งาน "แต่ง" ไม่สำคัญแค่อยากเจอ "พาร์ตเนอร์" ที่ดี
ทวีความแซ่บแรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ คริส หอวัง นางเอกสาวจากละคร “ไปให้ถึงดวงดาว” ทางช่องวัน 31 เจ้าของ #เหมสุดาคนดีที่เลว ตามราวีผู้หญิงทุกคนของสามีจอมเจ้าชู้ เป็นการตีแผ่ปัญหาชีวิตครอบครัวได้เผ็ดร้อน แทงใจดำหลายๆบ้าน ความเหน็ดเหนื่อยหายเกลี้ยงเพื่อแฟนๆละครชอบมาก ถึงขั้น “เชียร์อัป” ให้กิ๊กกับ แบงค์ ธิติ หนุ่มรุ่นน้องที่เคมีเข้ากันได้ดี กว่าจะเป็นละครแซ่บๆ คริส เปิดใจกับ “คนดังนั่งคุย” ที่ทุ่มเกินร้อยฟกช้ำเขียวคล้ำเป็นของฝากกลับบ้านอยู่บ่อยๆ จนนึกว่าเป็นละครแอ็กชันเสียอีก ส่วนหัวใจโสดแต่ไม่สนิทมีความรักเข้ามาให้ศึกษาดูใจกันอยู่
ละครเรื่องนี้บทคริสแซ่บมาก
“จริงๆเรื่องนี้เป็นละครที่มีอรรถรสแซ่บๆ เผ็ดๆ แต่ว่าให้ความรู้ และให้วิธีแก้ไขปัญหาและให้การเรียนรู้กับคนทุกๆวัย มันจะมีคู่ของแบงค์ ธิติ กับมะปราง อลิสา เรียนจบ มีการศึกษา ทำงาน เก็บเงิน รักกันมาก อยากจะแต่งงาน ความฝันของเค้าคืออยากจะแต่งงาน แต่คู่ของคริสกับพี่อั้ม อธิชาติ เป็นคู่ที่ผ่านจุดนั้นมาแล้ว มาอีกสเต็ปนึงของชีวิต แต่งงาน มีลูก และประคองชีวิตครอบครัวยังไงให้อยู่ไปจนจบ กลายเป็นว่ามันเหมือนชีวิตจริง ตามยุคตามวัย คนที่ไม่เคยแต่งงานอยากแต่งงานมากเหลือเกินแต่คนแต่งงานแล้วก็มีปัญหาหลังบ้านกันทุกคน แต่ไม่มีใครมานั่งบอกไง เหมือนทุกคนจะแสดงนิดๆ หน่อยๆหน้าสังคม เหมือนมีคำว่า เรื่องในครอบครัวไปบอกคนอื่นทำไม เรื่องในครอบครัวก็เก็บไว้ในครอบครัวสิ จะสาวไส้ให้กากินทำไม อันนี้จะเหมือนกับทุกคนที่ต้องฮึบ! ต่อหน้าสังคมว่าหลังบ้านเราโอเค แต่ใครจะทำมากทำน้อยขึ้นอยู่กับบุคคล คู่คู่นั้นแต่สำหรับละครแล้วจะโอเว่อร์มากเลยทำให้เห็นไปเลย เห็นไปเลยว่าหลังบ้านตบตีกัน แต่หน้าบ้านโลกสวยมาก เป็นคู่ที่รวยมีเงิน เป็นคู่ตัวอย่างน่าอิจฉา ประสบความสำเร็จ มีบริษัทที่ดี แต่ตอนหลังๆ เริ่มมีแบบว่าความลับในบ้านเก็บไม่อยู่จนคนข้างนอกรู้ว่า คุณสามีมีสาวเยอะมาก”
...

เล่นดราม่าดูเรียลมากๆ ตัวเราเล่นเองเหนื่อยหนักและอินขนาดไหน
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยทุกการทำงานของคริสอยู่แล้ว ทุกการทำงานคริสพยายามใส่ให้ร้อยเต็มมากที่สุด เพราะว่ามันไม่ได้มีเราคนเดียว มีคนอื่น 20-30 คนในกอง ถ้าเราทำไม่ผ่านสักทีก็จะไม่มีใครได้กลับบ้าน นึกออกมั้ยคะ ตั้งใจทำให้มันดีที่สุด แต่ถามว่ายากมั้ยดีกว่า ที่ยากสำหรับคริส แรกๆ จะมีปัญหาเรื่องลูก เพราะคริสไม่เคยมีประสบการณ์การมีลูก พอลูกมีปัญหาแล้วแม่คลั่งมากกับปัญหา ที่เรามองเป็นปัญหาเล็กๆ เพราะเราไม่มีลูกไง อ่านบทต้องโทร.ไปถามเพื่อนที่มีลูกวัยนี้เลย ทำให้คริสเริ่มเข้าใจคำว่า “ดวงใจของพ่อแม่” แค่แบบฟังเพื่อนเค้าเล่าประสบการณ์ตอนลูกไม่สบาย ขณะที่เค้าเล่าให้คริสฟัง อยู่ๆ เพื่อนร้องไห้ จนคริสต้องว่า แกบ้าเปล่าเนี่ย เรายังไม่ถึงจุดนั้นเลยไม่เข้าใจไง พอเพื่อนเล่าเข้าใจเพิ่มขึ้นเยอะ นอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายแล้ว ยังเป็นเรื่องของพ่อแม่และลูกด้วย ความสัมพันธ์ในครอบครัว ลูกโต มะปรางกับแม่ ลูกคนเล็ก พี่อั้ม คริส กับลูก พ่อแม่จะแสดงแค่ไหนนะ ยิ้มๆ พอลูกหันหลัง พ่อแม่ทะเลาะกัน คิดเหรอว่าลูกไม่รู้ จริงๆเค้ารู้หมด พอดีช่วงที่ถ่ายทำไปให้ถึงดวงดาว คริสถ่ายทำเรื่องเนื้อในด้วยอีกเรื่องนึง แล้วละครเนื้อในจะมีเนื้อหาเรื่องเกี่ยวกับคนที่ปลอมต่อหน้ากันในสังคม ใส่หมวกคนละแบบ พูดกับลูกค้าดีเลย คะขา พูดกับนักข่าวพูดดีเชียว แต่ลับหลังตลาดมาก ซึ่งตัวที่คริสเล่น หน้ามือหลังมือตลอดเวลา พอเล่นสองเรื่องพร้อมกันสติแตกเหมือนกัน กลับบ้านไปร้องไห้ในห้องน้ำ เหมือนเราร้องไม่สุด ร่างกายยังออกมาไม่หมด แต่เราต้องเล่นซีนอื่นต่อแล้ว เลยบอกตัวเองร้องไห้ให้จบนะจะได้นอนหลับ (หัวเราะ) วันต่อมานัดเพื่อนเลย ไปตลก ออกไปกลางคืนให้เฮฮา”
ร่วมงานกับอั้ม อธิชาติ ถูกฉุดกระชากลากถูตบตีกันขนาดไหน
“พี่อั้มเป็นคนแรงเยอะ คริสมั่นใจเลยว่าเค้าสามารถยกคริสมือเดียวได้แน่นอน จากการที่เล่นด้วยกันหลายๆซีน คริสรู้ว่าเค้าพยายามเบาแล้ว แต่มันก็คือแรงมากสำหรับเราอยู่ดี”
คริสบอกพี่อั้มล่ะ เบาๆมือหน่อย “บอกตลอดเลยค่ะ จนเดินไปฟ้องผู้กำกับ ลากพี่อั้มไปด้วย ฟ้องพี่สันต์ ทุกคนหัวเราะ คือคริสก็ตัวเขียวตลอด ทุกครั้งที่มีรอยฟกเขียวๆ จะเดินไปหาพี่สันต์ เล่นตลกกับพี่สันต์ หนูไม่ได้รับเล่นละครแอ็กชันนะ (หัวเราะ) นี่มันละครแอ็กชันล้วนๆ อะไรแบบนี้ แต่บรรยากาศกองก็สนุกสนาน แบงค์กับมะปรางรู้จักกันอยู่แล้ว พี่อั้มเจอกันครั้งแรก ก็น่ารัก สบายๆ ชอบเอาอาหารมาให้กิน อาหารที่พี่อั้มนำมาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ดีกว่าสิ่งที่เรามีตรงนั้นแน่นอน เราไปทำงานกินอาหารก่อนเรากินอะไรก็ได้ ส่วนมากข้าวแกงง่ายๆ แต่พี่อั้มจะเอาอาหารมาจากบ้าน หมูย่างแบบแห้งๆเลย ไม่มีไขมัน ผักออร์แกนิก ซึ่งคริส แบงค์และมะปรางคือเปรมมาก (หัวเราะ)”

เล่นกับแบงค์มีเลิฟซีนกันด้วย แฟนๆจิกหมอนกันรัวๆ
...
“จริงๆกุ๊กกิ๊กไม่เยอะมาก แต่ฉากก่อนหน้าที่ฉายไปกลายเป็นว่าคนเชียร์ให้เป็นชู้กัน ได้กันสักทีเหอะ อะไรแบบนี้ ก็เลยคิดว่ามันก็น่ารักดีแต่ว่าคริสกับแฟนคลับมีแฮชแท็กของเหมสุดา คือ เหมสุดาคนดีที่เลว”
แฮชแท็ก เหมสุดาคนดีที่เลว เป็นมายังไงล่ะ “ทุกๆเรื่องที่คริสเล่นละครจะมีแฮชแท็ก คริสร่วมกันตั้งกับแฟนคลับ ซึ่งเหมสุดาจะพูดเสมอเค้าเป็นคนดีนะ แต่ว่าแค่สิ่งที่มันทำเลือกแก้ไขปัญหาแบบผิดๆ ใช้ความรุนแรงบ้าง ไปตบเมียน้อยบ้าง เรียกร้องความสนใจด้วยการต้องอยู่ในโซเชียล ทำคลิปโน่นนี่นั่น อันนี้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ผิด แต่ข้างในเป็นคนดี จริงๆไม่ได้คิดร้ายใครแค่อยากมีความสุข ครอบครัวของเรามีความสุข”
แฮปปี้กับกระแสที่ออกมาล่ะ “ดีใจมากค่ะ คือเรื่องนี้เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะไปจีนด้วยก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก ละครเนี่ยคือคริสว่าเดี่ยวนี้เค้าทำให้มันแซ่บ ให้มันเผ็ดมีอรรถรสหลายๆแบบ เพื่อที่จะให้คนดูติดตามอยากรู้โน่นนี่นั่น คือมันหวานแหววทั้งเรื่องไม่มีใครดูแล้วไง ทุกคนรู้ตอนจบ ซึ่งเรามีละครเป็นพันๆ เป็นหมื่นเรื่องอยู่แล้ว ฉะนั้นคริสดีใจและตื่นเต้นและเรื่องนี้คริสหวังว่าจะทำให้คุณเห็นปัญหาที่อาจจะคล้ายๆของคุณ แล้วคุณเลือกแก้ปัญหา เลือกไปให้ถึงดวงดาว ไปให้ถึงความฝันของคุณ ความหวังของคุณ สิ่งที่คุณคาดหวัง ทำให้ไปในทิศทางนั้น แต่มันมีหลายวิธีที่คุณเลือกจากการดูละครเรื่องนี้”
ชีวิตจริงนอกจอยังมีความฝันอะไรที่อยากไปให้ถึงดวงดาวบ้างมั้ย
“สิ่งที่คริสอยากจะทำในตอนนี้ เนี่ยสัมภาษณ์ไปตั้งเยอะ คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไป มุมมองการใช้ชีวิตของคริส มันโตขึ้นเร็วมากในช่วงระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา อายุด้วยมั้ง เหมือนความคาดหวังของเราในการอยากมีคู่ครอง อยากแต่งงานอะไรพวกนี้มันลดน้อยลงเพราะว่าเราไปเห็นว่าการผ่านอีเวนต์การแต่งงานไม่ได้เป็นจุดจบแต่มันเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมือนการเสี่ยงโชคเหมือนกัน เพราะว่า ทุกๆวันที่ทุกคนแต่งงานกัน วันแต่งงานเราไม่รู้หรอกว่าปัญหามันจะอยู่ข้างหน้า ไม่มีใครคิดว่าเราจะเลิกกัน ฉะนั้นสิ่งที่เราปรารถนาทำทุกวันของคริสให้มีความสุขในทุกๆวัน นั่นหมายความว่าทำงานอย่างมีความสุข มีคนรักอย่างมีความสุข มีคนที่เข้ามาเพิ่มหรือเสริมความสุขให้กับเรา หาความสุขง่ายๆ ผ่านช่วงเวลาซื้อของบ้าคลั่ง ผ่านช่วงเวลาไฮโซไฮซ้อมาหมดแล้วผ่านช่วงเวลาที่เรายืนอยู่ตรงจุดไหนที่ทำให้คนมายอมรับเรา คือตอนนี้พอผ่านพวกนั้นมาหมดแล้ว เราโฟกัสสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต จะจนหรือรวย จะอยู่โรงแรมหรูหรืออยู่ไร่ ความสุขคืออยู่ที่เรา คนที่เข้ามาจะอยู่กับเรานานๆ จะต้องเป็นคนมอบความสุขให้เราได้ทุกๆวันร่วมกัน”
...
มุมมองชีวิตคู่กับการแต่งงานยังเป็นอันดับหนึ่งในใจเราอยู่มั้ย
“ผู้หญิงทุกคนอยากแต่งงาน อยากมีพาร์ตเนอร์ อยากมีคนอยู่เคียงข้าง อยากมีสามี แต่ว่าสำหรับคริสมีสามีไปก็ไม่รู้ว่าเค้าจะอยู่เคียงข้างเราหรือเปล่า? เพราะฉะนั้นเป็นอะไรก็ได้ที่อยู่เคียงข้างกันไปตลอด ถ้ามีคนคนนั้นแล้วอยู่ไปเลย งานแต่งงานไม่สำคัญแต่ถามว่าอยากมั้ย? คริสก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ก็ยังอยากแต่งงานค่ะ (หัวเราะ)”
คริสดูสตรองทุกครั้งเวลาความรักไม่ประสบความสำเร็จ “ไม่เข็ด (ยิ้ม) หมอดูยังบอกเลยว่าคนเรามีคู่หลายคู่ คู่กรรม คู่แท้ คู่เทียม หรือคู่มาเจอกันแป๊บเดียวแล้วก็จากกันเพราะฉะนั้นก็เจอให้ครบทุกคู่ ทุกรูปแบบ ตอนนี้ที่ไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานสำคัญมากที่สุดแต่เรื่องสำคัญที่สุดคืออยากมีพาร์ตเนอร์ที่อยู่เคียงข้างเป็นคู่ใจนะ อยากมี เหมือนพ่อแม่เรา เค้าก็อยู่เป็นพาร์ตเนอร์กัน อยู่ด้วยกันตลอด ตอนนั้นอยากจะรีบ มีความหวังอยากแต่งงานเหมือนคนทั่วไป เพราะอยากมีลูกแต่ตอนนี้เหมือนอายุคริส อะไรใดๆแล้วและโลกเราไม่ได้น่ารักขนาดนั้น พอคิดไม่มีลูกก็ดีเหมือนกัน”
เวลาคริสไม่มีแฟนแต่งานตรึม
“เค้าคงอยากให้เราโฟกัสทีละอย่าง (หัวเราะ) แต่โอเค แฮปปี้ค่ะ จริงๆ คริสมีความรักตลอดเวลา หมายความว่ามีคนเข้ามาโน่นนี่นั่น ยาวสั้น แค่คริสไม่ได้บอก ไม่ได้ประกาศทุกครั้ง มันก็เหมือนทุกคนแหละ มีให้ชีวิตเราชุ่มฉ่ำ มีให้เรารู้สึกแฮปปี้มีความสุขพอแล้ว รู้ว่ามีคนที่เป็นห่วงเรา ทำอะไรอยู่นั่นนี่ เหมือนพ่อแม่เรา แต่งงานจนมีลูกแล้ว โตกันแล้ว เค้าคุยกันแค่วันๆอยู่ไหน ทำอะไรไม่ได้สนใจลูกเลย ขนาดลูกโทร.ชวนกินข้าว พ่อแม่บอกไม่ว่าง เลยต้องบอกเจอกันบ้าง (ลากเสียง) อยากจะพาเค้าไปเที่ยวต่างประเทศด้วยบ่อยๆ แต่ตอนนี้ไปไหนไม่ได้ (ยิ้ม)”
...
เป็นคนทำอะไรเยอะแยะตลอดเวลายังมีธุรกิจอะไรที่ทำอยู่อีกมั้ย
“มีร้านอาหารทำกับน้องปันปันและเพื่อน หุ้นส่วน 3 คน พอไม่ค่อยอีเวนต์ เราจะเริ่มฟุ้งซ่านล่ะ คุยอยู่มีอีก 2โปรเจกต์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับวงการบันเทิง ช่องหอวังซิสเตอร์ก็ยังอยู่ ก็ไปเรื่อยๆ คือคริสมีความสุขมากๆที่ได้ทำงานกับน้อง คือมันเป็นตัวของตัวเอง 250% พอทำแล้วคนได้เห็นตัวตน ดีใจด้วยที่คริสมีโอกาสได้เป็นตัวคริสจริงๆบ้าง ไม่ใช่แค่เห็นคริสรับบทเป็นเหมสุดา เป็นเมนเทอร์เดอะเฟซ เข็มเพชรในเนื้อใน ได้เห็นคริสตัวจริง เพราะในรายการเรารู้สึกหรือคิดอะไรก็พูดออกมาเลย”
ความสุขทุกวันนี้ตอบโจทย์ชีวิตของคริสแล้วหรือยัง
“จริงๆคนเราก็โลภค่ะ อยากมีความสุขไปเรื่อยๆค่ะ คริสก็อยากมีความสุขไปเรื่อยๆ อยากมีความมั่นคงในชีวิต อยากรวยกว่านี้ แต่ถามว่ามีความสุขมั้ย มีความสุขและโชคดีมากในวันนี้ แต่รวยกว่านี้จะมีความสุขกว่านี้มั้ย ไม่รู้ ต้องรอรวยกว่านี้ก่อน (หัวเราะ) กับชื่อเสียงก็ดีใจ คนได้เห็นคริสร้อยเปอร์เซ็นต์เค้าก็ยังเอ็นดูเรา โชคดีนะ ไม่เคยแอ๊บและหยุดแอ๊บ แล้วทุกคนรับในสิ่งที่เราเป็นได้”.
ทีมข่าวบันเทิง