สมาชิก

วังนางโหง

ตอนที่ 13


พิกุลนอนดิ้นเร่าๆด้วยความเจ็บปวดบนเรือมาด รอบคอไหม้เกรียมเพราะอำนาจพุทธคุณของสร้อยพระ ผีไอ้ทองกับผีอีแก้วมองสมน้ำหน้า แล้วเตือนสติให้เจ้านายแก้แค้นครอบครัวธนารักษ์ฯโดยไว

“ข้าเกลียดมัน ต่อแต่นี้ไอ้พวกพระยาธนารักษ์ฯมันต้องพบแต่ความวิบัติฉิบหาย ข้าจะจองล้างมันจนกว่าจะสิ้นสาแหรก...ไม่เหลือทายาทสืบทอดความชั่วช้าแม้แต่คนเดียว”

พิกุลคลั่งกรีดร้องโหยหวน สั่งให้ผีอีแก้วไปเข้าฝันดาเรศ...เช้ามืดวันนั้นดาเรศฝันว่าพิกุลมาหาครั้งสุดท้ายเพื่อล่ำลาเพราะคงไม่ได้มารักษาอีก เนื่องจากดานุคิดว่าเธอมาทำลายครอบครัวธนารักษ์ฯแล้วเดินหนี ดาเรศตามฉุดมือ พอพิกุลหันกลับกลายเป็นผีอีแก้วพุ่งเข้าบีบคอ ดาเรศตกใจร้องสุดเสียง

ที่บ้านธนารักษ์ คุณทับกับคุณดวงได้ยินเสียงกรี๊ดของดาเรศก็สะดุ้งตื่น ออกไปห้องลูกสาว เห็นพันถูกดาเรศบีบคอจนหน้าเขียว คำวิ่งตามมาช่วย

คุณทับดึงตัวดาเรศ พันที่รอดตายหวุดหวิดเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงดาเรศร้อง พอลุกไปดูก็ถูกดาเรศบีบคอ

คุณทับเขย่าปลุกลูกสาวคนเล็กจนได้สติ ดาเรศตื่นเห็นหน้าคุณทับก็โผกอด ขอให้ช่วยตนและคนใน ครอบครัวธนารักษ์ฯที่ถูกผีตามฆ่าเพราะผิดคำสาบาน ทุกคนนิ่งมองหน้ากัน พอดียงเข้ามาแจ้งว่าดานุมารอพบ

ทุกคนไปห้องรับแขก ดาเรศตำหนิดานุเพราะคิดว่าเขาลบหลู่นางโหงจนทำให้เธอฝันร้าย พรรวีกับจิรวัฒน์เลยเล่าเรื่องที่โรงเก็บเรือเมื่อคืน จะบอกว่าพิกุลเป็นผีจริงๆ แต่ยังพูดไม่จบ ดาเรศก็ตะโกนไล่ ดานุกลัวเรื่องบานปลาย ขอให้เพื่อนกับแฟนกลับไปก่อน พรรวีเป็นห่วง ยื่นสร้อยพระให้ดานุก่อนออกจากบ้าน

เมื่ออยู่กันเฉพาะคนในครอบครัว ดานุอธิบายว่าพรรวีพูดความจริง เขาเห็นพิกุลเป็นผีกับตา และค้นพบว่าคำสาปแช่งของเจ้าแม่วารีไม่มีจริง ทุกอย่างล้วนเป็นแผนร้ายที่พิกุลสร้างขึ้นเพื่อแก้แค้นตระกูลธนารักษ์ฯ และพิกุลคือนางโหง!

ดาเรศกรี๊ดไม่เชื่อ กระฟัดกระเฟียดออกจากห้อง ดานุจึงเล่าเรื่องบันทึกพระยาธนารักษ์ฯให้คุณทับกับคุณดวงฟัง

“คุณตาจำบันทึกที่ผมให้ดูได้ไหมครับ บันทึกนั่น คุณเทียดได้เขียนเล่าทุกอย่างไว้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับพิกุล...พิกุลคือภรรยาคนหนึ่งของพระยาธนารักษ์ราชภักดีที่ถูกจับบูชายัญ ถึงเธอจะหนีรอด แต่เธอก็แค้นใจจนฆ่าตัวตายกลายเป็นนางโหง ตามแก้แค้นพวกตระกูลธนารักษ์ฯมาหลายภพชาติ...”

คุณดวงไม่อยากเชื่อ ถามหลานชายว่าพิกุลเป็นผีจริงหรือ

“ครับ เธอทำให้ผมเห็นภาพอดีตที่ผ่านมา พวกเราทุกคนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพิกุลทั้งสิ้น โดยเฉพาะผมกับน้าดารา...”

ooooooo

พิกุลสั่งผีไอ้ทองไปสิงดาราที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อลวงพัวไปฆ่า ผีร้ายบังคับร่างครูสาวลุกจากเตียงออกนอกห้องแสร้งกระโดดบันได พัวสะดุ้งตื่นไม่เห็นเจ้านาย รีบตามไปห้าม แต่ถูกผลักตกบันไดคอหักตาย จากนั้นผีไอ้ทองพาร่างดาราไปซ่อนในห้องดับจิตไม่ให้ใครเห็น

เวลาเดียวกันที่บ้านธนารักษ์ฯ ดานุเล่าให้คุณทับฟังว่าชาติที่แล้วตนเกิดเป็นพระยาธนารักษ์ฯ ดาราเกิดเป็นบ่าวบ้านธนารักษ์ฯ แต่ไม่ทันบอกว่าดาเรศเป็นใคร จู่ๆโทรศัพท์บ้านดัง โรงพยาบาลโทร.แจ้งว่าดาราหายตัว ส่วนพัวตกบันไดเสียชีวิต

ทุกคนรีบไปห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พันกอดศพแม่ร้องไห้ ตำรวจแจ้งว่าจากการชันสูตรศพเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตคอหักจากการตกบันได แต่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดนี้ไม่ได้เพราะกล้องเสีย ดานุไม่พอใจ ถามหาผู้เห็นเหตุการณ์ ตำรวจบอกกำลังสอบปากคำ แต่คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม

พันโมโหโพล่งว่าพัวถูกนางโหงฆ่า ตำรวจมองหน้า ถามว่านางโหงคือใคร ยงกลัวเรื่องลุกลาม สั่งคำให้พาพันออกจากห้อง ดานุถามหาดารา หมอกับตำรวจทำหน้าหนักใจก่อนบอกว่าหาตัวไม่พบ แต่น่าจะอยู่ในโรงพยาบาล เพราะดูกล้องวงจรปิดแล้วไม่เห็นออกไปข้างนอก

ดานุออกจากห้องฉุกเฉิน เห็นพันร้องไห้ บอกเสียใจและขอโทษที่ทำให้พัวต้องตาย ยงปลอบดานุให้สบายใจว่าเป็นกรรมของพัว และตอนนี้ช่วยตำรวจหาตัวดาราดีกว่า คำรู้ว่าดาราหายไปก็ตกใจ พันแทรกขึ้น

“ฝีมือนางโหงแน่ๆ มันฆ่าแม่แล้วก็เอาตัวคุณดาราไปซ่อน”

“เป็นไปได้นะพ่อ ตอนเด็กๆฉันเคยเล่นซ่อนหากับเพื่อนแล้วหามันไม่เจอ ทั้งๆที่มันแอบอยู่หลังต้นไม้ มันบอกว่าอยู่ดีๆก็ขยับตัวไม่ได้ เรียกก็ไม่มีใครได้ยิน”

คำเห็นด้วยกับพัน แต่ยงไม่เชื่อ สั่งลูกเขยให้พาลูกสาวกลับบ้านอยู่เป็นเพื่อนเจ้านาย ส่วนตนจะไปวัดจัดการเรื่องงานศพพัว พันยังรีรอ ปักใจว่าทุกอย่างคือฝีมือนางโหง ยืนยันว่าตำรวจช่วยไม่ได้ ขอให้หาหมอผีเก่งๆมาปราบผีดีกว่า ดานุถอนใจ เครียดกับเรื่องประหลาดที่พบ พลันนึกถึงหมอเวก

ดานุไปประกันตัวหมอเวกที่สถานีตำรวจ หมอผีขอบใจชายหนุ่มที่รักษาคำพูด แต่ก็รู้ว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ดานุบอกตรงๆว่าให้ช่วยตามหาดารา

ดานุโทร.เล่าเรื่องที่โรงพยาบาลให้ดาริกาฟัง

ดาริกาตกใจแต่ยังกลับบ้านทันทีไม่ได้ เพราะปีเตอร์ลูกค้าคนสำคัญบินมาเมืองไทยกะทันหัน แต่ไม่ได้บอกลูกชายว่าเป็นเรื่องซื้อขายเรือนไทยธนารักษ์

ดาริกาวางสาย ศิตาที่จดๆจ้องๆรอ เข้ามารายงานเจ้านายตามคำพูดของพนักงานโรงแรมว่า ปีเตอร์ออกไปข้างนอกกับเลขาฯของดาริกา ม่ายสาวไฮโซงงมากเพราะเธอมีศิตาเป็นเลขาฯคนเดียวเท่านั้น จึงขอพนักงานโรงแรมดูกล้องวงจรปิด เห็นปีเตอร์พูดกับพนักงานต้อนรับแล้วเดินออกจากโรงแรมคนเดียว

ศิตายังหลอนเหตุการณ์ที่เรือนไทยธนารักษ์ กระซิบบอกเจ้านายว่าต้องเป็นฝีมือผี แต่ดาริกาไม่ปักใจเชื่อ พอพนักงานโรงแรมแจ้งว่าปีเตอร์ไประยอง จึงสั่งเลขาฯให้ขับรถตามไป ศิตากลัวมากไม่กล้ากลับไปที่นั่นอีก ขอลาออกทันทีแล้วเดินหนีโดยไม่ฟังคำทัดทานของดาริกา

ooooooo

ที่โรงพยาบาล...ห้องพักของดาราเป็นเขตหวงห้ามเพราะตำรวจต้องเก็บหลักฐาน ดานุเลยวางแผนให้หมอเวกปลอมเป็นช่างซ่อมแอร์ หลอกตำรวจแอบเข้าไปทำพิธีค้นหาดารา

หมอผีหาเส้นผมของครูสาวหยิบใส่อ่างน้ำ บริกรรมคาถาแล้วจุดเทียนจุ่มลงไป ปรากฏภาพดารานอนน้ำตาไหลอยู่ในห้องมืด...แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน

ดานุคุยถ่วงเวลาตำรวจสองนายหน้าห้องพักดาราให้หมอเวกทำพิธีสำเร็จ แต่ตำรวจนายหนึ่งดันนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง รีบเปิดประตูเข้าไปโดยดานุไม่ทันห้าม หมอเวกได้ยินเสียงประตู รีบเก็บของและแอบหลังประตูทันหวุดหวิด

นายตำรวจเจอโทรศัพท์ที่ลืมไว้ แต่ตำรวจอีกนายเห็นรอยน้ำตาเทียนที่หมอเวกจุดทำพิธีบนพื้นห้อง

ดานุกลัวแผนแตก แต่เหลือบเห็นหมอเวกหลบหลังประตูก็ใจชื้น รีบหลอกตำรวจว่าเห็นเงาคนที่ระเบียง หมอผีฉวยจังหวะนั้นย่องออกประตู แต่อ่างน้ำหล่นจากเป้แตกเสียงดัง หมอผีตกใจวิ่งหนี ตำรวจวิ่งตาม ดานุช่วยขวาง

หมอเวกวิ่งกระเจิงชนกับยง คนสวนโวยวายเพราะคิดว่าอีกฝ่ายมาทำคุณไสยในโรงพยาบาล พอดีตำรวจตามมา ยงเลยช่วยตำรวจจับหมอเวกกดกับพื้น หมอผีเห็นดานุวิ่งตามรีบตะโกนบอก

“คุณดานุ คุณนายดารายังอยู่ในโรงพยาบาล ในห้องมืดๆแต่ไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหน”

“ฟังผมก่อนนะครับ หมอเวกไม่ใช่คนร้าย ผมประกันตัวเขาให้ออกมาช่วยหาตัวน้าดารา”

ดานุวิ่งเข้าไปชี้แจง แต่ต้องชะงักเพราะเห็นพัวยืนชี้ไม้ชี้มือเหมือนบอกทาง ชายหนุ่มรีบตาม เห็นพัวทะลุเข้าห้องดับจิตเลยเปิดประตูเข้าไป แต่ตำรวจเข้าใจผิดคิดว่าดานุสมรู้ร่วมคิดกับหมอเวกแล้วคิดหนี จึงตามจับ

ในห้องดับจิต...ดานุเปิดผ้าคลุมศพดูหน้าผู้ตายทีละเตียง เจอศพพัว และเปิดผ้าคลุมศพเตียงข้างๆ แต่ยังไม่ทันดูหน้า ตำรวจก็เข้าล็อกคอ จนสร้อยพระที่พรรวีให้ขาดหล่นข้างศพพัว ก่อนตำรวจพาไปสอบปากคำ ดานุขอร้องให้ช่วยค้นห้องดับจิตเพราะมั่นใจว่าดาราอยู่ในนี้ ยงตามเข้ามาเห็นเตียงข้างศพพัวเป็นดาราก็ตกใจ

ตำรวจปล่อยตัวดานุ ชายหนุ่มประคองน้าสาวจะพากลับบ้าน ดาราเห็นศพพัวก็ตกใจ คิดว่าต้องตายเพราะฝีมือพิกุล สวมกอดศพร้องไห้เสียใจ ดานุก้มเก็บสร้อยพระที่ตก ยกมือไหว้แล้วสวมคอ พอเงยหน้าเห็นวิญญาณพัวยืนข้างศพตนเองก็กล่าวขอบใจ ขอให้ไปสู่สุคติ...พัวยิ้มหมดห่วง ร่างค่อยๆเลือนหาย

ช่วงเวลาเดียวกัน...พิกุลหลอกปีเตอร์ไปเรือนไทยธนารักษ์ที่ใช้อิทธิฤทธิ์เนรมิตให้สวยงาม ปีเตอร์ถูกใจมากเอ่ยปากขอซื้อ แพงแค่ไหนก็ทุ่มไม่อั้น พิกุลบอกว่า ถ้าอยากได้ต้องแลกด้วยชีวิต นักธุรกิจต่างชาติเห็นท่าไม่ดีขอตัวกลับ พิกุลไม่ยอม กลายร่างเป็นผีขู่ห้ามยุ่งกับครอบครัวธนารักษ์ จนปีเตอร์กลัววิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน

ขณะนั้น...ดาริกาขับรถถึงหน้าบ้านเรือนไทยธนารักษ์ เห็นรถตู้โรงแรมจึงลงไปเคาะกระจกถามหาปีเตอร์ คนขับตกใจสะดุ้งตื่นนึกว่าผีหลอก และรายงานว่าพาปีเตอร์ที่นั่งพูดคนเดียวตลอดทางมาที่นี่ ไม่มีใครมาด้วย ทันใดนั้นปีเตอร์ที่เลือดโซมหน้าเพราะตกบันไดพรวดขึ้นรถตู้ สั่งคนขับกลับเดี๋ยวนี้ ดาริกาดึงไว้ถามเกิดอะไรขึ้น

“อย่าแตะต้องตัวผม พวกคุณมันเป็นปิศาจ”

“ปิศาจอะไรกัน”

“มันบอกไม่ให้ผมมายุ่งกับบ้านของคุณ ไม่งั้นผมต้องตาย...เราจบกันแค่นี้ ผมจะไม่ทำธุรกิจอะไรกับคุณอีก”

ปีเตอร์สะบัดมือดาริกา ดึงประตูรถตู้ปิด คนขับออกรถอย่างรวดเร็ว ดาริกาโกรธปีเตอร์ที่ไม่มีมารยาท แต่เอะใจนึกถึงนางโหง หยิบเครื่องรางที่คอมาดู ทันใดนั้นได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดหัวเราะพร้อมเสียงลมหวีดหวิว ดาริกาตกใจกลัว ออกรถกลับกรุงเทพฯทันที

ooooooo

วังนางโหง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด