ทรหดพยศหาญเหินทะยานเข้าสู่สมัยที่ 12 ของ “ดวลเพลงชิงทุน” ด้วยท่าทีอบอุ่นในมาดสุขุมละมุนเสงี่ยม อย่างหนุ่มโรงงานและเกษตรกร “ตัส-พิพัฒนชัย คำนาดี” อายุ 24 ปี

นักสู้ชีวิตจากเมืองนิลธารากาฬสินธุ์ ผู้มีหัวใจอัดแน่นไปด้วยความมุ่งมั่นฝันใฝ่

ขณะเดียวกับที่ต้องทำงานหาเลี้ยงหลายชีวิต ด้วยการทำการเกษตรเป็นอาชีพเสริม เขาไม่เคยล้มเลิกความฝันที่อยากจะเป็น “ศิลปิน” เลย แม้เพียงเสี้ยวระลอกลมหายใจ

เขาพาเอาหุ่นกำยำล่ำสัน ผิวพรรณสะอ้านสะอาด ดวงหน้าอิ่มกล้าเมตตามหานิยม มายืนตระหง่านบนเวทีดวลเพลงชิงทุน

ตัสเคยได้เป็นนักร้องประจำโรงเรียน เคยได้พบสัมผัสกับหนุ่มหล่อห่อหมกฮวก “ลำเพลิน วงศกร” เคยถึงกับได้เข้าห้องอัดเสียง

เขาหารายได้เสริมมาจุนเจือลูกเมีย ด้วยการรับจ้างร้องเพลงไปทุกแดนดินถิ่นที่ และเพื่อเป็นการหาเงินมาเป็นค่า “ตุ๊บ” (ผ่อนค่างวด) รถ

เพลงแรกบนเวทีดวลเพลงฯ ที่ทำให้ตัสก้าวขึ้นสู่ความเป็นแชมป์สมัยที่ 1 คือ “เจ้าตั๋วว่าฮักอ้าย” จนชัยชนะล่วงเลยมาถึงสมัยที่ 12 “ดาวมีไว้เบิ่ง” งานเขียนเพลงล้ำเลิศของ “วสุ ห้าวหาญ”

ตัสได้รับคำชื่นชมท่วมท้นจากกรรมการทั้ง 3 ท่าน “ทุกอย่างลงตัวไปหมด ทั้งความเชื่อ การแสดง ความหล่อ ความเป็นมืออาชีพ ตัสทำได้สมบูรณ์แบบจริงๆ”

ดาวทุกดวงหรือดาวดวงใดของตัส ไม่ได้มีไว้ให้เบิ่งอีกต่อไป....อีกแล้ว เขากำลังจะได้สัมผัสดาวดวงนั้นจริงๆแล้วในวันนี้

จงพุ่งทะยานไกลไปให้ถึงสมัยที่ 20 คว้าดาวดวงนั้นมาโอบไว้ในดวงชีวิต พร้อมการตื่นขึ้นมาในทุกเช้ากับคำศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตเกษตรกรคนยากอย่างเขา ตลอดมา...“ศิลปิน”.

...

“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”

แจ๋วริมจอ