สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อ 12 มิ.ย. โดยอ้างถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังมาเลเซียเมื่อ 11 มิ.ย. ว่า สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน โมฮัมหมัด ที่ 5 องค์พระประมุขมาเลเซีย ทรงสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรี ที่จะลดหนี้มหาศาลของประเทศ ด้วยการขอลดเงินเดือนของพระองค์ที่รัฐบาลจ่ายให้ลงถึง 10% จนกว่าจะพ้นตำแหน่งสมเด็จพระราชาธิบดีในปี 2564 แต่ไม่ระบุว่าพระองค์ทรงได้รับเงินเดือนจากรัฐบาลเท่าใดข่าวแจ้งว่า สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน โมฮัมหมัด ที่ 5 ทรงรู้สึกสะเทือนพระทัย เมื่อเห็นประชาชนชาวมาเลเซียช่วยกันควักเงินส่วนตัวบริจาคเข้ากองทุนรัฐบาล ที่ตั้งขึ้นเพื่อลดหนี้สาธารณะของประเทศ หลังรัฐบาลของ ดร.มหาธีร์ เผยว่า รัฐบาลชุดที่แล้วภายใต้การนำของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ซึ่งอื้อฉาวเรื่องทุจริตคอร์รัปชันและบริหารประเทศผิดพลาด ได้สร้างหนี้ไว้มหาศาลกว่า 1 ล้านล้านริงกิต (กว่า 8 ล้านล้านบาท) และถึงขณะนี้ ประชาชนร่วมลงขันช่วยลดหนี้แล้วกว่า 56 ล้านริงกิตแนวร่วมฝ่ายค้านนำโดย ดร.มหาธีร์ ซึ่งผนึกกำลังกับนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เอาชนะการเลือกตั้งทั่วไปอย่างพลิกความคาดหมายเมื่อ 9 พ.ค. ทำให้พันธมิตรแนวร่วมแห่งชาติ (บาริซาน เนชั่นแนล) ซึ่งมีพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เป็นแกนนำของนายนาจิบสูญเสียอำนาจหลังปกครองประเทศมาถึง 61 ปี รัฐบาลนาจิบยังถูกกล่าวหายักยอก ฟอกเงินกองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติ “1 เอ็มดีบี” ถึง 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกว่า 700 ล้านดอลลาร์ฯ ถูกโอนเข้าบัญชีนาจิบ แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา และอัยการสูงสุดเคลียร์ให้ว่าเขาไม่ผิด แต่รัฐบาลใหม่เดินหน้าสอบสวนคดี 1 เอ็มดีบีอย่างเข้มข้น ซึ่งอาจทำให้นาจิบกับครอบครัวและพวกพ้องบริวารต้องติดคุกระนาว ขณะที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำมาเลเซียแจ้งว่า จะแปลงสินทรัพย์ที่ยึดได้ในการสอบสวนคดี 1 เอ็มดีบีเป็นเงินตราและส่งคืนให้รัฐบาลมาเลเซียสุลต่าน โมฮัมหมัด ที่ 5 ซึ่งยังหนุ่ม มีพระชนมายุ 48 พรรษา ทรงได้ชื่อว่าชื่นชอบรถขับเคลื่อน 4 ล้อและรถความเร็วสูงอื่นๆ ทรงรับตำแหน่งสมเด็จพระราชาธิบดีตั้งแต่ปี 2559 ทั้งนี้ มาเลเซียซึ่งชาวมุสลิมเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ มีสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และสุลต่านของ 9 รัฐ จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนรับตำแหน่งสมเด็จพระราชาธิบดีทุก 5 ปี.