ตอนที่ 15
พิกุลเฮี้ยนจัด ปรากฏร่างหลอกและฆ่าบ่าวในบ้านธนารักษ์ พวกบ่าวกลัวทยอยลาออกจนเกือบหมด หลวงธนารักษ์ฯทั้งกลุ้มใจเรื่องหาศพไม่เจอ และเสียใจที่เมียรักไม่เคยปรากฏร่างให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียวจนไม่เป็นอันทำอะไร อาหลิว บ่าวเก่าแก่ได้แต่ถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณพิกุลอาละวาดอย่างนี้จะอยู่กันอย่างไรขอรับคุณหลวง พวกบ่าวหนุ่มๆสาวๆก็พากันลาออก เหลือก็แต่พวกแก่ๆ”
“เหลวไหล ถ้าเป็นพิกุลจริงทำไมอั๊วถึงไม่เคยเจอ”
หลวงธนารักษ์ฯตวาดอาหลิวด้วยความโมโห พลันได้ยินเสียงตาชดสวนขึ้นมาว่าผีตนนั้นเป็นพิกุลจริงๆ คุณหลวงเหลียวเห็นยายแสพาตาชดที่ท่าทางป่วยหนักเข้ามาก็รีบประคองให้นั่ง แล้วไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ตาชดจึงเล่าให้ฟังว่าพบผีพิกุล และขอร้องให้เลิกจองเวรตระกูลธนารักษ์ แต่พิกุลไม่ยอม
“ฉันไม่นึกเลยว่าพิกุลจะผูกพยาบาทต่อฉันเพียงนี้ นี่ฉันจะต้องชดใช้อย่างไร ถึงจะทำให้พิกุลหายแค้น”
“ตอนนี้นังพิกุลมันถูกความแค้นบังตาจนมืดบอด คุณหลวงต้องระวังตัวเอาไว้ มันไม่ปล่อยคุณหลวงไว้แน่”
ตาชดเตือน แล้วบอกลุกยืนจะรีบกลับบ้านไปปลุกเสกเครื่องรางให้หลวงธนารักษ์ฯป้องกันผีพิกุล แต่ก็กระอักเลือดล้มสิ้นใจเสียก่อน...เมื่อตาชดเสียชีวิต คุณหลวงชวนแม่ยายไปอยู่ที่บ้าน ยายแสปฏิเสธเพราะตัดสินใจบวชชีตลอดชีวิต เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ลูกสาวทั้งสองและดวงวิญญาณอื่นๆที่ตามจองเวรตระกูลธนารักษ์
ทันใดนั้นบ่าวเข้ามาแจ้งข่าวว่าเกิดเรื่องกับอาหลิว หลวงธนารักษ์ฯลายายแสกลับบ้านทันที พบบ่าวเก่าแก่นอนหน้าซีดตาเบิกโพลงเหมือนตกใจกลัวสุดขีดจนตาย
“ทำไมพิกุล...ทำไม...น้องโกรธแค้นพี่นัก น้องก็ฆ่าพี่เสียสิพิกุล หยุดก่อกรรมกับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เสียที”
หลวงธนารักษ์ฯเสียใจจนเกือบสิ้นสติที่ความสูญเสียประเดประดังไม่จบไม่สิ้น
ooooooo
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี หลวงธนารักษ์ ราชภักดีที่บัดนี้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยาธนารักษ์ราชภักดีก็ไม่เคยลืมพิกุลเมียรัก ท่านเจ้าคุณครองตัวเป็นโสดและเลี้ยงดูคุณทิวด้วยตัวเองคนเดียวมาตลอด จนลูกชายสุดที่รักอายุถึงเกณฑ์เข้าเรียน คุณทิวติดเจ้าคุณพ่อมาก จึงซึมหนักเมื่อรู้ตัวว่าต้องอยู่โรงเรียน ประจำ
“พ่อทิวโตแล้ว อย่างไรก็ต้องเข้าโรงเรียน จะได้มีความรู้ติดตัวไว้”
“ลูกไม่ไปไม่ได้เหรอ ลูกอยากอยู่กับคุณพ่อที่นี่” คุณทิวร้องไห้โฮ
“ตอนนี้พ่อเป็นถึงพระยาแล้ว งานก็มากขึ้น เมื่อเวลาพ่อไปทำงาน พ่อทิวจะอยู่อย่างไร ใครจะดูพ่อทิวล่ะ... โรงเรียนทหารมหาดเล็กดีนะ พ่อทิวจะมีเพื่อนมากมาย โตขึ้นพ่อทิวก็จะดูแลตัวเองเป็น พ่อจะได้ไม่ต้องกังวล”
“แล้วลูกจะได้เจอคุณพ่ออีกไหม”
“เจอสิ อย่างไรพ่อก็ต้องไปหาพ่อทิวอยู่แล้ว พ่อทิวน่ะสิ มีเพื่อนแล้วจะลืมพ่อเสียรึเปล่า”
คุณทิวส่ายหัวเหมือนให้คำสัญญากับเจ้าคุณพ่อ พระยาธนารักษ์ฯดึงลูกชายกอดแนบอก เขาสูญเสียแก้วตาคือพิกุลไปตลอดกาลคนนึงแล้ว ถึงวันนี้ต้องพรากจากดวงใจไปอีกคน...คิดแล้วใจหายวูบ
เมื่อไม่เหลือใคร พระยาธนารักษ์ฯเฝ้าแต่คิดถึงความหลังครั้งหวานชื่นกับพิกุลจนเหมือนคนเสียสติ เขามักไปร้องเรียกเมียรักที่ท่าน้ำ วิญญาณพิกุลรับรู้ทุกอย่าง ด้วยความรักระคนแค้นจึงเฝ้ามองเงียบๆอย่างร้าวรานใจแต่ไม่ปรากฏกายให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว
สิ่งเดียวที่ทำให้พระยาธนารักษ์ฯคลายเหงาคือการเขียนบันทึก ท่านเจ้าคุณมักใช้เวลากลางคืนถ่ายทอดความรักความคิดถึงถึงพิกุลคนเดียวเงียบๆ คืนแล้วคืนเล่า...
“ถึงแม้ความตายจะพรากน้องไปจากพี่ แต่พิกุลไม่เคยหายไปจากหัวใจ นับแต่วันแรกที่พบหน้า ตราบจนวันนี้ ขอให้วิญญาณของพิกุลจงรับรู้ว่าพี่ยังรักพิกุลเสมอ และจะรักตลอดไป จนลมหายใจสุดท้าย”
บั้นปลายชีวิต พระยาธนารักษ์ฯป่วยหนักและทรุดอย่างรวดเร็วเพราะไร้กำลังใจต่อสู้โรคร้าย แต่ท่านเจ้าคุณยังเขียนบันทึกจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย
“ผู้มีธรรมในใจ จักขอสมาภัย เพื่อปลดปล่อยนาง”
พิกุลตื่นจากภวังค์ อึ้งเมื่อรู้ความจริงว่าพระยาธนารักษ์ฯไม่เคยคิดฆ่าเธอ แต่ทิฐิและความแค้นที่สะสมมาหลายร้อยปี ทำให้พิกุลไม่กล้ายอมรับความจริงง่ายๆ กล่าวหาดานุว่าสร้างเรื่องโกหกเพราะกลัวตาย ชายหนุ่มสารภาพว่ามาที่นี่เพื่อมอบชีวิตให้หญิงที่รัก พิกุลใจอ่อนยวบแต่ข่มใจล่มเรือทันที ร่างดานุถูกน้ำวนดูดจมดิ่ง
“หากเทวดาประทานพรได้จริง ขอให้ช่วยประทานพร ให้พิกุลได้รับรู้ว่าผมรักเธอมากแค่ไหน ขอให้ความตายของผมช่วยปลดปล่อยให้วิญญาณของพิกุลนั้นได้หลุดพ้นจากพันธนาการที่ผูกไว้ด้วยความแค้น ได้ไปสู่สุคติในภพภูมิที่สูงขึ้นด้วยบุญกุศลที่ผมทำทั้งหมดด้วยเถิด”
ดานุอธิษฐานแล้วตัดสินใจทิ้งตัวสู่ก้นแม่น้ำ ไม่ว่าย ไม่ตะเกียกตะกาย...สติของชายหนุ่มกำลังหลุดลอย พิกุลรับรู้ได้ว่าพระยาธนารักษ์ฯรักเธอคนเดียวมาตลอด จึงตัดสินใจไปช่วยดานุและขออโหสิกรรม
“น้องรู้แล้วค่ะว่าคุณหลวงรู้สึกอย่างไร...และนับจากวันนี้ น้องกับคุณหลวงหมดสิ้นเวรกรรมต่อกันเพียงเท่านี้”
“พี่รักน้อง...พิกุล”
ทั้งคู่กอดกันแนบแน่นเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นพิกุลดึงร่างดานุทะลึ่งพรวดสู่ผิวน้ำทันที
ที่ท่าน้ำบ้านเรือนไทยธนารักษ์ พระยันนั่งนิ่งหลับตาทำสมาธิตั้งแต่ดานุลงเรือไปกับพิกุล จู่ๆก็ลืมตา ยิ้มแล้วบอกกับคุณทับ ดาริกาและหมอเวกที่ชะเง้อมองหาดานุว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว พลันเรือมาดของพิกุลมาจอดเทียบท่า...ดานุนอนสลบอยู่คนเดียว พระยันมองไปกลางแม่น้ำ เห็นร่างพิกุลกลางสายหมอกค่อยๆสลายหายไป
ooooooo
จิรวัฒน์พาดาเรศกับพรรวีไปส่งโรงพยาบาล อาการของพรรวีไม่น่าเป็นห่วงมาก แต่ดาเรศร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิม เมื่อตรากตรำและจมน้ำ อาการจึงทรุดหนักไม่รู้สึกตัวจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน จิตสุดท้ายก่อนวิญญาณหลุดจากร่างส่งให้หญิงสาวเห็นความชั่วร้ายของตนในอดีต...
คุณแขตกหลุมรักเหล็งตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จึงวางแผนแกล้งป่วยและสั่งจวนให้ไปรายงานพระยาศรีศักดิ์ฯกับคุณหญิงอิ่มว่าตนป่วยหนักด้วยไข้ใจ เพื่อให้เจ้าคุณพ่อบังคับเหล็งให้มาเยี่ยม... ด้วยความเต็มใจจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แผนการของคุณแขจึงสำเร็จจนได้แต่งงานกับเหล็งหรือหลวงธนารักษ์ฯในที่สุด
เมื่อหลวงธนารักษ์ฯกับคุณแขแต่งงานกันได้สักพักใหญ่ๆ เจ้าสัวหอก็ล้มป่วยเสียชีวิต คุณมะลิภรรยาตัดสินใจบวชชีไม่สึก คุณแขว้าเหว่เพราะหลวงธนารักษ์ฯบ้างานไม่ค่อยกลับบ้าน จึงมารับจวนไปอยู่เป็นเพื่อนและช่วยสอดส่องดูแลสามีไม่ให้นอกใจ
เหยื่อพิษรักแรงหึงคนแรกของคุณแขคือเกลี้ยง เธอเป็นเด็กสาวหน้าตาดีและเป็นหลานแม่ครัวบ่าวเก่าแก่ คุณหลวงจึงเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน คุณแขขัดหูขัดตาจึงสั่งจวนกับมั่นและมีบ่าวคนสนิทของพระยาศรีศักดิ์ฯให้อุ้มหายอย่างไร้ร่องรอย โดยที่หลวงธนารักษ์ฯไม่เอะใจแม้แต่น้อย
เหยื่อคนที่สองคือพิกุล...ขณะนั้นคุณแขตั้งครรภ์สามสี่เดือน จวนวิ่งแจ้นมารายงานว่าหลวงธนารักษ์ฯได้เมียใหม่จนถึงขั้นแต่งงานกันที่ระยอง คุณแขคิดแผนกำจัดพิกุลทันที แกล้งโมโหร้องไห้คร่ำครวญและทุบท้องตัวเองให้จวนสงสาร
“จะให้เกิดมาทำไม คุณพี่มีเมียใหม่เสียแล้ว ลูกคนนี้คงหมดความหมาย”
“คุณแขจะทุบตีคุณหนูทำไมเจ้าคะ ต้องไปสั่งสอนนังนั่น เราให้ไอ้มั่นไอ้มีไปข่มขู่มันเหมือนที่ทำกับอีเกลี้ยงดีไหมเจ้าคะ” จวนตามใจเจ้านายเหมือนทุกครั้ง
“แค่นั้นมันไม่พอดอก คุณพี่ถึงกับเลี้ยงดูมันเป็นเรื่องเป็นราว คงจะรักจะหลงมันมาก มันคงไม่ไปจากคุณพี่ง่ายๆ”
“คุณแขจะยอมให้คุณหลวงมีเมียอีกคนรึเจ้าคะ”
“ไม่! แต่ฉันต้องหาทางที่แยบยลไม่ให้คุณพี่แคลงใจสงสัยเราได้ ฉันต้องพึ่งจวนแล้ว”
“สั่งจวนมาเลยค่ะ จวนถวายชีวิตให้คุณหนูอยู่แล้ว”
แผนอุ้มฆ่าพิกุลที่ระยองครั้งนั้นไม่สำเร็จ คุณแขได้แต่แค้นใจ จนกระทั่งหลวงธนารักษ์ฯพาพิกุลมาแนะนำว่าเป็นเมียอีกคน คุณแขจึงแสร้งทำตัวเป็นภรรยาเอกแสนดีไม่ว่ากล่าวสามีและต้อนรับเมียน้อยอย่างเต็มใจ ลับหลังกลับสั่งจวนให้กลั่นแกล้งและเอางูเห่าไปซุกไว้ในเสื่อหวังให้ฉกพิกุลตาย แต่พิกุลรอดมาได้
คุณแขไม่ละความพยายาม กระทั่งคลอดคุณทิว จึงวางแผนขอพิกุลช่วยเป็นพี่เลี้ยง แล้วสั่งจวนให้บอกมั่นกับมีมาลักพาตัวลูกชายเพื่อโยนความผิดให้พิกุล หลวงธนารักษ์ฯหลงเชื่อว่าพิกุลผิดจริง แต่ชมไปช่วยคุณทิวส่งคืนคุณหลวง ความเลยเกือบแตก ชมจึงถูกมั่นกับมีฆ่าปิดปากและโยนความผิดให้...แผนการล้มเหลวอีกครั้ง
แผนกำจัดพิกุลรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คุณแขแอบได้ยินพระยาศรีศักดิ์ฯกับคุณหญิงอิ่มคุยกันเรื่องการบูชายัญเจ้าแม่วารีตามคำสัตย์สาบานของเจ้าสัวหอ จึงให้คุณทิวดูดน้ำต้มใบแก้วจนตัวร้อนเหมือนเป็นไข้ เพื่อต้อนและบังคับให้หลวงธนารักษ์ฯจับพิกุลบูชายัญเจ้าแม่วารีให้ลูกชายหายป่วย
ครั้งนั้นแม้หลวงธนารักษ์ฯจะไม่ยอมบูชายัญพิกุล แต่พิกุลก็เข้าใจผิดและน้อยใจจนฆ่าตัวตาย คุณแขมีความสุขได้ไม่นาน เพราะหลังจากการตายของพิกุล หลวงธนารักษ์ฯก็ขอแยกทาง คุณแขเสียใจ อาละวาดจนบ่าวไพร่ทยอยหนีไปจนหมด เหลือจวนกำลังจะหนีเป็นคนสุดท้าย แต่คุณแขจับได้ คลุ้มคลั่งพลั้งมือฆ่า
ดาเรศยังคงไม่ได้สติ แต่น้ำตาไหลพรากๆเพราะสำนึกในความผิดที่ตนได้กระทำแต่หนหลัง
ooooooo
ที่โรงพยาบาล...ดานุให้ทุกคนดูรูปคุณแขที่ถ่ายรูปคู่กับพระยาธนารักษ์ฯและเล่าเรื่องในบันทึก ทุกคนรู้ว่าชาติที่แล้วดาเรศคือคุณหญิงแข และเข้าใจถึงบ่วงกรรมที่ผูกพันดาเรศ ดานุ และพิกุลไว้ให้ตามชดใช้กันไม่รู้จบรู้สิ้น
“ยัยเรศจะไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีกจริงๆเหรอคะ” ดาราเป็นห่วงน้องสาว
“หมอบอกว่าน้าเรศไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องมานานมาก ทำให้ร่างกายอ่อนแอ” ดานุตอบ
พันอดเสริมไม่ได้ “ยาก็ไม่ได้กินค่ะ พันเห็นคุณดาเรศซุกเอาไว้ใต้หมอนเป็นถุงๆเลย”
“สรุปว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับคำสาปอะไรทั้งสิ้น แต่มันเป็นเพราะความหลงผิดของยัยเรศในชาตินี้” ดาริกาถอนใจ
“แล้วไอ้ความหลงผิดนี่แหละที่เกือบจะทำลายพวกเราทุกคน” คุณทับปลง
ทันใดนั้นดาเรศกระดิกนิ้วและค่อยๆลืมตา
ดาเรศยังตกอยู่ในภวังค์อดีต เรียกจวนด้วยเสียงแผ่วเบา ดารางงในตอนแรก แต่พอนึกถึงเรื่องในอดีตที่หลานชายเล่าก็เข้าใจ ขยับไปหาน้องสาว ดาเรศขออโหสิกรรมจากจวน ดาราอโหสิกรรมน้ำตาไหล จากนั้นดาเรศเรียกหลวงธนารักษ์ฯ ดานุขยับใกล้น้าสาวคนเล็ก
“พี่อยู่นี่...คุณแข”
“ยกโทษให้น้องด้วย...”
“พี่ยกโทษให้”
ดาเรศขออโหสิกรรมทุกคน ครอบครัวธนารักษ์ฯร้องไห้และอโหสิกรรมให้ดาเรศ จู่ๆดาเรศมองที่ปลายเตียงเรียกชื่อพิกุล ทุกคนหันไปมองไม่เห็นใคร
“ยก...โทษ...ให้ฉันด้วย”
“ฉันอโหสิค่ะ...คุณแข”
พิกุลยกมือขึ้นพนม ดาเรศยิ้มโล่งใจที่ได้ขออโหสิกรรมจากทุกคน พยายามยกมือพนม แต่ยังไม่ทันประกบกันก็หมดแรงสิ้นลม ทุกคนสะเทือนใจร้องไห้โฮ ดานุมองไปที่ปลายเตียงไม่เห็นใคร แต่มั่นใจว่าหญิงสาวที่ตนรักอยู่ตรงนั้นแน่ๆ
“ขอบใจนะ...พิกุล”
ooooooo










