ทำถึงทำจริง นักแสดงสาว "เฌอปราง อารีย์กุล" เต็มที่กับทุกบทบาทในชีวิต ถ้าได้ลงมือทำอะไรแล้ว ขอทุ่มทั้งกายและใจเกินร้อย พิสูจน์ด้วยผลงานและการยอมรับจากแฟนๆ ล่าสุด เฌอปราง ลบภาพไอดอลสาวคนสวย มารับบทท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตกับบทบาท “พนอ” บทบาทไอคอนิกแห่งความเสียวสยองระดับตำนาน จากจักรวาล “ลองของ” ภาค 1 และ 2 สู่เวอร์ชัน “พนอ” ภาพยนตร์ไสยศาสตร์สยองขวัญ ที่เป็นจุดเริ่มต้นความสยองของ “ครูพนอ” ผลงานโดยผู้กำกับมือฉมัง “ตั้ม–พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว” อำนวยการสร้างโดยไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ที่นำโดยนักแสดงมากฝีมือ เฌอปราง อารีย์กุล, แจ๊คกี้–จักริน, น้ำตาล–ชลิตา, มิ้ม–รัตนวดี, แบงค์–ณัฐวัฒน์ เข้าฉายเมื่อ 16 ม.ค. ในโรง ภาพยนตร์ ซึ่งกำลังกระแสดีโกยรายได้ต่อเนื่อง

“เฌอปราง” ไม่ได้มาเล่นๆแต่พร้อมเล่นของให้แฟนหนังเสียวสยอง!! ใครได้ดูในโรงภาพยนตร์แล้วแทบขยี้ตาดูจำไม่ได้ว่านี่ใช่ “เฌอปราง” ตัวจริงมั้ย เพราะเจ้าตัวเล่นแบบไม่ห่วงสวย ฉีกทุกภาพจำ ทุ่มลงไปทั้งจิตวิญญาณหลุดเข้าไปในตัวละคร “พนอ” เจ้าตัวเล่าถึงบทบาทสำคัญนี้ว่า “พนอ เป็นเด็กเกิดในวันปล่อยของ ทางไสยศาสตร์คือวันที่คนโละของทิ้งคือวันไม่ดี ความน่าสนใจในตัวพนอจริงๆเป็นการตีความของครูพนอในลองของใหม่ว่าทำไมเค้าถึงมีของ เป็นภาคปฐมบท ความน่าสนใจก็จะเป็นตรงนี้ แล้วเค้ากลายไปเป็นคนที่มีความโหดร้ายขนาดนั้นได้ยังไง เรื่องนี้มีหลายที่สุดในชีวิต ดิ่งที่สุด เมกโอเวอร์ที่สุด ไร้สติที่สุด เห็นตัวเองตอนเมกโอเวอร์มาแล้วยังจำไม่ได้เลย หนูโฟกัสแค่ตรงนั้นค่อนข้างมากจริงๆ มากจนตกใจกับตัวเองว่าเราสามารถทิ้งทุกอย่างแล้วอยู่ตรงนั้นขนาดนั้นได้ยังไง”

...

ถือว่าฉีกที่สุดจริงๆ “เฌอปราง” ยังจำตัวเองไม่ได้ เผยว่า “มันดูจิตมากๆ ฟีดแบ็กแฟนๆหนัง พอเค้าเห็นโหมดจิตของเรามีคำชมที่ดีว่าเราเล่นถึง อยากให้แฟนๆและทุกคนที่ชอบหนังสยองขวัญมาดูผลงานนี้ บอกเลยว่าผลงานนี้มันไม่ใช่แค่เฌอมันเป็นผลงานของทุกทีมรวมกันแล้วเค้าใส่กันสุดมาก ถ้าถามว่า “พนอ” น่าดูยังไง น่ากลัวรึเปล่า พี่ตั้ม–ผู้กำกับ บอกเลยว่าคอนเซปต์เหมือนเดิมกับ “ลองของ” ภาค 1 และ 2 คือเสียวสยองทุก 2 นาที ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความสนใจเยอะกว่าที่เราคิดมากๆ นอกจากเป็นหนังแก้แค้น เป็นหนังสยอง ตัวเนื้อเรื่อง ตัวละครแต่ละตัวจะมีเหตุผลของกันและกันของตัวมันเอง อยากให้ติดตามค่ะ”

หลายคนบอกว่า “เฌอปราง” เป็นคนทุ่มเทเหมือนตอนเรียนหรือแม้แต่ตอนเป็นไอดอลก็ไปสุด จากกัปตัน BNK 48 สู่ผู้จัดการวงปั้นน้องๆรุ่นใหม่ เจ้าตัวเผยว่า “หนูตั้งใจทำให้ดีที่สุดที่ความสามารถหนูจะมี ซึ่งบางทีมันก็ไม่ได้เก่งหรือดีมากที่สุดแต่มันก็คือสุดของเรา จริงๆตอนที่ถ่ายเรื่องพนอ ก็มีทำงานเบื้องหลังคือตำแหน่งผู้จัดการของวง BNK48 มีเด็กๆ 35 คน เป็นเหมือนคุณแม่ของน้องๆ (ยิ้ม) เป็นน้องที่เฌอออดิชันมาทั้งหมดอยู่ตั้งแต่วันแรก ประสานงานกับทีมงานเยอะแล้วก็วางแผนงานหลายๆอย่าง เสนอเองกิจกรรมใหม่ๆ แล้วก็ถือว่าโชคดีที่น้องฟังมากๆ เพราะว่าเราเทรนนิงเค้ามาเอง เค้าเก่งขึ้นมากจนหนูวางใจแล้ว

จนมาถึงตอนนี้กับเป้าหมายใหม่ที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ “เฌอปราง” เล่าว่า จากการเป็นไอดอลทำให้รู้ว่าตัวเองเป็นคนชอบจัดการ ชอบแก้ปัญหาวางแผนเห็นภาพรวม ที่จะไปเรียนต่อก็จะไปเรียนสาย MBA ค่ะ ก็จะมาต่อยอดตัวเองด้วยในการทำธุรกิจ ส่วนงานแสดงยังคงทำเป็นงานอดิเรกอยากทำไปได้เรื่อยๆ มันเป็นอาชีพที่สนุก ไม่จำเจ การที่เราได้เป็นคาแรกเตอร์ใหม่มันได้เปิดโลกเราเรื่อยๆ สิ่งที่ทำมาถึงปีนี้หนูอายุ 28 มันก็มั่นคง คือหนูก็ใช้ชีวิตได้สบายแล้วแต่ว่าเราก็ยังมีภาระที่อยากดูแลที่บ้าน อยากเติบโตไปอีก แล้วก็อยากไปเรียนต่อต่างประเทศมานานแล้ว เป็นความฝัน bucket list อันหนึ่งในชีวิต จริงๆ ตอนนี้มีอีกเส้นทางนึงคืองานพิธีกรด้วย เป็นงานพิธีกรพูดคุยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ “เดอะวิทย์ด้อม” ทางช่องแบไต๋ที่ได้ให้ความรู้คน...“สำหรับเฌอดีใจมากที่สุดในชีวิตแล้วถ้าเรื่องราวของเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ไม่ว่าในมุมไหน คนจากร้อง เต้นไม่เป็นถ้ามันพยายามจริงๆทำได้นะ หรือว่าถ้าแสดงไม่เป็นก็เรียนรู้กับมันให้เวลากับมัน ทำได้นะ ถ้าพยายามมากๆ หนูบอกเลยว่าหนูพยายามมากๆ กับทุกทักษะที่ต้องเผชิญใช้ชีวิตหรืออยู่กับวงการ จะดีใจเสมอเวลาคนบอกว่าเราเป็นแรงบันดาลใจให้เค้าในการทำอะไรบางอย่างค่ะ”

...

เครดิต ช่างภาพ : ต้น-จักริน กองดอน
เสื้อผ้า : VICKTEERUT Amethesoul

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่