แนะนำ 10 น้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี 2024 กลิ่นยอดนิยม หอมสดชื่น ติดทนนาน

การเลือกใช้น้ำหอมเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความมั่นใจในแต่ละวัน ไม่ว่าจะไปทำงาน ประชุม หรือออกเดต กลิ่นน้ำหอมก็ช่วยให้ทุกคนน่าหลงใหลและโดดเด่นออกมาเสมอ

หนุ่มๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นใหม่ แต่ยังไม่มีไอเดีย สามารถติดตามได้ที่บทความนี้ เพราะไทยรัฐช็อปปิ้งคัดสรร น้ำหอมผู้ชาย 10 รุ่นน่าใช้มาให้แล้ว มีทั้งแบรนด์ดังอย่าง Dior, Versace, YSL, Calvin Klein และอื่นๆ

วิธีเลือกน้ำหอมผู้ชาย Parfum, EDP, EDT และ EDC เลือกแบบไหนถึงติดทนนาน

การเลือกน้ำหอมสามารถเลือกได้ตามความเข้มข้นของหัวน้ำหอม โดยเรียงจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด คือ Parfum, Eau de Parfum (EDP), Eau de Toilette (EDT) และ Eau de Cologne (EDC)

• Parfum ความเข้มข้นระดับ Parfum นิยมผสมหัวน้ำหอมลงไปที่ประมาณ 15-40% เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูง ติดทนยาวนาน และมีกลิ่นหอมที่ฟุ้งกระจายได้ดี เหมาะกับการพ่นไปงานกลางคืนหรือไปเที่ยวกลางคืนได้ แต่มักมีราคาค่อนข้างสูง ปริมาณน้อย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
• Eau de Parfum (EDP) ความเข้มข้นของน้ำหอมในระดับนี้ มีหัวน้ำหอมที่ราว 10-20% เป็นระดับความเข้มข้นที่นิยมใช้งานกัน เพราะมีกลิ่นหอมที่กำลังดี ติดทนได้นาน 5 ชั่วโมง และยังเหมาะเป็นน้ำหอมที่ใช้ในตอนกลางคืน แต่เมื่อโดนความร้อนกลิ่นจะระเหยได้ไว และหากฉีดในปริมาณที่มากอาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกฉุนได้
• Eau de Toilette (EDT) อีกหนึ่งระดับความเข้มข้นที่นิยมไม่แพ้กับ EDP ในระดับนี้มักมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 4-10% เหมาะกับเป็นน้ำหอมที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ฉีดไปเรียน ไปทำงานได้ มีข้อดีคือกลิ่นไม่ฉุนเกินไป และราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับตัวอื่น
• Eau de Cologne (EDC) กลิ่นน้ำหอมที่อ่อนที่สุด มีส่วนผสมจากหัวน้ำหอมเพียง 2-3% เท่านั้น มีกลิ่นชัด ราคาถูก แต่กลิ่นติดทนเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ

การเลือกระดับความเข้มข้นของน้ำหอมให้เหมาะกับแต่ละโอกาส นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับหนุ่มๆ แล้ว อาจต้องคำนึงถึงการเลือกกลิ่นอีกด้วย เพราะการเลือกกลิ่นของน้ำหอมให้เข้ากับกิจกรรมต่างๆ จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ได้มากยิ่งขึ้น

แนะนำ 10 น้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี 2024 กลิ่นน่าใช้ หอมสดชื่น ติดทนตลอดวัน

1. น้ำหอมผู้ชาย Dior รุ่น Sauvage EDT

น้ำหอมผู้ชาย Dior รุ่น Sauvage น้ำหอมกลิ่นคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เป็นกลิ่นหอมสดชื่น ที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ประกอบไปด้วยกลิ่น Top Notes จาก Bergamot, Sichuan Pepper ตามมาด้วยกลิ่นอ่อนๆ จาก Lavender และ Vanilla เหมาะกับไลฟ์สไตล์กลางคืน ทั้งไปเที่ยวและไปออกงาน

ราคา 3,490 บาท 
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

2. น้ำหอมผู้ชาย YSL รุ่น Y EDP

ถัดมากับ YSL รุ่น Y น้ำหอมผู้ชายกลิ่นที่ชวนค้นหา โดดเด่นด้วยความหอมสดชื่นของเหล่าผลไม้อย่าง Apple Accord และ Bergamot Essence ตัดเข้ากับความหอมลุ่มลึกจากเครื่องเทศและกลิ่นอโรมาต่างๆ เช่น Aldehyde, Geranium, Sage, Lavender และ Tonka Bean ซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่ผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว 

ราคา 3,520-4,790 บาท 
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

3. น้ำหอมผู้ชาย CALVIN KLEIN รุ่น CK Be EDT

น้ำหอมผู้ชายรุ่น CK Be จาก CALVIN KLEIN น้ำหอมขวดดำสุดคลาสสิก ที่เชื่อว่าผู้ชายหลายๆ คนต้องเคยใช้ เป็นกลิ่นหอมที่มีความสดชื่น สปอร์ต สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เปิดกลิ่นหอมด้วย Top Notes จาก Bergamot, Mandarin, Lavender และ Peppermint ตามมาด้วย Middle Notes แนวฟลอรัลกับ Jasmine, Orchid, Magnolia ปิดท้ายด้วย Cedarwood, Amber, Musk และ Vanilla ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล สามารถใช้เป็นน้ำหอมประจำวันได้

ราคา 3,328 บาท ขนาด 200 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

4. น้ำหอมผู้ชาย Davidoff รุ่น Cool Water Men EDT

น้ำหอมแนวสดชื่นๆ สปอร์ต อีกหนึ่งรุ่นยอดฮิต คือ Davidoff รุ่น Cool Water Men น้ำหอมผู้ชายที่สามารถฉีดได้ทุกวัน ประกอบไปด้วยกลิ่นแนวฟลอรัล-ฟรุตตี้ ให้ความหอมจาก Top Notes ด้วย Sea Water, Mint, Green Notes และ Lavender ตามด้วย Middle Notes อย่าง Sandalwood, Jasmine, Neroli, Geranium และปิดท้ายด้วย Base Notes ที่ให้ความละมุน เท่ๆ เช่น Musk, Oakmoss, Cedarwood, Tobacco และ Amber สามารถฉีดเป็นน้ำหอมระหว่างวัน ไปทำงาน ไปเรียนได้

ราคา 2,880 บาท ขนาด 125 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

5. น้ำหอมผู้ชาย VERSACE รุ่น Eros Flame EDP

VERSACE รุ่น Eros Flame น้ำหอมผู้ชายที่ฉีดพ่นแล้วช่วยเพิ่มเสน่ห์ ความเซ็กซี่ และความน่าหลงใหล เป็นกลิ่นหอมสไตล์ฟลอรัลที่นุ่มลึก ประกอบด้วยกลิ่น Top Notes ที่ให้ความสดชื่นอย่าง Lemon, Mandarin Orange, Black Pepper, Rosemary ตัดเข้ากับกลิ่นหอมละมุนจาก Middle Notes เช่น Rose, Geranium และ Pepper ก่อนจะปิดท้ายด้วย Base Notes ที่เพิ่มความหวานนุ่มอย่าง Tonka Bean, Vanilla, Sandalwood และ Oakmoss กลิ่นมีความติดทนยาวนานและกระจายตัวได้ดี 

ราคา 3,525 บาท ขนาด 100 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

6. น้ำหอมผู้ชาย Jimmy Choo รุ่น Man EDT

น้ำหอมผู้ชาย Jimmy Choo รุ่น Man น้ำหอมกลิ่นคลาสสิกที่เรียบง่าย ออกแบบจากภาพของผู้ชายที่ฉลาด สดชื่น น่าค้นหา โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมจากเหล่าดอกไม้ ผลไม้ และเครื่องเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Top Notes อย่าง Lavender และ Mandarin ตามด้วยกลิ่น Middle Notes จาก Pink Pepper, Geranium Pineapple Leaf ปิดท้ายด้วยความหอมเฉพาะตัวอย่าง Patchouli, Suede และ Amber เป็นน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ใช้ได้ง่าย เข้าได้กับทุกโอกาส

ราคา 3,010 บาท ขนาด 100 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

7. น้ำหอมผู้ชาย Prada L'Homme รุ่น L'Eau EDT

Prada L'Homme รุ่น L'Eau EDT น้ำหอมผู้ชายกลิ่นคลาสสิกรุ่นแรกจาก Prada รังสรรค์ขึ้นจากส่วนผสมยอดนิยมของแบรนด์อย่าง Iris และ Amber ทำให้ได้น้ำหอมที่มีความหอมละมุน ให้ความรู้อบอุ่นและเย้ายวนใจ ผสานเข้ากับ Neroli กลิ่นหอมที่ให้ความสดชื่นปิดท้ายความหอมด้วย Base Note จาก Geranium, และ Patchouli ที่ช่วยเพิ่มมิติของกลิ่นให้ดูล้ำลึกและน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

ราคา 3,780 บาท ขนาด 100 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

8. น้ำหอมผู้ชาย Salvatore Ferragamo รุ่น Bright Leather Men EDT

น้ำหอมผู้ชาย Salvatore Ferragamo จากแฟชั่นเฮาส์อย่าง Ferragamo รุ่น Bright Leather Men EDT เป็นน้ำหอมที่สะท้อนถึงตัวตนแห่งความแข็งแกร่งและความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาโดยปราศจากอคติ โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นจาก Bergamot, Mandarin Orange และ Grapefruit ผสานเข้ากับความหอมอบอุ่นและอโรมาจากสมุนไพรอย่าง White Leather, Basil และ Rosemary ปิดท้ายด้วยความหอมละมุนจาก Cedarwood, Musk และ Patchouli

ราคา 3,080 บาท ขนาด 100 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

9. น้ำหอมผู้ชาย Paco Rabanne รุ่น Phantom EDT

น้ำหอมผู้ชาย Paco Rabanne รุ่น Phantom น้ำหอมที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย AI มาในแพ็กเกจสุดล้ำรูปทรงหุ่นยนต์ ด้านบนสามารถใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC ในการแตะเพื่อสแกนดูข้อมูลได้ ให้ความหอมแนวฟลอรัล-ฟรุตตี้ เปิด Top Notes ด้วยกลิ่นหอมจาก Lavender, Lemon Zest และ Amalfi Lemon ตามมาด้วยกลิ่นที่ชวนหลงใหลอย่าง Apple, Smoke, Patchouli ผสมเข้ากับ Base Notes ที่เพิ่มความละมุน เช่น Vanilla และ Vetiver มีความฟุ้งกระจายดี ไม่ฉุนเกินไป 

ราคา 3,290 บาท ขนาด 100 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

10. น้ำหอมผู้ชาย COACH รุ่น Man Blue EDT

น้ำหอมผู้ชาย COACH รุ่น Man Blue น้ำหอมที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากการเดินทาง มีกลิ่นที่ให้ความหอมสดชื่นและช่วยปลุกพลังให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เริ่มต้นด้วยกลิ่นหอมของ Top Notes อย่าง Lime, Absinthe Oil ผสมเข้ากับความอบอุ่นจาก Black Pepper, Amber และ Cedarweood มาในขวดสีน้ำเงินไล่เฉด ดูน่าซื้อ น่าสะสม

ราคา 4,600 บาท ขนาด 100 มล.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Shopee / Lazada

เคล็ด(ไม่)ลับ! รวม 6 วิธีฉีดน้ำหอมผู้ชายอย่างไร ให้ติดทน กระจายกลิ่นได้ดี

นอกจากการเลือกน้ำหอมผู้ชายตามระดับความเข้มข้น จะช่วยให้น้ำหอมที่ฉีดลงบนผิวติดทนและอยู่ได้นานแล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่ช่วยให้กลิ่นของน้ำหอมติดทนนานมากยิ่งขึ้น ใครที่ชอบฉีดน้ำหอมและอยากให้น้ำหอมติดทนนาน สามารถติดตามพร้อมๆ กันได้ที่นี่

1. ฉีดน้ำหอมลงบนบริเวณจุดชีพจร

การฉีดน้ำหอมลงบนจุดชีพจรต่างๆ บนร่างกาย เช่น ข้อมือ ข้อพับ หลังใบหู ใต้คอ และใต้เข่า เป็นวิธีการฉีดน้ำหอมยอดนิยมและได้ประสิทธิภาพ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีอุณหภูมิสูงกว่าผิวหนังบริเวณอื่น มีการไหลเวียนของเลือด ทำให้เกิดการกระจายกลิ่นได้ดี และยังเป็นจุดที่ใกล้กับจมูกของคนรอบข้าง ทำให้คนที่ใกล้ชิดได้กลิ่นน้ำหอมได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลังการฉีดน้ำหอมลงบนบริเวณต่างๆ เรียบร้อย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการถูหรือสัมผัส เพราะจะทำให้โมเลกุลของน้ำหอมบนผิวแตกตัว และทำให้กลิ่นหอมระเหยได้ไวกว่าเดิม

2. ฉีดน้ำหอมลงบนผ้า

นอกจากจะฉีดน้ำหอมลงบนจุดชีพจรแล้ว การฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้ายังเป็นวิธีที่นิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีการขยับ เช่น บริเวณคอเสื้อด้านในและชายเสื้อ จะทำให้กลิ่นติดทนมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้กลิ่นมีการกระจายได้ดี

3. เตรียมผิวให้พร้อมก่อนฉีดน้ำหอม

อีกหนึ่งเคล็ดลับง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกวันอย่างการเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการฉีดน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำให้สะอาด รวมถึงการบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น เช่น การทาครีมบำรุงผิว จะทำให้น้ำหอมที่ฉีดลงบนบริเวณนั้นเกาะติดผิวได้ดี และติดได้ทนนานมากกว่าเดิม

4. ฉีดน้ำหอมในระยะที่พอดี

การฉีดน้ำหอมในระยะที่ใกล้จนเกินไป อาจทำให้ละอองน้ำหอมกระจายตัวได้ไม่ดี แนะนำให้เว้นระยะห่างในการฉีดน้ำหอมประมาณ 15-20 ซม. จะทำให้กลิ่นหอมๆ กระจายติดทั่วตัวมากยิ่งขึ้น หรืออาจใช้วิธีฉีดน้ำหอมในอากาศแล้วเดินผ่าน เพื่อช่วยให้ละอองน้ำหอมกระจายตัวติดบนเสื้อผ้า ก็ช่วยเพิ่มความติดทน และช่วยให้กลิ่นน้ำหอมกระจายตัวได้ดีอีกทางหนึ่งเช่นกัน

5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในกลิ่นเดียวกับน้ำหอม

น้ำหอมผู้ชายหลายยี่ห้อมักออกแบบกลิ่นหอมให้มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในเซต เช่น โรลออน ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมทาผิว หรือครีมทามือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ร่วมกับการฉีดน้ำหอมกลิ่นเดียวกันจะช่วยให้กลิ่นของน้ำหอมติดทนและยาวนานมากยิ่งขึ้น 

6. การเก็บรักษาน้ำหอมที่ถูกวิธี

นอกจากการเลือกเทคนิคการฉีดน้ำหอมจะช่วยให้น้ำหอมติดทนแล้ว การเก็บน้ำหอมที่ถูกวิธีและเหมาะสม ยังช่วยให้ประสิทธิภาพของน้ำหอมอยู่ได้นานมากขึ้น เช่น การหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำหอมโดนแสงแดดและความร้อน หลีกเลี่ยงความชื้น หลีกเลี่ยงการเขย่าขวดน้ำหอม และควรปิดฝาให้สนิทหลังใช้งาน

การเลือกน้ำหอมผู้ชายถือเป็นอีกทริกที่ช่วยให้หนุ่มๆ มีเสน่ห์มากขึ้น ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมขวดใหม่เป็นของขวัญให้ตัวเองหรือคนอื่นๆ สามารถเลือกได้จากลิสต์นี้เลย มีให้เลือกทั้งแบรนด์ดังอย่าง Dior, Versace, Coach ซึ่งแต่ละกลิ่นก็มีความโดดเด่นเฉพาะตัว เช่น กลิ่นหอมแนวฟลอรัล-ฟรุตตี้ หรือกลิ่นหอมแนววูดดี้ และฟูร์แชร์ 

นอกจากลิสต์น้ำหอมผู้ชายข้างบนนี้ที่ไทยรัฐช็อปปิ้งคัดเลือกมาให้ ยังมีอีกหลายรุ่นให้เลือก ใครที่ยังไม่เจอรุ่นที่ถูกใจ สามารถเข้าไปเลือกช็อปเพิ่มเติมได้ที่ Shopee และ Lazada

เช็กโค้ดส่วนลด Shopee ได้ที่นี่ 

เช็กโค้ดส่วนลด Lazada ได้ที่นี่

(ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนสั่งซื้อ)