สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรเป็นสำคัญ พระองค์จึงทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประกอบกับมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษาและต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่างๆของรัชกาลที่ 9 ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าจึงเป็นที่มาของโครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ที่ประชาชนในทุกสาขาอาชีพลุกขึ้นมาร่วมแรงร่วมใจทำความดีเพื่อส่วนรวมถ้วนหน้า

หนึ่งในคนทำความดีด้วยหัวใจนั้นจะเห็นภาพของนักแสดงสาวคนดัง “แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” ที่เป็นแบบอย่างที่ดีในหลายด้านทั้งช่วยงานจิตอาสา งานการกุศลต่างๆอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นจิตอาสาในโครงการนี้

แพนเค้ก เผยความรู้สึกให้ฟังว่า

“จริงๆแพนมีโอกาสได้ร่วมตั้งแต่กิจกรรมต่างๆทั้งกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ และปั่นเพื่อพ่อ รวมทั้งกิจกรรมจิตอาสาต่างๆซึ่งแพนว่าพระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริในหลากหลายโครงการที่ปลูกฝังให้ประชาชนคนไทยได้ลุกขึ้นมาทำสิ่งดีๆให้กันได้แบ่งปันกันในสังคม ตัวแพนเองเคยได้ร่วมกิจกรรมของกองทัพเรือซึ่งเป็นกิจกรรมจิตอาสาเหมือนกัน ได้ไปทาสีรั้ววัด ได้เห็นว่าแต่ละคนใครถนัดด้านไหนก็ได้ช่วยเหลือตรงนั้น”

...

“แพนมองว่าโครงการนี้ เหมือนเป็นการตอกย้ำให้เรารู้สึกว่า จริงๆแล้วเราทุกคนสามารถทำได้ เริ่มต้นที่ตัวเราเองตามความถนัดความสามารถเพื่อที่จะพัฒนาทั้งตัวเราเอง ครอบครัวเราและสังคมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นและสร้างจิตสำนึกให้คนรู้จักแบ่งปันและสามัคคี เป็นการเริ่มต้นสิ่งดีๆในสังคม ไม่ได้แบ่งว่าต้องเป็นคนวัยไหนหรือเป็นใคร เด็กหรือผู้ใหญ่ก็ลุกขึ้นมาทำอะไรดีๆได้ ซึ่งแพนว่าเป็นสิ่งที่สังคมเราต้องการมาก”

“สำหรับแพน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเป็นแรงบันดาลใจด้านจิตอาสา แพนว่าบางทีเราอาจจะทำกันอยู่แล้ว แต่ว่าถ้ามีโครงการดีๆหรือใครสักคนที่ลุกขึ้นมาบอกว่า เราทุกคนควรทำนะก็เหมือนมาจัดระเบียบสิ่งต่างๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย ก็ทำให้คนที่ทำดีอยู่แล้วมีกำลังใจมีพลังไปต่อ และมีแนวร่วมที่คิดทำในสิ่งเดียวกัน หรือคนอื่นที่อยากทำแต่ไม่รู้จะทำยังไงก็มีแนวทางว่าจริงๆแล้วถ้ามีความสามารถอีกหลายด้านก็มาช่วยมาทำให้อะไรมันดีขึ้นได้ พอมีโครงการนี้เลยทำให้เราตื่นเต้นและตื่นตัวที่จะได้ออกมาทำอะไรดีๆร่วมกัน”

“และอีกอย่างเมื่อเราทำความดีด้วยหัวใจ เวลาเจออุปสรรคความเหนื่อยล้า ความยากลำบาก แพนว่ามันช่วยให้เราโฟกัสในสิ่งที่เราจะทำได้อย่างแน่ชัดเพราะการทำความดี มีอุปสรรคหนึ่งคือเรื่องของคน ความคิดคนที่แตกต่าง ความเหนื่อยมันมีทุกรูปแบบทุกอาชีพ แต่ถึงเหนื่อย ถ้าเราทำด้วยใจและมีความสุขเราก็มีพลังขับเคลื่อนที่จะทำต่อ ความท้อคงเป็นเรื่องที่ทำแล้วทำไมไม่มีใครเห็น ทำไมไม่ช่วยกัน หรือมีคนไม่เข้าใจ แต่แพนว่าทุกวันนี้ความคิดเหล่านั้นแทบไม่ค่อยมีแล้ว เพราะคนลุกขึ้นมาอย่างจริงจังและทุกคนเห็นในสิ่งที่เราทำ ทำให้การลุกขึ้นมาทำดี การลุกขึ้นมาเป็นจิตอาสาหรือได้ช่วยคนอื่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกคนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำได้ และเป็นเรื่องที่คนชื่นชมภูมิใจ และเหมือนที่แพนเคยยกพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่อยู่ในใจแพนเสมอว่า การทำความดีเป็นเรื่องที่ทำยากและเห็นผลช้า แต่เราก็ต้องเดินหน้าทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลที่ดี เมื่อผลเกิดก็คุ้มค่ากับผลที่ตามมา และเรามีความสุขที่ได้ทำค่ะ”

...

เรียกว่าพลังความดีสืบเนื่องมั่นคงมาถึงรัชกาลที่ 10?

“ใช่ค่ะ แพนว่าโครงการต่างๆที่ปลูกฝังให้กับประชาชนนั้นแข็งแรงมากๆอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 เอง เราก็ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชน ทรงเป็นแบบอย่างให้ประชาชนลุกขึ้นมาทำอะไรดีๆ มาถึงตอนนี้มันก็เป็นเหมือนการสืบเนื่องสร้างความรักความสามัคคีรวมพลังคนได้มากขึ้น ได้รวมคนออกมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน”.