“เวย์ ไทยเทเนี่ยม” โร่เข้าพบตำรวจ ปอศ. รับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ตามหมายเรียก ร่วมกับภรรยา “นานา ไรบีนา” ฉ้อโกงทรัพย์นักธุรกิจดัง ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนมูลค่าความเสียหาย 14 ล้านบาท เตรียมเรียกดาราสาวมาสอบปากคำเพิ่มเติมเดือน ม.ค.69 ทนายความเผย ลูกความไม่ทราบ “นานา” ติดต่อ กับผู้เสียหายให้โอนเงินเข้ามาในบัญชี โดยไม่รู้ที่มาและเจ้าของเงิน รวมทั้งไม่เคยชักชวนให้ใครมาร่วมลงทุน ยืนยัน “นานา” ต้องใช้หนี้ผู้เสียหาย ด้าน “เวย์” โอดครวญ เครียดกระแสข่าวแรงจนกระทบต่องานถูกถอนโฆษณาหลายเจ้า ยันมีสถานะเป็นสามีภรรยากับ “นานา”กรณีตำรวจ บก.ปอศ. จับกุม น.ส.ไรบีนา อินทชัย หรือ “นานา” อายุ 45 ปี อดีตดีเจและดาราชื่อดัง พี่ใหญ่แก๊งนางฟ้า ในคดีหลอกลวงนักธุรกิจและเพื่อนสนิทร่วมวงการบันเทิงลงทุนทิพย์ มีผู้เสียหายแจ้งความ 17 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 195 ล้านบาท ทนายความใช้วงเงิน 1 ล้านบาท ยื่นประกันตัวผู้ต้องหาศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวต่อมามีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความดำเนินคดี นายปริญญา อินทชัย หรือเวย์ ไทยเทเน่ียม สามีของนานา หลังถูกหลอกร่วมลงทุน พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.แจ้งให้นักร้องดังแนวฮิปฮอปมารับทราบข้อหาคดีฉ้อโกงทรัพย์ภายใน 7 วัน รวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดร่วมกับ “นานา ไรบีนา” หลอกลวงเงินผู้เสียหายกลุ่มแรกด้วยหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วความคืบหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. นายปริญญา อินทชัย หรือเวย์ ไทยเทเนี่ยม พร้อมนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.4.บก.ปอศ. ตามหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกับ น.ส.ไรบีนา ในคดีฉ้อโกงทรัพย์มูลค่า 14 ล้านบาท หลังมีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี เวย์ ไทยเทเนี่ยม แอบเข้าด้านหลังอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขึ้นไปที่ บก.ปอศ. ชั้น 9 พบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดย น.ส.ไรบีนาไม่ได้มาด้วยต่อมา เวลา 13.00 น. นายสายหยุดเปิดเผยว่า พาลูกความมารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ กรณีนักธุรกิจชื่อดังโอนเงินเข้าบัญชีของนายปริญญา รวม 10 ครั้ง เป็นเงิน 14 ล้านบาท ตั้งแต่เดือน มี.ค.65 ทำให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีเพราะเข้าใจว่าร่วมกับ “นานา” ฉ้อโกง ข้อเท็จจริงนายปริญญาไม่ทราบว่าภรรยาติดต่อกับผู้เสียหายให้โอนเงินมาในบัญชีแต่อย่างใด ทราบเพียงว่า “นานา” แจ้งว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชี และให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ตามที่บอก โดยไม่ทราบแหล่งที่มาของเงินว่ามาจากบุคคลใด ทั้งนี้ยังทราบว่า “นานา” บอกกับผู้เสียหายว่า ไม่ให้นำเรื่องที่ติดต่อกันไปบอกนายปริญญาอีกด้วย นายปริญญาทราบเรื่องว่ามีปัญหากับผู้เสียหาย ช่วงเดือน ต.ค.68 ก่อนจะเริ่มมีการใช้หนี้ในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.68 เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท เป็นการโอนตรงให้ผู้เสียหาย นอกจากนี้ การไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้เสียหายมีทั้ง “นานา” และนายปริญญากับนักธุรกิจหลายคน ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ยืนยันว่านายปริญญาไม่ทราบถึงการลงทุนของ “นานา” และผู้เสียหาย รวมทั้งไม่เคยชักชวนให้ใครมาลงทุน หลังจากนี้จะต้องพา “นานา” มาให้ปากคำพนักงานสอบสวนอีกครั้งนายสายหยุดกล่าวต่อว่า ยอดเงิน 14 ล้านบาทที่มารับทราบข้อหา ไม่เกี่ยวข้องกับยอดเงิน 50 ล้านบาทในคดีก่อนหน้านี้ ส่วนการชดใช้เงินให้ผู้เสียหาย ขณะนี้ลูกความทั้งสองคนค่อนข้างกระสับ กระส่ายเรื่องการหาเงินมาชดใช้ เนื่องจากข่าวที่เกิดขึ้นทำให้กระทบต่องานของทั้งคู่ ถูกยกเลิกงาน สปอนเซอร์ถอนตัวจากคอนเสิร์ต โดนโจมตีทำให้การขายหุ้นร้านตัดผมจากเดิมที่จะขายได้ 300 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 180 ล้านบาท รวมทั้งกำลังสอบถามเรื่องของบ้านที่กำลังขายว่าติดจำนองหรือไม่ เท่าที่ดูสินทรัพย์ที่มียังไม่แน่ใจเรื่องแผนการชำระหนี้ ยอดบัญชีความเสียหายที่ “นานา” ต้องชดใช้ทุกคดีขณะนี้รวม 152 ล้านบาท แต่จะมีเพิ่มมากกว่านี้หรือไม่ต้องดูอีกที ยืนยันว่า “นานา” จะต้องชดใช้หนี้ดังกล่าวด้านนายปริญญา หรือเวย์ ไทยเทเน่ียม ให้สัมภาษณ์หลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า ชี้แจงรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว กรณีเพื่อนสนิทนายจำรัส ทัศนละวาด หรือเดย์ ไทยเทเนี่ยม มีการยืมเงินกันจริง 2 ล้านบาทเมื่อเร็วๆนี้ เป็นการทำข้อตกลงระหว่างตนกับเดย์ เป็นสัญญาใจไม่ได้บอกใคร ในฐานะเพื่อนสนิทที่ร่วมงานกันมา 25 ปี ส่วนที่เดย์ออกมาพูดว่า ยืมเงิน 8 หลักตนไม่ทราบ ยืนยันยืมแค่ 2 ล้านบาท ตั้งแต่เกิดเรื่องพยายามคุยกับเขามาโดยตลอด ส่วนเรื่องการคืนเงินในข้อตกลง ถ้าเขาต้องการจะมาบอกแต่ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ จนกระทั่งมาเห็นคลิปพี่เดย์พูดผ่านโซเชียลยอมรับว่าตกใจ หลังเกิดเรื่องส่งผลกระทบกับงาน โดยเฉพาะคอนเสิร์ตมีสปอนเซอร์หลายเจ้าถอนตัวรวมทั้งศิลปิน ส่วนจะจัดคอนเสิร์ตอยู่หรือไม่ต้องขอดูก่อน ส่วนการใช้หนี้ขอพูดคุยกับทีมทนายก่อน ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เครียดเพราะกระแสข่าวแรง รวมทั้งเป็นห่วงลูกแต่ได้อธิบายประคับประคองกันไป ยืนยันว่ายังมีสถานะสามีภรรยากับ “นานา”ขณะที่ พ.ต.อ.จำนาญกล่าวว่า พนักงานสอบสวนเรียกนายปริญญามารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันกับ น.ส.ไรบีนา ฉ้อโกงเงิน 14 ล้านบาท เบื้องต้นนายปริญญา ให้การว่าไม่ได้เป็นคนชักชวนลงทุนแต่อย่างใด พร้อมทั้งอ้างว่าไม่รู้ว่า น.ส.ไรบีนาเป็นคนจัดการเรื่องนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องนัด น.ส.ไรบีนา สอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ช่วงกลางเดือนหน้า เนื่องจาก น.ส.ไรบีนาแจ้งว่าต้องจัดเตรียมเอกสาร สลิปการโอนเงินทั้งหมดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนยอดความเสียหายขณะนี้อยู่ที่ 152 ล้านบาท ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่