ละครออเจ้า “บุพเพสันนิวาส” ที่ฮอตทะลุฟ้าทะลุดิน จักเป็นหนังแล้ว รมว.วัฒนธรรมแนะให้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ปลื้มละครเรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เผยนักท่องเที่ยวยังหลั่งไหลไปชมวัดไชยวัฒนารามล้นหลาม ชี้หากเกินวันละ 2 หมื่นคน จะสั่งกรมศิลป์เปิดวัดถึงเที่ยงคืน “หน่อง-อรุโณชา” ผู้จัดละครพีเรียดเรื่องนี้ที่ดังทั่วโลก ขานรับเตรียมคุยผู้ใหญ่ จัดทำเวอร์ชั่นภาพยนตร์ใช้พระเอกนางเอกและตัวละครชุดเดิม แฟนละครออเจ้า เตรียมเฮและฟินกับพี่หมื่นโป๊ป “พี่หมื่นม้าน้ำ” กันต่อ ในเดือน พ.ค.ช่วงก่อนข่าวค่ำ หลังมีกระแสเรียกร้องให้กลับมารีรันอึดตะปือนัง “ศัลยา” ผู้เขียนบทละครสุดฮอต ชื่นชม “เหมียว-ชไมพร” แสดงได้หลากบทบาทหลายอารมณ์ เผยบทบาทบ่าวในละครบุพเพสันนิวาส ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ละครมีเสน่ห์และสนุก อีกด้านกระทรวงวัฒนธรรมเตรียมนำภาพยนตร์ไทย 70 เรื่องในสมัย “รัชกาลที่ 9” ฉายให้ประชาชนชมฟรี
ความโด่งดังของละครพีเรียดเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ที่มีดีกรีความดังแรงชนิดทะลุฟ้าทะลุดินและได้สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับวงการละครไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งแม้ละครจักอวสานไปแล้วแต่ความฟินในช็อตเด็ดๆและภาพความน่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งของพระเอกนางเอกเรื่องนี้ ที่บรรดาแฟนๆละคร มีอยู่เต็มความทรงจำ หาได้จางหายไปไม่ ล่าสุดนับเป็นข่าวดีของบรรดาออเจ้าที่ชื่นชอบละครเรื่องนี้ ที่จักมีการนำละครเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้ได้ชมกันอีกครั้งหนา
กระแสออเจ้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 เม.ย. คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดเสวนาวิชาการเรื่อง “ไขรหัสลับ ละครบุพเพสันนิวาส” มีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ร่วมด้วย อ.แดง-ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ผู้เขียนบทโทรทัศน์ละครบุพเพสันนิวาส ใหม่-นายภวัต พนังคศิริ ผู้กำกับชื่อดัง นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะทำงานสายกิจการองค์กร สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 นักวิชาการคณะวารสารฯ ร่วมเป็นวิทยากรการเสวนา ขณะที่ หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ผู้จัดละครชื่อดัง ร่วมฟังการเสวนาด้วย
...
นายวีระกล่าวเปิดงานและบรรยายพิเศษตอนหนึ่งว่า เราสร้างละครและภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์มาแล้วหลายเรื่อง แต่ละเรื่องก็เลือกนำเสนอจุดเด่นของไทยในอดีต ทุกเรื่องได้รับความนิยม สำหรับละครบุพเพสันนิวาส ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา สามารถเลือกยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ไทยเรามีความเจริญหลายๆด้านและนำเสนอได้อย่างเหมาะสมลงตัว ประกอบกับกระแสการรณรงค์วัฒนธรรมไทยในงานอุ่นไอรักเข้ามาหนุนจึงเป็นการสานต่อการแต่งกายชุดไทยของคนไทยจำนวนมาก ที่ไปเที่ยววัดไชยวัฒนาราม เดิมมีนักท่องเที่ยวแต่ละวันไม่ถึงพันคน เมื่อละครบุพเพสันนิวาส ออกอากาศตลอดเวลาเกือบ 2 เดือน มีนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยตามรอยแม่การะเกดไปเที่ยววัดไชยวัฒนารามวันละหมื่นกว่าคน จนต้องให้กรมศิลปากรขยายเวลาการปิดวัด หากมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเกินวันละ 2 หมื่น จะสั่งให้กรมศิลป์ขยายเวลาเปิดวัดให้ถึงเที่ยงคืน เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย ได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมดูแลนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ให้ดี
“สิ่งที่น่าชื่นชมประการสำคัญของละครบุพเพ-สันนิวาสคือ การทำให้คนไทยสนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์ มีการค้นคว้าหาหนังสือประวัติศาสตร์อ่านเพิ่มเติม เราทุกคนควรภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของเรา ที่เรารักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค หรือขบวนพระบรมศพสมัยพระเพทราชา การสร้างพระเมรุมาศ เป็นต้น ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสมีการตั้งชื่อถนนที่คณะทูตไทยเคยผ่านว่า “ถนนสยาม” และยังมีร้านกาแฟในกรุงปารีส ชื่อว่า “คาเฟ่ เดอเซียม” หรือร้าน “กาแฟสยาม” ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ ไปพบสอบถามมาได้ความว่า เจ้าของร้านมีบรรพบุรุษเป็นคนไทยที่อยู่ในคณะทูตที่เดินทางมาจากกรุงศรีอยุธยา คิดว่าจากความนิยมละครโทรทัศน์เรื่องนี้ที่มีความลงตัวทุกด้าน อยากเสนอให้คุณหน่อง-อรุโณชา ผู้จัดละครเรื่องนี้นำละครทั้ง 15 ตอน
มาตัดต่อใหม่ร้อยเรียงให้เป็นเรื่องยาวแล้วนำมาฉายในโรงภาพยนตร์เชื่อว่าจะต้องมีคนดูแน่นอน” นายวีระกล่าว
ขณะที่ หน่อง-อรุโณชา ผู้จัดละคร ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของ รมว.วัฒนธรรม ที่ให้ตัดต่อละครบุพเพสันนิวาสเป็นเรื่องยาวและนำเข้าฉายในโรงภาพ-ยนตร์ว่าต้องขอบคุณ รมว.วัฒนธรรมที่เห็นว่าละครบุพเพสันนิวาสได้รวบรวมศิลปวัฒนธรรมไทยที่ดีงามเข้าไว้ สืบทอดมาถึงลูกหลานปัจจุบัน ส่วนข้อเสนอให้ทำเป็นภาพยนตร์นั้น ในฐานะผู้สร้างจะนำไปปรึกษาผู้ใหญ่ น่าจะเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นละครบุพเพสันนิวาส ในอีกรูปแบบหนึ่งคือ ภาพยนตร์ เพราะที่ผ่านมาเคยนำละครบุพเพสันนิวาส ตอนสุดท้ายฉายในโรงภาพยนตร์ ได้รับคำชื่นชม
หน่องกล่าวอีกว่า ขอขอบคุณช่อง 3 และทุกภาคส่วนที่ทำเป็นภาพยนตร์โดยไม่มีโฆษณา ได้อรรถรสความต่อเนื่องของอารมณ์ ได้ชมการแสดงของนักแสดงซึ่งแสดงได้ดีอยู่แล้ว ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง ประทับใจมากยิ่งขึ้น และคิดถ้าจะทำเป็นภาพยนตร์จริง คงรอกันไม่นาน เพราะไม่อยากให้กระแสจางไป นอกจากนี้ บริษัทจะทำหนังสือเฉพาะกิจ เบื้องหลังละครบุพเพสันนิวาส ซึ่งมีเสียงเรียกร้องมามาก ว่าอยากเห็นเบื้องหลังการถ่ายทำ หรือภาษาไทยโบราณในละคร หนังสือนี้จะรวบรวมเบื้องหลังการถ่ายทำ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ชม คนทำละคร และคนที่รักละครเรื่องนี้ทุกคน คาดว่าจะจัดทำเสร็จในเดือน พ.ค. ส่วนผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ออกเลข 29 ตรงกับที่แม่การะเกดพูดในตอนสุดท้ายว่า น่าจะเป็นผลพลอยได้ เป็นตอนที่พูดถึงตัวเลข ผู้ชมก็หัวไวเก็บตัวเลขไปทดลอง ก็ดีใจกับคนไทยทุกคนที่มีโชค
ด้าน “แดง ศัลยา” ผู้เขียนบทละครโทรทัศน์บุพเพสันนิวาส กล่าวว่า เสน่ห์ของละครบุพเพสันนิวาส อยู่ที่เนื้อหาสนุก มีความแปลกคือทะลุมิติ ภาษาก็สนุกสนาน ร่วมสมัย นักแสดงก็ลงตัว รวมทั้งกลุ่มบ่าว ตนให้ความสำคัญ ชอบเขียนบทของบ่าวมาก เพราะจะทำให้เรื่องมีเสน่ห์ น่ารัก เป็นการฉายภาพของสังคมสมัยนั้น ครบครันตั้งแต่ระดับบนมาถึงระดับล่าง เช่น อีปริก มีบทเถียงนายชนิดไม่มีกลัว คิดว่าเรามีนายกับบ่าวแบบนี้มาทุกยุคสมัยที่มีความดี เมตตาและมีปฏิสัมพันธ์กันแบบนั้น ตนก็ถูกแม่บ้านเอ็ดประจำให้ไปอาบน้ำ กินข้าว แต่เราจะไม่โกรธแม่บ้านของเราเลย เรื่องนี้คุณหญิงจำปาที่แสดงโดย เหมียว-ชไมพร จตุรภุช ซึ่งแสดงหลายอารมณ์กับอีปริกคนเดียว ทั้งโกรธแบบเอ็นดู โกรธแบบประชดประชัน โกรธแบบหมั่นไส้ หรือโกรธจริงๆ เหมียวเล่นดีทุกครั้ง และยังต้องมีบทกับพี่หมื่น แม่การะเกดกับไอ้จ้อยก็ต้องเฆี่ยน บ่าวในละครประวัติศาสตร์ เป็นกลุ่มคนที่เราจะทิ้งไปไม่ได้เลย เพราะบ่าวคือส่วนหนึ่งของสังคม และสนุกตรงบ่าวนี่แหละ
นักเขียนบทโทรทัศน์มือทอง ยังบอกด้วยว่า อย่าเชื่อประวัติศาสตร์ที่อยู่ในละคร ขอให้ดูแล้วไปค้นคว้าเพิ่มเติม ถ้าหาข้อมูลแล้วตรงกับในละครก็ถือว่าเป็นเรื่องจริง เป็นความจริงเท่าที่เอกสารเขียนไว้ หรือควรสอบถามความรู้เพิ่มเติมจากครู จะเป็นการกระตุ้นให้ครูไปหาข้อมูลมาสอนเด็ก
...
ส่วนนายภวัต หรือใหม่ ผู้กำกับละครชื่อดัง กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเปิดฉากตัวละครทุกตัวให้ผู้ชมจดจำตั้งแต่ฉากแรก เช่น การเปิดตัวขุนหลวงสรศักดิ์ ด้วยฉากแข่งเรือ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ดุดัน โดยที่ไม่มีบทพูดสักคำ ขณะที่เสน่ห์ของบุพเพสันนิวาส คือ ความสนุก ภาษาที่ร่วมสมัย ทั้งตัวละครก็มีบุคลิกหรือคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน สำหรับตน เมื่อผู้ชมดูละครอิงประวัติศาสตร์แล้วไปศึกษาข้อมูลต่อยอด หรือตามรอยดูโบราณสถานต่างๆ เกิดการเรียนรู้ ก็ถือว่าตนทำละครอิงประวัติศาสตร์และฉากประวัติศาสตร์ต่างๆประสบความสำเร็จแล้ว
หลังเสร็จสิ้นการเสวนา หน่อง-อรุโณชา ให้สัมภาษณ์ “ไทยรัฐ” กรณีที่กระทรวงวัฒนธรรมอยากให้นำละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” สร้างเป็นภาพยนตร์ ว่า ดีใจที่กระทรวงวัฒนธรรมให้ความสำคัญ กับละครไทยและมีนโยบายเช่นนี้ออกมา เป็นกำลังใจให้แก่คนทำงาน คนคิดงาน จะได้ผลิตผลงานดีๆออกมา มีการต่อยอดไปได้อีก สำหรับการสร้างภาพยนตร์ ได้พูดคุยกับผู้กำกับการแสดง คือ ใหม่-ภวัต พนังคศิริ บ้างแล้ว คิดว่าจะมีการสร้างอย่างจริงจัง เพราะผู้กำกับฯ ก็มาจากสายภาพยนตร์เป็นมือรางวัลอยู่แล้ว เขาสนใจที่จะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ส่วนที่ว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่นั้นยังมีปัญหาอยู่บ้าง เนื่องจากก็มีกระแสเรียกร้องที่อยากดูละครเรื่องพรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสภาคสองอยู่เหมือนกัน จึงต้องมาดูในเรื่องของเวลาอีกที
หน่องกล่าวอีกว่า เรื่องการสร้างบุพเพสันนิวาสเป็นภาพยนตร์ มีความเป็นไปได้แน่นอน เพราะผู้กำกับฯ มีกำลังใจต้องการจะทำและเรื่องบท จะต้องเขียนออกมาให้แตกต่างไปจากละคร อย่างไรก็ตามจากบทประพันธ์สามารถที่จะสอดแทรกรายละเอียดเพิ่มเติมได้อีกมากมาย ส่วนที่จะนำเอาละครเดิมมาตัดต่อให้เป็นภาพยนตร์นั้น ในความคิดของตนเห็นว่าไม่สมควร เพราะในส่วนของละคร มีความสมบูรณ์อยู่แล้ว หากตัดต่อเป็นภาพยนตร์ไม่น่าจะทำได้ เพราะถ้าเป็นภาพยนตร์คือต้องแปลกตาออกไปเลย ผู้เขียนบทต้องไปตีความเพิ่มเติม
...
เมื่อถามว่านักแสดงหากมีการสร้างเป็นภาพยนตร์ จะนำเอาพระเอกนางเอกรวมทั้งนักแสดงจากละครมาทั้งหมดหรือไม่ หน่อง-อรุโณชา กล่าวว่า เรื่องนี้ ได้พูดคุยกับผู้กำกับฯเหมือนกัน เห็นพ้องต้องกันว่าอยากได้ทั้งพระเอกนางเอก คือโป๊ป-ธนวรรธน์ กับเบลล่า-ราณี และนักแสดงเดิมจากละครมาสวมบทเดิมทุกคน แต่ต้องปรึกษาคุณรอมแพง ผู้ประพันธ์ด้วยและหากมีการสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วแน่นอนว่าเราต้องทำให้ดีที่สุด ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เช่นนี้ แน่นอนว่าการลงทุนต้องสูงมาก เพราะต้องมีการค้นคว้าข้อมูล การสร้างฉากให้ยิ่งใหญ่และสมจริงที่สุด อีกทั้งรายละเอียด ต้องสูงขึ้นกว่าการสร้างละครปกติ เพราะงานภาพยนตร์ระดับนี้เชื่อว่าจะต้องถูกนำไปผ่านสายตาชาวโลก หากเราสร้างก็ต้องไม่ให้น้อยหน้าประเทศอื่น
หน่อง-อรุโณชายังเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมามีกระแสจากแฟนละครว่ายังไม่เต็มอิ่ม ช่อง 3 จึงนำละครเรื่องบุพเพสันนิวาสกลับมาฉายรีรันอีกครั้ง ราวเดือนพฤษภาคมช่วงก่อนข่าวค่ำ ระยะเวลาออนแอร์ตอนละประมาณ 1 ชม. ทั้งนี้ บรอดคาซท์โดยผู้กำกับการแสดงใหม่-ภวัต จะดำเนินการตัดต่อเองทั้งหมดเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่เอา 15 ตอนเดิมมาหั่นแค่นั้น แต่จะนำเอาอันซีนหรือซีนที่ยังไม่เคยได้เห็นจากละครเดิมมาใส่เข้าไป โดยมีหลายฉากที่เราถ่ายไว้แต่ไม่ได้ใช้ในคราวก่อน มีอยู่เยอะมากอย่างเช่น เหตุการณ์ลูกของการะเกดในตอนจบ หรือส่วนของศรีปราชญ์ เป็นต้น จะมีการนำเอารายละเอียดที่มีอยู่แล้ว ใส่เข้าไปเป็นการเพิ่มอรรถรสให้เต็มอิ่มยิ่งกว่าเดิม หรือในส่วนเหตุการณ์การเมืองและประวัติศาสตร์ ที่มีบางช่วงบางตอนที่อยากจะใส่รายละเอียดเพิ่มเข้าไปอีก เพราะเป็นส่วนที่แฟนละครให้ความสนใจถึงขนาดไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมกันมากมาย
วันเดียวกัน ที่ห้องดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม แถลงข่าวโครงการเผยแพร่สุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 ว่า คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ มีมติเห็นชอบรายชื่อภาพยนตร์ไทย 70 เรื่องที่เป็นสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อวงการภาพยนตร์ไทย พิจารณาจากภาพยนตร์ เรื่องยาวที่จัดฉายและเผยแพร่ในโรงภาพยนตร์ของไทย ในช่วงเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ 70 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2489-13 ต.ค. 2559 จำนวนกว่า 5,000 เรื่องที่มีความโดดเด่น เช่น ได้รับรางวัลระดับประเทศ หรือนานาชาติ ทำสถิติรายได้การขายบัตรชมสูงสุด 5 อันดับแรกของปี สร้างแรงบันดาลใจต่อผู้ชม สะท้อนถึงชีวิตคนไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 และทรงคุณค่าทางศิลปะ เป็นต้น
...
นายวีระกล่าวอีกว่า การคัดเลือกครั้งนี้มีประชาชนร่วมเสนอรายชื่อภาพยนตร์เข้ามาถึง 29,844 คน จำนวน 359 เรื่อง ผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการภาพยนตร์และศิลปินแห่งชาติได้ร่วมกันคัดเลือก นำเสนอเข้าสู่คณะอนุกรรมการพิจารณา ก่อนเสนอต่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติเห็นชอบประกาศเป็นสุดยอดภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 จำนวน 70 เรื่อง อาทิ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร สุริโยไท พระมหาชนก พันท้าย นรสิงห์ แม่นาคพระโขนง พี่มาก...พระโขนง เรือนแพ ลูกทาส น้ำพุ 2499 อันธพาลครองเมือง แผลเก่า ทวิภพ บ้านทรายทอง บุญชูผู้น่ารัก แฟนฉัน องค์บาก ต้มยำกุ้ง โหมโรง ก้านกล้วย รถไฟฟ้ามาหานะเธอ คิดถึงวิทยา หลังจากนี้จะมีการจัดพิมพ์หนังสือ จัดนิทรรศการและจัดฉายให้ประชาชนได้รับชม แบ่งเป็นส่วนกลางจัดฉาย 10 เรื่อง ที่โรงภาพยนตร์ สกาลา สยามสแควร์ วันที่ 24-27 เม.ย. ส่วนภูมิภาค 9 เรื่อง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ซีเนม่า เมญ่า เชียงใหม่ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ซีเนม่า เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต และโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 7 พ.ค.-23 มิ.ย. รวมทั้งเผยแพร่ในเทศกาลภาพยนตร์ไทยต่างประเทศ
น.ส.ชลิดา เอื้อบำรุงจิต รองผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) อนุกรรมการพิจารณาคัดเลือก กล่าวว่า ภาพยนตร์ไทย 70 เรื่องที่ผ่านการกลั่นกรอง สะท้อนภาพยนตร์ในความทรงจำตลอด 70 ปีที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ ทุกเรื่องเป็นภาพยนตร์ทรงคุณค่าทางศิลปะและเนื้อหาน่าสนใจ จะมี 10 เรื่องที่จัดฉายนำร่องที่โรงภาพยนตร์ สกาลา สยามสแควร์ เช่น เรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง ที่ฉายเมื่อ 20 ปีก่อน หนังเรื่องนี้เปิดศักราชใหม่ให้วงการภาพยนตร์ได้อย่างสวยงาม ทำรายได้สูงกว่า 70 ล้านบาท คนหันกลับมาดูภาพยนตร์ไทย นักแสดงหน้าใหม่แจ้งเกิดและกลายเป็นพระเอก ดาราดังจนทุกวันนี้ ขณะที่ภาพยนตร์อีกเรื่องสุดสาคร กำกับโดยปยุต เงากระจ่าง เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกของไทย เบื้องหลังเป็นผลงานจากหยาดเหงื่อและน้ำตาของผู้สร้าง ขมขื่นกับคำถามว่า ทำไมการ์ตูนต้องแพง ปัจจุบันฟิล์มกำลังหมดยุคไป ไม่มีโรงภาพยนตร์ฉายด้วยฟิล์มแล้ว หากประชาชนพบเจอภาพยนตร์ไทยให้ติดต่อหอภาพยนตร์ฯ เพื่ออนุรักษ์เป็นมรดกของชาติ