ยอมแล้ววววว เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี เล่าให้ฟังว่า ถ่ายทำภาพยนตร์ “พี่นาค 2” แต่ละสถานที่โหดสุดๆ ล้วนแล้วแต่มีตำนานเล่าขานต่อๆกันมา และที่ยิ่งสะพรึงคือ คิวถ่ายเริ่มกันตอนหกโมงเย็นถึงหกโมงเช้า ทำให้งานนี้ เอม ยกมือขอเชื่อหมดใจว่า ผีและสิ่งที่มองไม่เห็นล้วนมีอยู่จริง
“กองถ่ายพี่นาค 2 โลเกชันแต่ละที่เรียกได้ว่าอันซีนและหลอนแบบสุดอะคะ โลเกชันหลักคือป่าช้า ที่เป็นป่ารกทึบต้นไม้แต่ละต้นสูงใหญ่มากเรียกว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ ซึ่งป่าช้าก็อยู่ตรงกลางในป่านี้ ทางทีมงานต้องกันเชือกเป็นจุดมาร์กให้ทุกคนเดินตามเชือก ห้ามเดินหลุดจากเชือกที่มาร์กไว้ เพราะถ้าเราเดินหลุดจากเชือกนั่นหมายความว่าเราอาจไปเหยียบหรือไปโดนหลุมศพที่ฝั่งอยู่รอบๆ เรียกได้ว่าเดินไปต้องยกมือไหว้ขอโทษไปตลอดทาง เมื่อเดินเลยถัดมาจนถึงโบสถ์ร้างที่ต้องเข้าไปถ่ายทำเอมรู้สึกได้เลยถึงพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยแอบมองพวกเราอยู่ เรียกว่าสัมผัสระยะใกล้แบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนค่ะ และอีกหลายๆวัดที่มีความขลังไม่แพ้กันอย่างวัดที่มีองค์พระใหญ่เรียงรายรอบทางเข้า ซึ่งตอนพักเบรกเอมก็ไปนั่งตรงฐานองค์พระ ก็ไม่มีใครบอกไงว่าทำไมถึงห้ามนั่ง จนเลิกกองเอมถึงเพิ่งรู้ว่าฐานองค์พระทุกองค์คือที่เก็บอัฐิ ณ ตอนนั้นคือตกใจมากๆค่ะ ด้วยเพราะเราไม่รู้จริงๆไม่มีเจตนาจะลบหลู่ใดๆ ทั้งสิ้น รีบยกมือไหว้ขอโทษทันทีเลยค่ะ

...
และในส่วนของทีมงานที่เจอก็มีนะคะ คือทีมเซตพร็อพกำลังเซตงานกันอยู่ดีๆ ก็มีชาวบ้านแถววัดเดินมาหาพระที่วัดแล้วถามว่าตรงนั้น (ทีมงานที่เซตพร็อพ) ทำอะไรกันคนเยอะแยะเลย แต่ความจริงมีคนทำงานตรงนั้นอยู่แค่ 2-3 คน ทำให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบไม่มีใครพูดอะไร เอมเชื่ออยู่อย่างเรื่องการไม่คิดลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งที่เรามองไม่เห็น เอมเชื่อว่าก็จะไม่เกิดสิ่งไม่ดีขึ้นกับตัวเรา จะว่าไปแล้วเอมเชื่อเรื่องกรรมนะทำอย่างไรได้อย่างนั้น คิดดีทำดีชีวิตก็จะดี และนี่เป็นแค่ประสบการณ์ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละที่ ดุ หลอน ขนาดไหนต้องไปดูในหนังพี่นาค 2 เลยค่ะ รับรองว่างานนี้หลอน-ฮาของจริง ไปดูในโรงภาพยนตร์ อย่าไปสนับสนุนเว็บผีหนังเถื่อนกันเลยนะจ๊ะแม่จ๋า”.