เมื่อทุกสิ่งที่เคย “คาใจ” กลับกลายเป็นภาพจริง “คาตา” ต่อหน้าต่อตา และตรงหน้าตรงตา เกินกว่าความชัดเจนใดๆ
“พิมาลา” ก็ต้องพ่ายยับให้กับ “ถ่านไฟแกร่ง” คู่เก่าที่ยังคงแข็งแรง ร้อนคลุก ลุกโชน เดือดพล่านทั้งสองก้อนนั้น “ฤกษ์ (ผัว)-เริง (เพื่อน)”
“เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับบทบาทที่ไม่ต้องสวม ทุกอย่างเข้า “ทางสายเชี่ยว” (ชาญชำนาญกิจ) ของเธออย่างมหันต์มั่นกล้า
ไม่ทายท้าแต่อย่างใด กับทุกสิ่งที่เธอเล่นยั่วเย้า เร้าเริง ร่ำสำแดงเสมือนจริงออกมาได้หมดเปลือกของความเป็น “ใจเริง” หญิงร้ายกระหายผัวผู้โหยหิวและโหยหาราคะกามทุกขณะจิตจริตกาย
ขณะเดียวกับที่ “เบลล่า ราณี” สวมชีวิต “พิมาลา” ได้อย่างเรียบเร้น กดดัน เครียดลึก หม่นหมาง และจางจืด ไม่เร้าใจเร้าชีวิตเร้าจิต “พี่ฤกษ์-ป้อง ณวัฒน์” สามีมาดเข้ม ผู้มี “ข้างใน-ข้างนอก” สับสนเสพกระสันย้อนแย้งกันโดยสิ้นเชิง!
นักแสดงหลัก-รองรายรอบล้วนมีชีวาและมีชีวิตเสมือนจริงในทุกเหตุการณ์
ผู้เขียนบทฯ ปรับรายละเอียดปรับยุคได้เอร็ดอร่อยไปตามสถานการณ์สังคมโซเชียลเริงรมย์ครองเมือง
จากเรื่องเดิมที่เป็นแนวถนัดจัดเจนสุดจิตของ “กฤษณา อโศกสิน” ถูกปรับเปลี่ยนให้ (เท่า) ทันกาม (เท่า) ทันเกมของกิเลสมนุษย์ยุค 2560
ผลงานกำกับฯเข้า “ทางสายเชี่ยว” เปรี้ยวจริตอย่างแรงของ “เติม ชนินทร ประเสริฐประศาสน์” เช่นเดียวกัน
เป็น “เพลิงบุญ 2560” ยุคสังคมโซเชียลที่มัน-คัน-ข้น-ขม เต็มสตรอง สนองตอบอารมณ์จิตใจคนดูได้อย่างท่วมท้น
สาแก่ใจ “หญิงยศ-ยศสินี ณ นคร” (ผู้จัดหญิงแกร่ง) เสียเป็นยิ่งนักครับ.
...
“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”
‘‘แจ๋วริมจอ’’
jaewrimjor@gmail.com