ไม่พลิกโผ ซีรีส์ฟอร์มยักษ์อิงประวัติศาสตร์ “โชกุน” คว้ารางวัลยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 82 ไปถึง 4 รางวัล ทั้งซีรีส์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า นักแสดงนำชาย-หญิง และนักแสดงสมทบชาย โดยมีสองนักแสดงระดับตำนาน “เดมี มัวร์” คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมิวสิคัลหรือคอมเมดี้ จากหนัง “เดอะ ซับสแตนซ์” เป็นรางวัลแรกในชีวิตการแสดง ส่วน “โจดี ฟอสเตอร์” ได้ลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 5 จากรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากลิมิเต็ด ซีรีส์ “ทรู ดีเท็กทีฟ ไนท์ คันทรี

งานใหญ่วงการบันเทิงระดับโลกงานแรกหลังเปิดศักราชใหม่ โดยเมื่อวันที่ 6 ม.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globes) ครั้งที่ 82 ประจำปี 2568 ที่โรงแรมเบเวอร์ลีฮิลตัน เมืองเบเวอร์ลีฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยมีบุคลากรในวงการบันเทิงจากสหรัฐฯ และนานาชาติเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง และได้นิกกี เกลเซอร์ นักแสดงตลกหญิง ชาวอเมริกัน รับหน้าที่พิธีกรหญิงคนแรกของงานนี้ ชงมุกตลกเรียกเสียงหัวเราะจากผู้คนภายในงานได้อย่างลื่นไหล

สำหรับการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำในปีนี้ ที่มีทั้งผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ทางโทรทัศน์ ปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องเดอะ บรูทัลลิสต์” (The Brutalist) เรื่องราวเกี่ยวกับสถาปนิกชาวฮังการี ที่มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐฯ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า และ “แบรดี คอร์เดต” เจ้าของผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปครอง ส่วน “เอเดรียน โบรดี” นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน ดีกรีรางวัลออสการ์ ยังคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า

ขณะที่ภาพยนตร์ภาษาสเปนที่มีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัลมากถึง 10 สาขา เรื่อง “เอมิเลีย เปเรซ” (Emilia Perez) เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าพ่อค้ายาชาวเม็กซิกันที่แปลงเพศเป็นสตรี ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทมิวสิคัล หรือคอมเมดี้ รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม โดย “โซอี ซัลดานา” ยังได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ถือเป็นครั้งแรกที่สามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำไปได้ ส่วนเพลงเอล มาล (El Mal) ได้รับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

...

ส่วนตัวเต็งอย่าง “โชกุน” (Shogun) ซีรีส์ฟอร์มยักษ์อิงประวัติศาสตร์ คว้าไป 4 รางวัล ได้แก่ ซีรีส์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า ขณะที่นักแสดงชาวญี่ปุ่นอย่าง “ฮิโรยูกิ ซานาดะ” คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม พร้อมด้วย “อันนะ ซาวาอิ” คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม “ทาดะโนบุ อาซาโนะ” คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว ซีรีส์โชกุนกวาดรางวัลไพรม์ไทม์ เอมมี อวอร์ดส์ และรางวัลสาขาย่อยของเอ็มมี อวอร์ดส์ ไปอย่างล้นหลาม ขณะที่ซีรีส์ “แฮ็กส์” (Hacks) คว้ารางวัลซีรีส์ยอดเยี่ยม ประเภทมิวสิคัล หรือคอมเมดี้ และซีรีส์ชุดเดียวจบ หรือลิมิเต็ด ซีรีส์อย่าง “เบบี้ เรนเดียร์” (Baby Reindeer) ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทลิมิเต็ด ซีรีส์ ไปได้

ด้านภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่อง “วิคเค็ด” (Wicked) คว้ารางวัลในสาขาความสำเร็จด้านภาพยนตร์และบ็อกออฟฟิศ ที่เคยมีการประกาศมอบรางวัลเป็นครั้งแรกให้แก่เรื่องบาร์บี้ (Barbie) เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่รางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมตกเป็นของ “โฟลว์” (Flow) เรื่องราวของเหล่าสรรพสัตว์ที่ต้องร่วมมือกันเอาชีวิตรอดจากน้ำท่วม โดยแซง อินไซด์เอาต์ 2 (Inside Out 2) ที่เคยชนะรางวัลในสาขานี้ในภาคแรกเมื่อปี 2559

นอกจากนี้ “เดมี มัวร์” วัย 62 ปี นักแสดงชาวอเมริกัน ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมิวสิคัลหรือคอมเมดี้ จากการโชว์ฝีมือการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ ซับสแตนซ์” (The Substance) เรื่องราวเกี่ยวกับดาราหญิงที่ต้องถอยจากวงการบันเทิงเพราะไม่สวยสะพรั่งเหมือนสมัยเยาว์วัย โดยถือเป็นรางวัลแรกในฐานะนักแสดงของเธอ นับตั้งแต่อยู่ในวงการนี้มานานถึง 45 ปี โดยเดมี มัวร์ ยังกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีด้วยว่า ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับรางวัลนี้ ที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยได้รับรางวัลใดมาก่อน และสูญเสียความมั่นใจในตัวเองจากการถูกปรามาสว่าเป็นเพียงนักแสดงที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เช่นเดียวกับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า ที่ “เฟอร์นันดา ตอร์เรส” วัย 59 ปี นักแสดงชาวบราซิล ได้รางวัลจากภาพยนตร์ภาษาโปรตุเกส “ไอ’ม์ สติล เฮียร์” (I’m Still Here) เกี่ยวกับครอบครัวที่แตกแยกจากความรุนแรงในช่วงที่บราซิลอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการเมื่อปี 2514

นอกจากนี้ “เซบาสเตียน สแตน” นักแสดงชาวอเมริกัน ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทมิวสิคัลหรือคอมเมดี้ จากบทบาทนักแสดงที่มีใบหน้าผิดรูปในภาพยนตร์เรื่อง “อะ ดิฟเฟอร์เรนต์ แมน” (A Different Man) ส่วน “โจดี ฟอสเตอร์” วัย 62 ปี นักแสดงตัวแม่ชาวอเมริกันดีกรีรางวัลออสการ์ กลับมาคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากลิมิตเต็ด ซีรีส์ เรื่องทรู ดีเท็กทีฟ ไนท์ คันทรี (True Detective Night Country) นับเป็นรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 5 ของเธอ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่