สมาชิก

วังนางโหง

ตอนที่ 15


ดานุเสียใจมากที่ในอดีตได้กระทำผิดต่อผู้หญิงถึงสองคน คือพิกุลและคุณแข เมื่อเสร็จงานศพดาเรศ ชายหนุ่มจึงหลบไปค้นหาคำตอบชีวิตที่ท่าน้ำวัด

วังลุ่ม นั่งปล่อยอารมณ์มองสายน้ำที่ไหลเอื่อยไปเรื่อยไม่มีจุดหมาย

“สายน้ำเมื่อมันไหลไป ก็ไม่มีทางที่จะไหลย้อนกลับ”

พระยันเดินมาหยุดข้างหน้าดานุ ชายหนุ่มยกมือพนม

“ผมแค่อยากรู้ว่าตอนนี้วิญญาณพิกุล น้าดาเรศและคนอื่นๆอยู่ที่ไหนกัน”

“รู้แล้วจะได้อะไรหรือโยม”

“จริงๆแล้ว ผมยังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังติดค้างอยู่ในใจ ความผิดที่ผมไม่มีโอกาสได้ชดเชย พอรู้ความจริงก็ต้องอยู่คนละภพคนละชาติ บางครั้งเราก็เผลอทำความผิดโดยที่ไม่รู้ตัวซ้ำแล้วซ้ำอีก วนเวียนอยู่อย่างนั้นไม่จบสิ้น และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะพ้นจากทุกข์นี้ได้”

“การล้วงอดีต เอื้อมอนาคต ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ของพระศาสดา คนเรามักติดอยู่ในโทสะ โมหะจนตามืดบอด...

สิ่งสำคัญคือควรหมั่นเจริญสติทุกขณะ ให้จิตได้รู้ผิดชอบชั่วดี ถึงจะช่วยให้ตาและใจนั้นสว่างขึ้นมาได้”

ชายหนุ่มนิ่งคิดตามคำพูดพระยันครู่หนึ่งก็เข้าใจ ก้มไหว้ด้วยจิตเปี่ยมศรัทธา

เวลาเดียวกันที่บ้านธนารักษ์ฯ คุณดวงวางสายโทรศัพท์หน้าเครียด ตำรวจโทร.แจ้งว่าเตชินได้รับการประกันตัว เลยเป็นห่วงดานุ กลัวจะโดนเล่นงาน แต่ติดต่อไม่ได้ ทันใดนั้นพรรวีใช้ไม้เท้าโขยกเขยกเข้ามาถามหาดานุ

“นุล่ะคะ พอลลี่มาหานุค่ะ นุโทร.ไปฝากโน้ตทิ้งไว้ที่ออฟฟิศให้พอลลี่มาหาที่บ้านด่วน”

คุณทับรับไหว้ “ตานุไประยอง ไม่ได้บอกหนูพอลลี่เหรอ”

“พอลลี่รู้ค่ะ แต่พอได้โน้ตเลยคิดว่าเขาคงจะกลับก่อน”

ทุกคนมองหน้ากันอย่างสงสัย โดยไม่เอะใจเลยว่าเป็นแผนแก้แค้นของเตชิน

ขณะนั้น...ดานุเตรียมนั่งสมาธิหน้าพระประธานในโบสถ์วัดวังลุ่มพร้อมกับพระยัน

“จิตที่สงบนั้นจะทำให้เกิดปัญญา หากยังมีเรื่องที่ขุ่นข้องใจอยู่ ก็ให้สตินั้นหาทางสงบเสียให้ได้”

พระยันสอนด้วยจิตเปี่ยมเมตตา ดานุอมยิ้มเข้าใจคำสอน แล้วหลับตาเข้าสมาธิ...

เตชินลอบเข้าไปทำร้ายคนในบ้านธนารักษ์ฯ ใช้ปืนสั้นฟาดท้ายทอยคำที่กำลังเช็ดรถจนสลบ แล้วโปะยาสลบพันและยงจนหมดสติ จากนั้นจึงย่องเข้าไปในตัวบ้าน...ระหว่างนั้นพรรวีฉุกคิดเรื่องดานุได้ บอกคุณทับกับคุณดวง

“พอลลี่คิดดูแล้ว นุน่าจะโทร.บอกพอลลี่โดยตรงไม่น่าจะฝากโน้ตเอาไว้ อาจจะมีใครแกล้งก็ได้”

แต่สายไปแล้ว เตชินโผล่พรวดเข้ามาเล็งปืนขู่ทุกคน

“นายโต! นายมาที่นี่ได้ยังไง” พรรวีตกใจ ลุกยืนบังคุณทับกับคุณดวง

“ก็ผมเป็นคนนัดคุณพอลลี่เอาไว้ จะไม่ให้ผมมาตามนัดได้ยังไงล่ะครับ”

“นายคิดจะทำอะไร หยุดเถอะโต มันจะทำให้ทุกอย่างมันยิ่งแย่ลง” พรรวีกลัวจนตัวสั่น แต่ทำใจดีสู้เสือ

“เพราะไอ้ดานุกับแกไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้อั๊วต้องหมดอนาคตอย่างนี้ มันจะมีอะไรแย่กว่านี้อีกวะ”

“ใจเย็นๆก่อนพ่อหนุ่ม ต้องการอะไรก็คุยกันดีๆ อย่าเพิ่งวู่วาม ถ้าปืนลั่นโดนใครขึ้นมา ครั้งนี้พ่อหนุ่มคงจะไม่ได้ประกันตัวออกมาได้อีกแน่ วางปืนก่อนเถอะ”

คุณทับเกลี้ยกล่อมจนเตชินลังเล แล้วหาจังหวะเข้าแย่งปืน...แต่พลาด เตชินใช้ปืนตบอย่างแรงจน

คุณทับหัวแตกล้มทรุด พรรวีแอบกดโทรศัพท์แจ้งตำรวจแต่เตชินเห็น กระชากโทรศัพท์จากหญิงสาว แล้วใช้ปืนจี้บังคับทั้งสามคนให้เข้าไปในห้องคุณทับ

“โทร.หาไอ้ดานุให้มาที่นี่ เดี๋ยวนี้!” เตชินโยนโทรศัพท์คืนพรรวี

“ติดต่อนุไม่ได้ ไม่รู้ปิดเครื่องหรือแบตหมด”

เตชินหงุดหงิดตะคอกใส่พรรวีว่าโกหก...ขณะนั้นดานุกำลังนั่งสมาธิ รับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งรบกวนใจจนต้องลืมตา ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหงุดหงิด พระยันลืมตามอง แล้วสอนให้ดานุค่อยๆกลับสู่สมาธิอีกครั้ง

“อย่าปล่อยให้ใจกลายเป็นลิงที่คอยวิ่งไปโน่นมานี่อยู่ไม่สุข หยุดอยู่แค่ความคิดนั้น แล้วพิจารณามันให้เข้าใจ หากโยมอยากพ้นทุกข์ก็อย่าไปดูที่ไหน ดูที่ใจเราพอ ดูให้เป็นความจริง ไม่ใช่สิ่งที่น่าจะเป็น โยมถึงจะปล่อยวางจากสิ่งนั้นได้”

ooooooo

ที่ห้องนอนคุณทับ บ้านธนารักษ์ฯ เตชินเดินไปเดินมาพยายามโทร.หาดานุแต่ติดต่อไม่ได้ เลยหงุดหงิดจัดเขวี้ยงโทรศัพท์กระแทกพื้นแตกกระจาย พรรวีสะดุ้งแต่พยายามกดข่มความกลัว

“ปล่อยพวกเราไปเถอะ แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่แจ้งความ”

เตชินโมโห ตรงไปกระชากพรรวีจนล้มกองกับพื้น

“ลื้อนึกว่าอั๊วโง่เหรอ อีงูพิษ! ต่อหน้าทำเป็นดีลับหลังก็ร่วมมือกับไอ้ดานุมาแบล็กเมล์อั๊ว”

“นายเข้าใจผิดแล้ว...ฉัน...ฉัน...ไม่เคยคิดจะแบล็กเมล์อะไรนายเลยนะนายโต”

เตชินไม่สนใจ กระทืบขาของพรรวีข้างที่บาดเจ็บ หญิงสาวร้องโอดโอย

“เป็นไงล่ะเจ็บปวดใช่ไหม นี่คือความเจ็บที่ลื้อทำกับอั๊ว” เตชินสะใจ

“หยุดเถอะพ่อหนุ่มอย่าทำร้ายหนูพอลลี่อีกเลย ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ สามีฉันเจ็บหนักขนาดนี้ ถ้าไม่พาไปหาหมอจะต้องแย่แน่ๆ ฉันไหว้ล่ะ อยากได้อะไรเอาไปเลย” คุณดวงขอร้อง

“อยากได้อะไรก็เอาไปงั้นเหรอ ถ้าฉันบอกว่าอยากได้ชีวิตพวกแกล่ะ”

“นายไม่ทำหรอก ฉันรู้ว่าลูกผู้ชายอย่างนายคงไม่รังแกคนแก่กับผู้หญิงหรอก”

พรรวีพยายามเกลี้ยกล่อมเตชินอีกครั้ง เตชินนิ่งคิดพักใหญ่แล้วโพล่งถามหาตู้เซฟ คุณดวงตอบเสียงสั่นว่าบ้านนี้ไม่มีตู้เซฟ

“งั้นก็บอกมาว่าเก็บเงินกับของมีค่าไว้ที่ไหน เร็ว!”

“ในลิ้นชักนั่นจ้ะ”

คุณดวงชี้ไปที่โต๊ะหัวเตียง เตชินรีบดึงลิ้นชักไม่ออกจึงใช้ปืนยิงเปรี้ยงจนกลอนหลุด แล้วดึงออก เห็นกล่องเครื่องเพชรเครื่องทองก็เกิดความโลภ เอาปืนจ่อคุณดวงถามหาทรัพย์สินอื่นๆ

“สมบัติก็มีแค่นี้แหละ เงินสดฉันไม่ได้มีติดบ้านไว้เยอะหรอก” คุณทับตอบ

“ดี! เพราะมันจะได้ไม่ไหม้เป็นจุณไปกับพวกแก”

เตชินคำรามขู่และออกจากห้อง ล็อกประตูขังพรรวี คุณทับกับคุณดวงไว้ข้างใน แล้วไปเอาแกลลอนน้ำมันที่เตรียมไว้ราดทั่วบ้านและเฟอร์นิเจอร์จนชุ่ม จากนั้นก็หยิบไฟแช็กจุดไฟ โยนลงบนพื้นชุ่มน้ำมัน...แต่ไฟกลับดับครั้งแล้วครั้งเล่า เตชินประหลาดใจมาก

ที่ห้องพระ...ควันธูปที่จุดบูชาพระยาธนารักษ์ฯกับคุณแขรวมถึงดาเรศลอยอวลรวมกันเป็นรูปร่างคน...

ดาเรศนั่นเอง แล้ววิญญาณของเธอก็ค่อยๆลอยออกจากห้อง!

เตชินพยายามจุดไฟแช็กจนไฟลุกสว่างช่วงโชติ ทันใดนั้นหญิงสาวหน้าซีดเผือดคนหนึ่ง...ดาเรศยื่นหน้ามาเป่าไฟจนดับ หนุ่มนักกีฬาตกอับตกใจล้มนั่งกับพื้น กล่องเครื่องประดับตกกระจาย ลนลานคว้าปืนขู่

“กะ...แกเป็นใคร มายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงวะ”

“อยากได้สมบัติอีกไหม” ดาเรศถามเสียงเย็น

“สมบัติ...สมบัติอะไร”

วิญญาณดาเรศไม่ตอบแต่ขึ้นบันไดนำไปโดยไม่หันกลับ เตชินรีบเก็บเครื่องประดับที่หล่นกระจายใส่กล่อง เห็นหญิงสาวหันมากวักมือเรียก เตชินลังเลคิดครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจขึ้นบันไดตามไปจนถึงห้องพระ

“ไหนสมบัติ นี่มันห้องพระไม่ใช่เหรอ”

“พระเครื่องในห้องนี้ราคาหลายล้าน ไม่อยากได้เหรอ”

เตชินพุ่งไปกวาดพระพุทธรูปและพระเครื่องบนหิ้งใส่กระเป๋าทันที เมื่อโกยหมดเห็นหญิงสาวยืนนิ่งจ้องรูปคู่พระยาธนารักษ์ฯกับคุณแขที่แขวนบนผนัง จึงมองตาม

“นั่นรูปเธอเหรอ ไม่ใช่สิ เก่าขนาดนั้นไม่น่าใช่”

“นี่คือคุณหญิงแข เป็นต้นตระกูลธนารักษ์ราชภักดี หญิงสาวในตระกูลสูงศักดิ์ แต่กลับทำแต่เรื่องเลวๆ จนต้องตายไปเพราะความอาฆาตแค้น”

ดาเรศเหลือบมองเตชินที่ยืนฟังตาค้าง “เธอเกิดใหม่มาเป็นลูกสาวคนเล็กที่ร่างกายอ่อนแอของบ้านนี้ ใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ทรมาน และอาจจะต้องเวียนว่ายตายเกิดเพื่อชดใช้กรรมที่ทำลงไป...อีกหลายภพ...หลายชาติ หรือไม่ก็ต้องไปใช้กรรมในนรก”

“เหลวไหล! เรื่องเวรเรื่องกรรมบ้าบออะไร ชีวิตมีแค่ปัจจุบันเท่านั้นแหละ เรื่องนรกเรื่องวิญญาณอะไรนั่นเหลวไหลทั้งเพ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ดาเรศจึงเนรมิตตนให้อยู่ในสภาพคุณหญิงแข เตชินตกใจรัวปืนใส่...เสียงปืนดังไปถึงห้องคุณทับ ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกใจ

ดานุนั่งหลับตาพยายามทำสมาธิแต่จิตฟุ้งกระจายจนเหงื่อแตกซึม ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงหญิงสาวสุดที่รักกระซิบเบาๆข้างหูแจ้งข่าวว่าที่บ้านเกิดเรื่อง ดานุสะดุ้งออกจากสมาธิร้องเรียกพิกุล

“พิกุล...ผมเห็นพิกุลครับ” ดานุรีบรายงานพระยันที่ลืมตามองเพราะรับรู้ล่วงหน้าด้วยญาณวิเศษ

“เขาคงมาเตือน ไปเถอะโยม รีบกลับไปบ้านที่กรุงเทพฯเถอะ”

ooooooo

วังนางโหง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด