มาเจอหน้าในงานเดียวกัน หลังก่อนหน้ามีข่าวว่าความสัมพันธ์ของสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา กับ เคน–ภูภูมิ กำลังสั่นคลอนเริ่มห่างเหิน ล่าสุดหนุ่ม เคน กลับจากไปเรียนต่อที่อังกฤษ 3 เดือน เริ่มรู้ใจตัวเองเดินหน้าจีบฝ่ายหญิงใหม่ มาร่วมงาน “Mono Original 2024 The Infinity of Thai Content เปิดศักราช สาดเต็มแมกซ์” ณ Stadium Mono 29 เลยต้องอัปเดต เริ่มจาก เคน ประกาศว่า“ตอนนี้ก็ต้องไปจีบน้องใหม่อีกรอบนึง เซ็ตซีโร่นิดนึงครับ”เอสเธอร์เคยบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่มีการพัฒนาไปข้างหน้า? “ใช่ จริงๆเป้าหมายของผมชัดเจนอยู่แล้ว แต่แค่การกระทำผมมันไม่ได้ชัดเจนเหมือนสิ่งที่คิดอยู่ข้างใน พอเราไปที่นู่นแล้วกลับมาก็รู้สึกว่า เราตกตะกอนกับความคิดของเราได้ว่า จริงๆแล้วสิ่งสำคัญมันคือสิ่งที่เราต้องแสดงออก ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยแสดงออก เราอาจจะเทกแคร์น้องเค้าน้อยไป”ใช้คำว่ายังไม่ได้เลิกได้มั้ย? “อาจจะยังนะครับ ไม่รู้เหมือนกัน ใช้คำว่าจีบใหม่อะ อาจจะห่างๆกันนิดนึง”ที่บอกว่าต้องเริ่มต้นใหม่ ที่ผ่านมาเราคิดว่าอะไรมันพลาดไป? “อาจจะพลาดไปโดยที่คือเราคบกันนาน เรารู้สึกว่าอยู่ด้วยกันก็โอเคแล้ว จริงๆเราอาจจะขาดความใส่ใจ ขาดความเทกแคร์ ขาดเวลาครับ ก็ต้องปรับตัวครับ ควรจะใส่ใจเทกแคร์เค้า ให้มันเหมือนตอนที่เราจีบเขาใหม่ๆ”มียื่นข้อเสนออะไรไปมั้ย? “ก็ขอจีบไปแล้วนะครับ (ยิ้ม) เค้าก็โอเคนะครับ ก็จีบใหม่ดู”มาจีบใหม่ตอนนี้คู่แข่งไม่เยอะเหรอ? “อุ้ย...ไม่น่ามีนะ (มั่นใจ?) ก็ค่อนข้างมั่นใจนะ”สรุปคือยังไม่เลิก? “ไม่อยากครับ”มีให้น้องชายเอสเธอร์ช่วยมั้ยเพราะก็สนิทกัน? “จริงๆทุกคนก็เป็นกำลังใจให้ผมนะครับ ก็รู้สึกว่าโอเค”จริงๆห่างกันไปกี่เดือนที่ไม่ได้คุยแบบมุ้งมิ้ง?“คุยกันตลอด เราก็พยายามหวานใส่เค้าตลอดนะครับ หลังๆ”ก่อนหน้านี้เครียดมั้ย? “ก็เครียดนะ ช่วงอยู่อังกฤษก็รู้สึกเครียดเหมือนกัน”ยังรักเค้าเหมือนเดิม? “ใช่ครับ รักเค้าเหมือนเดิม ถึงตอนนี้คู่เราก็ปีที่ 7 ครับ”ต่อมาเจอเอสเธอร์ เลยรีบถามว่าจะทำยังไงเคนบอกว่าตอนนี้เริ่มจีบใหม่แล้ว? “เหรอคะ ไม่รู้จะตอบอะไรเลยค่ะ (หัวเราะ)”ความสัมพันธ์ตอนนี้เหมือนเริ่มนับ 1 ใหม่มั้ย?“ก็คือต้องถอยกลับมาค่ะ คืออย่างที่บอกไปครั้งที่แล้วว่า ระหว่างหนูกับพี่ เราไม่ได้รู้สึกเหมือนคู่รัก เรารู้สึกเหมือนเค้าเป็นคนในครอบครัวที่เราเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกัน และกัน แต่ความรู้สึกที่เราคบกันแบบคนรักกัน ณ ตอนนั้นมันไม่มีแล้ว มันไม่เหลือแล้ว เราก็บอกเค้าไปอย่างนี้ตรงๆด้วยค่ะ”เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากเลิก ไม่อยากเป็นพี่น้อง อยากเป็นคนรัก? “(หัวเราะ) คือต้องบอกว่าคู่ของหนูมันมีปัญหาที่ใหญ่และหนักในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในระหว่างที่คบกัน แต่เลือกที่จะไม่พูดเพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องในบ้าน เราอยากที่จะเก็บไว้ แต่มันยาวจนถึงตอนนี้ ก็รู้สึกว่าถ้าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆมันก็ไม่ดี ไม่ดีต่อตัวเราเองด้วย ไม่ดีต่อตัวพี่เค้าด้วย เราก็เลยเลือกที่จะคุยกับเค้าตรงๆ”5 ปีที่ผ่านมาก็มีปัญหากัน พยายามปรับตัวแล้ว? “ใช่ค่ะ พยายามปรับตัว พยายามทำให้มันดีขึ้นค่ะ แต่มันก็กลับมาอยู่ในจุดเดิมที่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้มีการพัฒนาขึ้นค่ะ”เค้าเปลี่ยนแปลงตัวเองมั้ยในสิ่งที่เราบอกหรือขอ? “คือไม่ได้ตกลงกันแบบ 1 2 3 4 5 แต่มันผิดที่คู่ของหนูคือรู้สึกว่าเอ๊ะ ทำไมความสัม พันธ์ของเรามันเป็นแบบนี้ ทำไมมันยิ่งแย่ลง ไม่ดีขึ้นค่ะ เราก็ต้องกลับมาคิดว่าเราควรจะแก้ไขยังไง”เรื่องเวลาเกี่ยวมั้ยที่เราห่างกัน? “หมายถึงตอนที่พี่เค้าไปอยู่ต่างประเทศเหรอคะ ก็ไม่เกี่ยวนะคะ แต่หนูแค่มองตรงที่ว่าด้วยเราอายุเยอะทั้งคู่แล้ว ถ้ามันคบกันแล้วไม่ได้ทำให้ทั้งคู่มีความสุข เราก็ต้องหันกลับมามองว่าเราจะเอายังไงต่อกับชีวิต ถ้าเราคบกันไปอย่างนี้เรื่อยๆมันจะเสียเวลาเราทั้งคู่ด้วยค่ะ”เค้าบอกว่าเค้าเดินหน้าง้อเราจะให้โอกาสมั้ย? “คือหนูก็ไม่ได้ปิดนะคะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง ณ ตอนนี้ความสัมพันธ์ไม่ได้รู้สึกเหมือนคนรักกัน ก็ต้องเริ่มสร้างใหม่แหละของแบบนี้ แต่อยู่ที่ว่าเราก็ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าเราจะพัฒนาไปได้ดีขึ้นกว่าเดิมมั้ย หรือมันไม่รู้จะไปในทิศทางไหน”เปิดโอกาสให้เค้าและตัวเองด้วย?“ถูกต้องค่ะ หนูรู้สึกว่าเราไม่ได้ปิดเค้าแต่เราก็ไม่ปิดตัวเองด้วยค่ะ”การกลับมาครั้งนี้เราเปิดโอกาสให้เค้า มันต้องมีข้อตกลงอะไรมั้ย?“ไม่ได้ตกลงอะไรค่ะ เราแค่บอกในจุดที่เรารู้สึกว่าเราเห็นปัญหาของตัวเราด้วย เค้าเห็นปัญหาในตัวเราด้วย เราบอกในจุดที่ไม่โอเคของกันและกัน เรียบร้อยเคลียร์แล้ว อยู่ที่ว่าจะไปในทิศทางไหนค่ะ”ยังไม่มีใครเข้ามาเพราะยังไม่ชัดเจนด้วยหรือเปล่า คนไม่รู้ เลยไม่กล้าเข้ามา แบบนี้เคนเหนื่อยแล้วนะ? “(หัวเราะ) ต้องรู้ซะบ้าง”เรียกว่าเค้ามีคู่แข่งแล้วตอนนี้? “ถูกต้องค่ะ”เห็นว่าครอบครัวก็สนิทกับเคนมาก เค้าช่วยเป็นกาวใจมั้ย?“ไม่ เค้ารู้ปัญหาทุกอย่าง แต่เค้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน ก็ได้แต่คอยให้คำปรึกษาอยู่ห่างๆ ส่วนเรื่องการตัดสินใจว่าเราจะเอายังไงต่อ ก็เป็นส่วนของเราและพี่เค้าค่ะ”คิดว่าอาถรรพณ์ 7 ปีเกี่ยวมั้ย? “หนูรู้สึกว่า 7 ปีมันเป็นช่วงระยะเวลาที่เราเรียนรู้ใครสักคนนึง รู้ถึงสันดานที่แท้จริง หมายถึงว่ารู้กันและกันมากกว่านิสัย คือตัวตนที่แท้จริง ถามว่าเชื่ออาถรรพณ์มั้ย ไม่เชื่อค่ะ”แต่เคนบอกว่าจะฝ่าอาถรรพณ์ให้ได้? “ต้องลองดูค่ะ (หัวเราะ)”ทำให้เรามีกำแพงสูงกว่าเดิมมั้ยเพราะเรารู้มากกว่านิสัย? “กำแพงไม่สูงค่ะ แค่รู้สึกว่าต้องคิดให้ดีแล้วก็ต้องเอาใจใส่ในเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้น ไม่ใช่คบกันแล้วปล่อยปละละเลย มันเป็นสิ่งนึงที่เราควรจะต้องเอาใจใส่ดูแลรักษาให้ดีค่ะ”ณ ตอนนี้ยืนยันอยากมีแฟนมั้ย? “ถ้า ณ ตอนนี้รู้สึกว่าขอพักก่อน หมายถึงว่าไม่รีบตัดสินใจ ทำอะไรด้วยสติ ไม่ใช้อารมณ์ในการดำเนินชีวิตค่ะ ถามว่าเหงามั้ย ไม่เหงาค่ะ”ตอนนี้สถานะเป็นสาวโสด?“(หัวเราะ) เรียกว่ารักษาใจอยู่แล้วกัน (ยิ้ม) ระยะทำใจค่ะ”ยังเห็นภาพเค้าในอนาคตมั้ย? “ณ ตอนนี้เหรอคะ ไม่รู้เลยอะ มันมัวๆ ลางๆ แต่อย่างที่บอกคือด้วยการที่เราทำอะไรด้วยกันเยอะ อย่างงานที่ทำด้วยกันมันก็ต้องเจอกันบ่อยๆอยู่แล้ว เราก็เห็นเค้าเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งเราอยากให้เค้าได้แต่สิ่งดีๆ หวังดีกับเค้าเสมอ”เค้าง้อเราเยอะมั้ย? “คือเรียกว่าตั้งแต่เค้ากลับมาเพิ่งได้คุยกันจริงๆจังๆเมื่อไม่กี่วันนี้เองค่ะ”เค้ายังฝากบอกสื่อว่าช่วยด้วย? “เค้าน่าจะเห็นตั้งแต่สัมภาษณ์ที่แล้ว (หัวเราะ)”แต่เราเอาจริงแน่นอน? “ใช่ค่ะ (หัวเราะ)”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่