มอบความสุขความฮาจัดเต็ม! ศิลปินร็อกสุดเก๋า “ป้าง–นครินทร์ กิ่งศักดิ์” เลือกพา “สายร็อก” เจอ “สายฮา” ในคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเอง “50 ปี พรีแซยิด ป้าง นครินทร์ เพลงดังไม่ดัง จะได้ฟังกันคราวนี้” ขนเพลงมันส์และยังเตรียมดวลมุกดวลกับซุปตาร์ตลกตัวพ่อจากรายการ “บริษัทฮาไม่จำกัด” ทั้ง แจ๊ส ชวนชื่น, ค่อม ชวนชื่น, บอล เชิญยิ้ม, นุ้ย เชิญยิ้ม, ตั๊ก บริบูรณ์, โรเบิร์ต สายควัน เป็นแขกรับเชิญ แถมเพลงล่าสุด “ทุกคนเคยร้องไห้” ก็กระแทกใจแฟนๆจนทำลาย สถิติทุกเพลงของ ป้าง ยอดวิวในยูทูบพุ่งกระฉูด 10 ล้านวิว ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ แต่พอเผยมุมมองยิ่งสั่งสมประสบการณ์รุ่นใหญ่ กลับยิ่งมีมุมมองง่าย ป้าง เล่าเรื่องราวว่า เริ่มจากเลือกแขกรับเชิญฮาแบบนี้ แปลว่า ป้างเป็นคนตลก? “เรามีส่วนนั้นนะแต่คนไม่ค่อยรู้ ส่วนพวกเค้าจะมาทำอะไรบ้างอยากให้ไปเซอร์ไพรส์บนเวที เริ่มจากผมชื่นชอบเค้าเป็นแฟนคลับตัวยงตามดูทุกตอน เวลาเราทำงานเหนื่อยๆ ก็อยากหาอะไรขำๆดูในยูทูบจนเจอรายการนี้ เฮ้ย สนุกจัง เป็นรายการตลกที่เป็นธรรมชาติสูง แหย่อำกันแบบเพื่อนกัน มันก็แปลกใหม่สำหรับเราด้วยและคนดูด้วย เชิญนักร้องเป็นแขกเราก็ทำมาหมดแล้ว เสียงหัวเราะทำให้ความเป็นกันเองมันเจริญงอกงาม ครั้งนี้เพลงดังไม่ดังได้ฟังหมด เพลงฮิตก็ต้องมี ผมว่าแฟนเพลงผมส่วนใหญ่ เกือบ 70-80% เวลาเค้าฟังอัลบั้มเราเค้าฟังทุกเพลง แล้วเค้ารู้สึกเพลิดเพลิน ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเพลง หลายเพลงเราไม่เคยเล่นมาก่อน ทีนี้ก็มาคิดเล่นๆว่ามันมีคำอะไรถูกใจ อายุเราครบ 50 พอดี จะทำยังไงให้ชื่อคอนเสิร์ตมันเตะหู เลยนึกถึงคำว่าพรีแซยิดขึ้นมา”

50 ปีของชีวิตกับ 25 ปีในวงการ ทำให้ตัวเองมีไฟตลอดยังไง? “ข้อแรกคือ ผมว่าผมโชคดีที่ได้ทำอาชีพที่เราหลงรักมันแบบหัวปักหัวปำจริงๆ เลยทำให้ทำอาชีพได้นาน ถ้าเป็นอาชีพที่ไม่รักจริงๆคงเบื่อเร็ว ความอ่อนล้ามันมีอยู่แล้วแต่มันไม่ได้เลิกรักเลยยังทำให้ได้เรื่อยๆ” เพลงของป้างฟังได้รุ่นสู่รุ่น ฐานแฟนคลับก็กลุ่มกว้างขึ้น? “ระยะหลังๆที่ภาพรวมของเพลงไทยดูเหมือนจะแย่ลง อายุเราก็มากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าถ้าจะทำเพลงต่อจะทำเพลงเกี่ยวกับอะไรดี เลยอยากทำเพลงสร้างรอยยิ้มให้กับตัวเอง สร้างรอยยิ้มให้คนฟัง โดยไม่สนใจว่าใครจะว่าเอ๊ะ คุณอายุมากแล้วนะ เป็นศิลปินอาวุโส คุณควรจะทำเพลงเคร่งขรึมและลึก เราบอกว่าเราไม่สน อยากทำอะไรก็ทำออกไป ณ ตอนนั้น อยากได้รอยยิ้ม ตอนแต่ง ตอนอัด ตอนร้องก็ยิ้ม อยากส่งให้คนฟังยิ้ม มันเลยกลายเป็นเพลง ภูมิแพ้กรุงเทพ คนมีเสน่ห์ และรอยยิ้มนี้มันไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย กลายเป็นเด็กชอบ คนแก่คนเฒ่าชอบ” ยอดวิวถล่มทลายเกินคาดมั้ย? “เกินคาดครับ เพราะนักร้องที่อยู่มานานๆ ความสดมันไม่มีแล้วครับ เราอยู่มา 25 ปี เรารู้สึกว่าเพลงมันน่ารัก มันอาจจะดัง แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเพลงฮิตมากๆเพราะเราก็ไม่ใช่นักร้องหน้าใหม่” วันที่เลือกทำเพลงให้รอยยิ้มทั้งที่เป็นรุ่นใหญ่มีเจอเสียงวิจารณ์บ้างมั้ย? “ตอนทำก็คิดนะว่าน่าจะมีสิ่งเหล่านี้บ้าง แต่เอาจริงๆมันเป็นสิ่งเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับความจริงจังตอนนั้นว่าเราอยากทำอะไร เวลาทำเพลงต้องถามและซื่อสัตย์กับตัวเองว่าเราอยากทำอย่างนี้จริงๆเลยใช่ไหม พอซื่อสัตย์แล้วมันจะทำได้เต็มที่” เหมือนกับคอนเสิร์ต เมื่อ “ป้าง” ไม่ได้ติดคำว่ารุ่นใหญ่ เลยกลายเป็นอยากมอบความสุข? “ใช่ครับ พี่คิดว่าเวลาทำผลงานอะไร อย่างผลงานของนายป้าง มันต้องดูอารมณ์ของนายป้างตอนนั้นว่าอยากทำอะไร” เพลงของป้างก็เป็นคอร์ดที่ง่ายก็เพื่อให้คนเอาไปเล่น? “อย่างนึงคือคอร์ดที่ง่ายๆเหล่านั้นในความเป็นเรามองว่ามันเพราะมาก รู้สึกว่ามันเพราะตั้งแต่เด็ก เพลงยากๆก็เคยลองแต่ง แต่เรารู้สึกไม่เพราะ ตัวเราถูกสร้างมาให้หลงใหลกับคอร์ดพวกนี้ตั้งแต่เด็ก จุดประสงค์เราไม่ได้อยากให้คนรู้ว่าเราใช้คอร์ดยาก อยากให้คนฟังแล้วมีความสุข แค่นั้น”

...

ล่าสุดเพลง “ทุกคนเคยร้องไห้” ก็กระแสดีมาก? “พี่ทำเพลงให้คนยิ้มมา 2 เพลงแล้ว ความรู้สึกล่าสุดของพี่ มองๆรอบตัวแฟนๆหรือใครๆก็มีปัญหาหนักอก เก็บเรื่องอะไรไว้ อยากแต่งเพลงที่ทำให้ความรู้สึกตรงนี้ได้รับการปลดปล่อยบ้าง เพลงนี้เป็นเพลงยั่วให้คนร้องไห้ มันเหมือนเศร้าแต่พอร้องไห้ได้ระบายเสร็จแล้วให้สู้ต่อ เป็นเพลงที่แปลกประกลาด แต่เป็นสไตล์พี่ พี่ชอบทำอะไรพิเรนทร์อยู่แล้ว ทำอะไรเหมือนๆกันมันไม่ค่อยสนุก ไม่คิดว่ามันจะฮิตระเบิดระเบ้อ แค่มีคนบอกว่า พี่หนูฟังแล้วร้องไห้และลุกมาสู้ต่อ แค่นี้พี่ก็ดีใจมาก นั่นคือจุดประสงค์”

มองวงการเพลงที่เปลี่ยน ตั้งแต่เทปคาสเซ็ต จนมาดาวน์โหลดเพลง มีอะไรที่เปลี่ยนไป และมีอะไรที่เหมือนเดิม? “ที่เปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิง สมัยก่อนอาชีพเราคือทำเพลงมาแล้วขาย แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นทำเพลงแล้วรีบเอาให้คนฟัง มันวิ่งเข้าหาการฟังฟรี จะได้เล่นคอนเสิร์ตหรืออะไร รายได้ตรงเพลงมันแทบจะไม่มีไปเลย แต่สิ่งที่เหมือนเดิม ดนตรีมันก็คือดนตรี มันยังสร้างความสุขให้พี่และแฟนเพลงพี่เหมือนเดิม”

แพลนเพลงต่อๆไปไว้ยังไง? “มันแพลนไม่ได้ เวลาที่บริษัทถามบ่อยๆว่าเพลงหน้าเมื่อไหร่ยังไง ไม่ได้แพลนด้วยว่าเมื่อไหร่จะหยุดทำ ให้เหตุการณ์มันบอกเอง แต่เรายังมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ และก็มีความสุขในมุมใหม่ๆ ทุกวันนี้พี่มีความสุขที่ตัวเองรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เป็นศิลปินนักร้อง เรามีความสุขที่ตัวเองทำอาชีพนี้แล้วตัวเองเหมือนชาวบ้าน ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ ทำตัวให้ปกติธรรมดา ถามว่าทำไม เพาะทำแล้วมันรู้สึกสบาย และมีความสุข”

งานด้านอื่นๆบทบาทอื่นๆล่ะ? “ชีวิตนักร้องของผมมีคนทาบทามเล่นหนังบ่อยมาก แต่ส่วนใหญ่ให้เล่นเป็นโจรนะ การแสดงน่าสนใจนะ แต่ทุกทีเราจะติดงานเสมอ เราไม่ได้ปิดกั้นนะ บางทีเราอ่านแล้วไม่ได้อยากแสดงเป็นไอ้นี่ คงติดนิสัยมาจากการทำเพลง ถ้าเราไม่ได้อยากทำ ณ ตอนนั้นเราจะไม่ทำออกมา ถ้ามีบทน่าสนใจจริงๆคงอยากทำ” ชีวิตส่วนตัวก็บริหารได้สบายเช่นกัน? “ดีครับ มีเวลาอยู่กับลูก ภรรยาที่เข้าใจความเป็นตัวเรามาก เข้าใจลักษณะอาชีพเรามาก เราโชคดี มันไม่ใช่ความบังเอิญ ตอนเป็นแฟนกันก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแบบนี้แล้วเค้าเข้าใจมาก บางทีการเลือกคู่เราต้องมองไปข้างหน้าว่าอาชีพเราเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าเห็นแรกพบแล้วต้องแต่งงานกันให้ได้โดยไม่รู้ว่าจะเข้ากันได้มั้ย เรื่องพรหมลิขิตอะไรเราไม่เชื่อนะ แต่เชื่อในการวางแผน เป็นแฟนกันมา 3 ปี หน้าที่คุณพ่อ เราทำงานส่วนใหญ่ดึกๆตื่นมาสายๆ มีเวลาก็ไปรับลูกอยู่กับเค้าออกไปเล่นคอนเสิร์ต 3 ทุ่ม เค้าก็เข้านอนแล้ว” ทุกวันนี้ความสุขของป้างคือความเรียบง่าย? “ใช่ครับ ผมว่าอันนี้เจ๋งสุด”.

...