ากระแทกกับเสาที่มีตัวเพรียงเกาะ ต้องเย็บ 4 เข็ม กองทั้งกองจะต้องมายกเพราะเราก็ไม่ได้ เราเลยต้องถ่ายต่อแบบมีแผลอีก 4 วัน ต้องลงน้ำทะเลด้วย ก็จะมีณิชา คุณแม่และผู้จัดการผมดูแล ซึ่งก่อนที่ณิชาและคุณแม่จะดูแลก็จะด่าผมก่อน (ยิ้ม) เพราะเค้าเตือนผมแล้ว”

...

แฟนๆหวังถึงความฟินของเรื่องนี้?

โตโน่ “ในมุมผมตั้งแต่กามเทพซ้อนกลแล้ว เราไม่ได้ตั้งใจจะให้ฟิน ไม่เคยคิดว่าจะมีคนจิ้นเลยนะ อย่างเรื่องนี้ผมมองความเข้มข้นเนื้อเรื่องมากกว่าเรื่องความรักความแค้นกว่า 2 พันปี และมีนักแสดงท่านอื่นๆด้วย ทุกคนและทีมงานเต็มที่มาก ทุกคนช่วยกันทำเรื่องที่ยากให้ออกมาดีที่สุด”

เลิฟซีนล่ะเยอะมั้ย?

ณิชา “ไม่เยอะเลยค่ะ มันเป็นเรื่องตัวละครและเนื้อเรื่องเข้มข้นกว่านั้น”

ตอนเริ่มถ่ายกับตอนนี้สนิทสนมกันมากขึ้นมั้ย?

ณิชา “มันทำให้สนิทมากขึ้นนะเพราะเราต้องคุยกัน”

โตโน่ “มันก็อึดอัดนะ เค้าตั้งตัวเป็นมาเฟียกองถ่าย ผมวางโทรศัพท์มือถือไว้ ผมต้องมาเห็นหน้าเค้า หน้าช่างแต่งหน้าที่ซูมถ่ายไว้ ผมว่าเค้าจะทำแบบนี้ไม่ได้”

ณิชา “เค้าสร้างเรื่องเนี่ย มาเฟียอะไร ณิชาดูแลโตโน่นะ เถียงสิ”

...

โตโน่ “ก็ยอมรับครับ เค้านั่งรถสองแถวไปดูผมเย็บแผล”

ณิชา “ไปดูให้สะใจค่ะ (หัวเราะ) แต่ยอมรับว่าเค้าสู้มาก”

การถ่ายเรื่องนี้ทำให้เห็นมุมที่ไม่เคยเห็นของอีกคนมั้ย?

ณิชา “ด้วยความที่เรารับพลังงานกันได้ ถึงเค้าจะไม่พูดอะไร ไม่งอแงเท่าหนูแต่หนูจะรับรู้ได้ถึงพลังงานที่แผ่ออกมา เหมือนได้เรียนรู้วิธีดีลกันมากขึ้นว่าเมื่อไหร่ที่คนนี้เป็นแบบนี้เราจะทำยังไงกันดี”

โตโน่ “มีเรื่องนึง ตอนนั้นตั้งแต่อ่านนิยายเรื่องนี้ ผมตัดสินใจไม่คุยกับเค้าเลย แบบหายไปเลย เพราะรู้ว่าพชร กับมทิรามีความรักแค้นและรอคอยที่จะเจอกัน ผมอดทนไม่คุยกับเค้า 2-3 เดือน”

ณิชา “เค้าเป็นบ้าค่ะ (หัวเราะ)”

โตโน่ “พอละครใกล้เปิดก็ทนไม่ไหวเอง”

ณิชา “ก็รู้สึกงงว่าเป็นอะไร เพราะเค้าไม่ได้บอกเหตุผล หนูก็เออๆ ช่างเค้า หนูก็ใช้ชีวิตไป อยู่ดีๆก็กลับมาคุยเอง”

โตโน่ “ผมอยากลองดู ผมเป็นแบบนี้ล่ะ มันช่วยนะ”

ณิชา “ตอนนั้นเริ่มสนิทแต่ยังไม่ได้คุยสนิทเท่าตอนนี้”

แล้วถ้าตอนนี้เค้าหายไปแบบนั้นอีกล่ะ?

ณิชา “ไม่ได้แล้วค่ะ (ยิ้ม) คราวนี้ต้องเคลียร์นะว่าเป็นอะไร”

...

มีความสุขมั้ยที่ได้อีกคนมาเป็นคู่กับเราในละครเรื่องนี้?

ณิชา “สำหรับหนูถือว่าโชคดีที่เป็นเราค่ะ เพราะเราคุยกันอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องอาศัยการพูดคุยจินตนาการร่วมกันช่วยให้ง่ายขึ้น”

โตโน่ “เพราะเป็นเค้าก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เรารับเล่นเลย เรื่องบทด้วย และเป็นเค้าด้วย เรารู้ว่าเค้าเป็นนักแสดงที่ดีมาก ตั้งใจและศรัทธาในอาชีพ ซึ่งผมก็ศรัทธาอาชีพของเรา เราอยากให้เป็นของขวัญสำหรับคนดู ที่เราได้มาร่วมกันสร้างผลงานผมก็มีความสุข ถึงมันจะมาพร้อมความเหนื่อยและยาก”

ได้ใช้เวลาร่วมกันในกองและชีวิตจริง ตอนนี้มองหน้าก็รู้ใจว่าคิดอะไรเลยมั้ย?

โตโน่ “เค้ารู้นะครับเค้ารู้ว่า 3 วันผมถ่ายละครเป็น พชร อีก 4 วัน ไปซ้อมว่ายน้ำ ไปเก็บขยะ เค้าจะคอยถามเสมอ ซึ่งผมต้องขอบคุณมาก มันเป็นกำลังใจสำคัญอย่างหนึ่งที่มีคนคอยถามว่าเป็นยังไงไหวมั้ย ว่ายได้เท่าไหร่ ระวังฝ้าขึ้นนะ เราก็ไม่ฟังไม่ทาครีมกันแดดหรอก แต่ก็ดีใจที่มีคนถาม”

หลายคนประทับใจภาพที่ณิชาคอยเชียร์ตอนโตโน่ว่ายน้ำ?

“อันนั้นผมขอบคุณมาก มีภาพที่เราว่ายออกไปแล้ว แล้วเค้านั่งรอที่ฝั่ง เราอยากบอกว่าเราเห็นนะ เราเหนื่อยแล้วมองกลับมาเห็นเค้า เห็นพวกแม่ เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ตัวเค้ารู้ว่าเราทำเพื่ออะไร”

โอกาสสำคัญก็ได้เห็นทั้งคู่เป็นกำลังใจให้กัน และกัน อยากรู้ว่ากำลังใจจากอีกคนสำคัญมั้ย?

ณิชา “สำคัญมากค่ะ เป็นแหล่งพลังงานชิ้นดีเลย เวลาอยู่ในกองเค้าจะช่วยคิดคอยถามว่าเราโอเคมั้ย รู้สึกว่ามันดีค่ะ หนูอธิบายไม่ถูก (ยิ้ม)”

โตโน่ “อย่างตอนน้องเอาดอกไม้ไปให้ที่คอนเสิร์ต ดีใจนะ ณิชาเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งที่ผมไม่เคยเจอ ทุกคนจะถามว่าเค้าจะมามั้ย ทุกคนรักเค้า ผมเคยพูดไว้ว่าอยากให้คนรู้จักผู้หญิงคนนี้ว่าเค้าเป็นยังไง”

กว่าที่เราจะเปิดให้ผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตต้องผ่านการพิสูจน์เยอะมั้ย?

ณิชา “มันก็ไม่ได้มีการพิสูจน์อะไร หนูเป็นคนที่ปล่อยให้คนเข้ามาในชีวิตยากมากเหมือนกัน เราดูว่าคนไหนสไตล์เดียวกับเรา น่าจะคุยกันรู้เรื่อง หนูเชื่อว่าคนที่จะเข้ามาในชีวิตเราต้องเป็นเชิงบวก ถ้ามาแล้วไม่ใช่สไตล์เรา เราก็ไม่ฝืนตัวเอง มันเลยไม่ได้ต้องพิสูจน์ กับเค้ามันสนิทกันมาเรื่อยๆ เห็นกันมาเรื่อยๆจนมาเป็นทุกวันนี้”

โตโน่ “ผมคือพลังลบเลยล่ะ”

ณิชา “หนูไม่ได้ตัดสินคนก่อน เจออะไรตรงนั้นแล้วรับเลยมากกว่า ตอนนั้นกามเทพซ้อนกลเค้าเหมือนเป็นพลังงานสีเทา เค้าดูไม่หัวเราะ ไม่เปิด แต่หนูก็ไม่ได้ตัดสินเค้านะ แค่คิดว่าเราทำงานด้วยกันต้องมีความสุข เค้าจะมาเป็นแบบนี้ไม่ได้หนูเลยชวนเค้าเล่น ชวนอะไร เพราะหนูไม่ชอบสีเทา หนูเคยพูดอะไรเด๋อๆไว้แล้วเค้าเอามาล้อหนูทีหลัง ว่าให้มองฟ้าสิ พระเจ้าออกแบบก้อนเมฆมามันสวยนะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก”

โตโน่ เสริม “คือในมุมมองของผม คนพูดแบบนี้ไม่ปกติ (ยิ้ม) คนมองท้องฟ้าเนี่ย”

ณิชา “แต่เค้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นะ สีเทาของเค้ามันเริ่มหายไปนะ จนตอนนี้เค้าเป็นสีรุ้งสำหรับหนู”

เรียกว่า “ณิชา” เป็นโลกที่สดใสของ “โตโน่”?

“ก่อนหน้านั้น ชีวิตผมเป็นกราฟขึ้นลงมาก สุดโต่งไปหมด เค้าเป็นคนทำให้มันนิ่งขึ้นเหมือนเป็นความสงบ อบอุ่น ซึ่งก่อนหน้านั้นเรามองว่าไม่มีจริง”

ณิชา “เค้าเป็นสายรุ้งจริงๆนะ หนูเป็นคนที่ชีวิตเป็นเส้นตรง ทำอะไรอยู่ในสิ่งที่เราชอบ ชิลๆ แต่บางทีพอรู้จักเค้ามันก็มีสีต่างๆ มีมุมที่หนูมองว่าคนอื่นชอบมองว่าเค้าเป็นปีศาจ สีดำ แต่หนูไม่ใช่ เค้าจะมีมุมสีชมพู สีส้ม สีฟ้า”

โตโน่ “เสียภาพลักษณ์วงร็อกหมดเลยเนี่ย (ยิ้ม)”

แล้วโตโน่ทำให้เราสดใสขึ้นมั้ย?

“เค้าก็มีความเด๋อๆเหมือนหนูนี่ล่ะ เรารู้สึกว่าเราเป็นตัวเองได้ 100%”

โตโน่ “มันดีจริงๆครับ เราเคยมีไปทำงานที่ฝรั่งเศสด้วยกัน แทนที่เราจะไปกินอาหารหรูๆ แต่สิ่งที่เราชอบกินคือเครปข้างถนนใต้ต้นไม้ใบสีเหลืองๆ น้ำอัดลมคนละขวด มันดีมากจริงๆ”

ทุกวันนี้ความห่วงใยของทั้งคู่ก็เผื่อแผ่ไปถึงคนในครอบครัวทั้งสองครอบครัวด้วย?

โตโน่ “จริงๆความสนิทของ 2 บ้าน สนิทกันก่อนที่ผมกับณิชาจะคุยกันอีก แม่ผมรักเอ็นดูเค้าตั้งแต่ในกองถ่าย และเราไม่ได้เริ่มมาจากความชู้สาว ว่าผมจะไปจีบเค้า มันเลยบริสุทธิ์ใจ เป็นการเข้ามารู้จักกันด้วยความหวังดี”

ช่วงหลังถูกถามเรื่องสถานะบ่อยๆแต่เหมือนเรามองว่าไม่จำเป็น?

โตโน่ “ผมว่ามันไม่จำเป็นครับ มันสำคัญว่าเรารู้สึกยังไงต่อกันมากกว่า ไม่ใช่ว่าคนอื่นมองเรายังไง”

มองอนาคตด้วยกันมั้ย?

โตโน่ “ผมเคยคิดว่าอายุเท่านี้จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราไม่ได้มีชีวิตเพื่ออนาคต เรามีชีวิตอยู่กับวันนี้ ถ้าตอนนี้มันดีก็คือดีอยู่ที่วันนี้มากกว่า น้องอายุน้อยกว่าผม 10 ปี เค้ามีคุณพ่อคุณแม่คุณตาคุณยาย ผมจะไปมั่วซั่วไม่ได้ครับ ปล่อยไปตามธรรมชาติ”

ไม่ใช้สถานะแล้วเวลาแสดงออกความรู้สึกกันล่ะ?

โตโน่ “ผมขอไม่บอกแล้วกันครับ”

ณิชา “Keep It Secret”.

สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย