ตอนที่ 13
ดานุกลับไปค้นหาความจริงที่เรือนไทยธนารักษ์กลางดึก จิตใจที่มุ่งมั่นทำให้เขาไม่ครั่นคร้ามบรรยากาศน่ากลัว เดินฝ่าสายหมอกมาถึงหน้าโรงเก็บเรือ เห็นแสงตะเกียงวอมแวมลอดออกมา ดานุนิ่งเรียกพลังใจครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจมุ่งตรงไปโรงเก็บเรือ
พิกุลนอนบนเรือ รับรู้ได้ว่าดานุกำลังมา จึงลืมตาลุกขึ้นแล้วเรียกหาผีบริวารทั้งสอง แต่โรงเก็บเรือเงียบเชียบว่างเปล่า...
ผีร้ายทั้งสองขัดคำสั่งพิกุล ดักทำร้ายดานุที่หน้าโรงเก็บเรือ ชายหนุ่มถูกโซ่ของผีไอ้ทองตวัดมารัดคอ ล้มหงาย ก่อนจะกระชากเข้าหาจนประจันหน้ากัน ดานุดิ้นรนดึงโซ่จากคอเพราะเริ่มหายใจไม่ออก
“แก...คือ...ไอ้ทอง...ทาสที่ถูก...บู...ชา...ยัญ” ดานุเห็นหน้าผีไอ้ทองก็จำได้
“ใช่...ข้าคือคนที่ถูกไอ้เจ้าสัวหอฆ่าอย่างเลือดเย็น”
“ฉัน...ขอโทษ...ฉันยินดีชดใช้”
“ได้ชดใช้แน่ ชดใช้ให้กับความอำมหิตของโคตรเหง้าของแก”
ผีอีแก้วโผล่มาจะทำร้ายดานุ แต่พิกุลเข้ายุดมือแล้วตบรัวจนหน้าหัน และใช้พลังบังคับโซ่ให้กลับไปรัดคอผีไอ้ทองแทน พร้อมตะโกนก้องบอกบริวารว่าเป็นการลงโทษที่ขัดคำสั่ง
“ข้าเพียงจะแก้แค้นให้นายหญิง” ผีอีแก้วเสียงอ่อย
“ไม่ต้อง! ชีวิตของผู้ชายคนนี้เป็นของข้า”
“นายหญิงยอมรับเถิดว่าที่ไม่ยอมให้ข้าฆ่ามัน เพราะนายหญิงยังรักไอ้พระยาธนารักษ์ฯ ผ่านไปนานแค่ไหนนายหญิงก็ยังโง่ให้มันหลอก”
ผีไอ้ทองพูดแทงใจดำ พิกุลโกรธจัดพุ่งเข้าบีบคอแล้วเหวี่ยงกระเด็นหายไปในอากาศ จากนั้นพุ่งขู่ผีอีแก้ว ผีสาวกลัวลนลาน หายตัวหนี ดานุตะลึงเพราะเห็นครั้งแรกว่าพิกุลเป็นผี หญิงสาวไม่ใส่ใจ กลับเข้าโรงเก็บเรือทันที
พรรวีโทร.ตามจิรวัฒน์ให้ขับรถพาไปหาดานุที่บ้านเรือนไทยธนารักษ์ สาวไฮโซร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก เร่งให้ขับเร็วขึ้นอีก จิรวัฒน์ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่ก็เหยียบคันเร่งพุ่งไประยองอย่างรวดเร็ว
ดานุรวบรวมสติไปเรียกหาพิกุลในโรงเก็บเรือ บอกรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร ทันใดนั้นประตูปิดปัง ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวนั่งบนเรือ หน้าตากลับไปสวยงามเหมือนทุกครั้งที่พบ พิกุลเอ่ยถามดานุว่ารู้เรื่องอะไร
“เรื่องที่พระยาธนารักษ์ราชภักดีได้ติดค้างไว้กับคุณ...บันทึกของคุณเทียดได้เขียนเรื่องของคุณเอาไว้ มันทำให้ผมตาสว่าง...นางโหงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าแม่วารี แต่นางโหงคือคุณ คุณคือนางโหง! พิกุล”
พิกุลจ้องดานุอย่างเจ็บแค้น “ดี เมื่อรู้อย่างนั้น เราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก”
“มีสิ อย่างน้อยผมก็อยากจะขอโทษคุณแทนคุณเทียด และบรรพบุรุษของผมทุกคนที่เคยทำร้ายคุณเอาไว้”
“หึ! ขอโทษเหรอ คำขอโทษคำเดียวจะลบล้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานนับร้อยปีได้อย่างนั้นหรือ”
“ผมรู้ว่ามันไม่พอ แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่าคุณเทียดรักคุณมาก ท่านไม่ได้ต้องการจะทำร้ายคุณเลย ในบันทึก... ท่านถูกบังคับ”
“โกหก! บันทึกนั่นเป็นเรื่องโป้ปดมดเท็จทั้งเพ ใครจะต้องการให้ลูกหลานรู้เรื่องความใจดำอำมหิตของตัวเอง”
ดานุเห็นว่าพิกุลไม่เชื่อเรื่องราวในบันทึก ท้าให้พิสูจน์ความจริง หญิงสาวจึงเชิญชายหนุ่มนั่งบนเรือ แล้วแตะมือเธอไว้เพื่อย้อนสู่อดีต...
ooooooo
พิกุลแอบตามหลวงธนารักษ์ฯมาถึงศาลเจ้าแม่วารี เห็นคุยกับจวนบ่าวคนสนิทของคุณแขเลยแอบฟัง ได้ความว่าตนจะถูกฆ่าเพื่อเซ่นเจ้าแม่วารีตามคำสาบานของเจ้าสัวหอ
พิกุลเสียใจเพราะเข้าใจผิดว่าผัวรักสมรู้ร่วมคิด ค่อยๆย่องหนี เจอมั่นกับมีดักฉุดไปบูชายัญโดยอ้างคำสั่งหลวงธนารักษ์ฯ หญิงสาวสู้สุดชีวิต แต่พลาดท่าถูกจับมัด
จู่ๆสายที่กลายเป็นหมอผีเต็มตัวในสภาพ กระเซอะกระเซิงโผล่เข้าขวาง ตวาดให้ปล่อยพิกุลมีชักมีดแทงสายแต่แทงไม่เข้า มั่นจะชักดาบฟันแต่ชักดาบออกฝักไม่ได้ สายบริกรรมคาถาปลุกผีร้ายมาฆ่ามั่นกับมีตายอนาถ แล้วรีบแก้มัดน้องสาวพาหนี
พิกุลถูกสายลากวิ่งไปตามทาง ทันใดนั้นหญิงสาวคิดอะไรบางอย่างได้ ดึงมือพี่สาวบอกให้หยุด
“เอ็งจะหยุดทำไม พวกมันจะฆ่าเอ็งอย่างนี้ มันคงไม่หยุดง่ายๆหรอกพิกุล หนีไปให้พ้นพวกมันเสีย ข้าจะเป็นคนแก้แค้นให้เอ็งเอง ตอนนี้ข้าทำพิธีปลุกวิญญาณขึ้นมาเป็นทาสรับใช้ข้าได้แล้ว เอ็งเห็นแล้วใช่รึไม่ว่ามันมีอิทธิฤทธิ์มากแค่ไหน ข้าจะส่งมันไปฆ่าไอ้หลวงธนารักษ์ฯกับเมียมัน รวมทั้งพวกบ่าวไพร่ชั่วช้าของมันทุกคน”
พิกุลปฏิเสธความปรารถนาดีของพี่สาว สายโกรธมากคิดว่าน้องสาวยังรักหลงผัว แต่แผนการที่คาดไม่ถึงของพิกุลทำให้ความโกรธหายไปสิ้น ความตกใจและเสียใจเข้ามาแทน
“เมื่อคุณหลวงคิดฆ่าฉันเพื่อเซ่นสังเวยให้เจ้าแม่วารี ฉันก็จะตายอย่างที่คุณหลวงต้องการ...อยู่เป็นคนมีแต่โดนรังแก กลายเป็นผี ฉันจะได้อยู่แก้แค้นตระกูลธนารักษ์ไปชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ให้พวกมันได้เสวยสุขอีกเลย”
สายอึกอัก ทำไม่ได้ แต่พิกุลยืนกราน “ฉันขอร้องพี่เป็นครั้งสุดท้าย ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะตาย พี่จะให้ฉันตายเปล่ารึ พี่สาย”
สายมองหน้าน้องสาวเนิ่นนานก่อนทรุดกอด ร้องไห้ด้วยความแค้นใจน้ำตาแทบเป็นสายเลือด และรับปากพิกุลว่าจะไม่ต้องตายเปล่า
ooooooo
คืนนั้นพิกุลแต่งตัวสวยพายเรือกลับเรือนไทย หลวงธนารักษ์ฯยืนรอที่ท่าน้ำอย่างเหงาหงอยพอเห็นเมียรักก็ดีใจ คิดว่ายกโทษให้ แต่การณ์กลับตาลปัตร พิกุลหยุดเรือกลางแม่น้ำแล้วลุกยืน หลวงธนารักษ์ฯเห็นท่าไม่ดี ตะโกนบอกให้ใจเย็นแล้วอธิบายเรื่องราว แต่พิกุลตัดสินใจแน่วแน่จนไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น
“อย่าปดน้องอีกเลย น้องรู้ความจริงหมดแล้ว
คำลวงของคุณหลวงไม่ได้ทำให้น้องหลงเชื่อได้อีกแล้ว”
“พี่ไม่มีวันฆ่าพิกุลได้ ไม่เคยแม้แต่จะคิด”
“คุณหลวงไม่เคยคิด แต่ให้นังจวน ไอ้มั่นไอ้มีไปจับตัวน้อง...น้องได้ยินที่คุณหลวงคุยกับนังจวนที่วัดหมดแล้ว คุณหลวงไม่เคยรักน้อง แค่ร้อยน้องไว้เพื่อจะเซ่นสังเวยเจ้าแม่วารีเท่านั้น”
“ไม่จริงเลยนะพิกุล พี่บอกจวนแล้วว่าพี่จะไม่ทำพิธีอะไรทั้งนั้น”
“คุณหลวงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ น้องจะทำเอง น้องจะสังเวยชีวิตให้กับเจ้าแม่วารีอย่างที่คุณหลวงต้องการ”
ส่วนสายทำพิธีบวงสรวงเทพยดาและสาปแช่ง ตระกูลธนารักษ์ฯ อำนาจแห่งไสยศาสตร์บันดาลให้ฟ้าร้องฟ้าแลบและลมพายุพัดแรงจนหลวงธนารักษ์ฯต้องเกาะเสาศาลาท่าน้ำ พิกุลดึงปิ่นรูปดอกพิกุลที่ผัวรักให้ในวันแต่งงานจากมวยผมมาจ่อคอ คุณหลวงร้องห้ามเสียงหลง
“วันนี้น้องมอบชีวิตให้กับคุณหลวงแล้ว แต่วันหน้าคุณหลวงแลวงศ์วานของคุณหลวงทุกคน จะต้องชดใช้ คุณหลวงจะต้องชดใช้ให้กับนางโหง!”
ทันทีที่พูดจบ พิกุลแทงปิ่นเข้าที่ลำคอระหง แล้วทิ้งร่างลงน้ำ ส่วนเรือหมุนวนและถูกน้ำวนดูดลงไป หลวงธนารักษ์ฯจะกระโจนไปช่วย แต่อาหลิวกับพวกบ่าวชาย วิ่งมาคว้าตัวไว้ทัน คุณหลวงดิ้นสะบัดและตะโกนเสียงดังจะไปช่วยพิกุล จนหมดแรงสลบ
รุ่งขึ้น ชาวบ้านช่วยกันงมศพพิกุลที่วังน้ำใกล้เรือนไทยธนารักษ์ ตาชดประคองยายแสที่ร้องไห้คร่ำครวญจนแทบยืนไม่อยู่ดูการค้นหาศพ แต่พวกชาวบ้านงมอย่างไรก็ไม่พบศพพิกุล เจอแต่เรือมาดลอยน้ำมา จึงช่วยกันแบกไปเก็บที่โรงเก็บเรือของบ้านธนารักษ์ฯ
คืนนั้นสายลอบเข้าไปในโรงเก็บเรือบ้านธนารักษ์ฯ ถือเส้นผมพิกุลปีนไปนั่งบนเรือมาด แล้วพนมมือบริกรรมคาถาปลุกวิญญาณ ทันใดนั้นวังน้ำใกล้เรือนไทยธนารักษ์กระเพื่อมเป็นระลอกกลายเป็นน้ำวน เสียงภูตผีปีศาจกรีดร้องระงม ครู่หนึ่งวิญญาณพิกุลโผล่ขึ้นจากใต้ผืนน้ำ... กลายเป็นนางโหง!
เมื่อปลุกวิญญาณน้องสาวให้เป็นนางโหงสำเร็จ สายหยุดท่องคาถา คว้าสิ่วเหล็กงัดหัวเรือ ยัดเส้นผมพิกุลเข้าไปแล้วปิดแผ่นไม้กลับดังเดิม...บัดนี้นางโหงพิกุลได้มาสิงสถิต ณ เรือมาดลำนี้แล้ว
ooooooo
ดานุสะดุ้งหลุดจากภวังค์ พิกุลจ้องชายคนรัก พูดด้วยความเสียใจระคนแค้นใจว่าแค่การขออโหสิกรรมไม่สามารถชดเชยกับความเลวร้ายที่เธอถูกกระทำได้เลยสักนิดเดียว
“แต่คุณก็ได้เอาชีวิตคนในตระกูลธนารักษ์ไปมากมายหลายชีวิตแล้ว ต้องตายอีกกี่คนคุณถึงจะหายแค้น”
“ถ้าคุณรักใครสักคนจนหมดหัวใจ แต่ถูกคนคนนั้นทำให้ตายทั้งเป็น คุณคงไม่ถามฉันอย่างนี้”
“งั้นคุณเอาชีวิตผมไปเดี๋ยวนี้เถอะ ถ้าชาติที่แล้วผมคือพระยาธนารักษ์ฯ ผมก็คือคนที่ทำร้ายคุณ ผมต้องเป็นคนชดใช้ เอาชีวิตผมไปเดี๋ยวนี้เลย ความอาฆาตแค้นทั้งหมดจะได้จบลง คุณเองจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์นี้เสียที”
จิรวัฒน์กับพรรวีมาถึงเรือนไทยธนารักษ์ เห็นแสงตะเกียงและได้ยินเสียงดานุดังจากโรงเก็บเรือเลยพรวดเข้าไป เห็นพิกุลบีบคอดานุ แต่จู่ๆก็เบือนหน้าหนีแล้วคลายมือที่กำรอบคอออก พรรวีฉวยโอกาสเอาสร้อยพระที่พระยันให้คล้องคอพิกุล พิกุลกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแล้วหายตัววับต่อหน้าต่อตาทุกคน
ดานุได้สติก้มเก็บสร้อยพระที่หล่น ต่อว่าพรรวีที่ทำให้พิกุลหายไป แล้วตะโกนเรียกพิกุลด้วยความเป็นห่วงโดยไม่สนใจความรู้สึกของแฟนสาว
“นุ! เสียสติไปแล้วเหรอ ผู้หญิงคนนั้นเป็นผี เขากำลังจะฆ่าคุณนะ”
“ผมต้องชดใช้ในสิ่งที่ผมเคยทำ ชาติก่อนผมเคยสั่งบูชายัญเขา เขาจะเอาชีวิตผมมันก็สมควรแล้ว”
พรรวีกอดดานุบอกไม่ยอมให้ตาย แล้วฉุดมือพาออกจากโรงเก็บเรือ แต่ถูกดานุผลักจนเซ จิรวัฒน์โมโหต่อยดานุล้มกลิ้ง พรรวีเข้าห้ามแล้วก้มประคองดานุ จิรวัฒน์เห็นพรรวีสนใจแต่ดานุยิ่งหงุดหงิด ฮึดฮัดออกไปสตาร์ตรถรอพาเพื่อนสนิททั้งสองกลับโรงแรม
ในห้องพักโรงแรม ดานุเล่าเรื่องบันทึกพระยาธนารักษ์ฯให้พรรวีกับจิรวัฒน์ฟัง ทั้งคู่ไม่เห็นด้วยที่ดานุจะรับผิดชอบเรื่องที่ไม่ได้ทำ เพราะเป็นเรื่องชาติที่แล้ว อีกทั้งพิกุลก็ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกพระยาธนารักษ์ฯสั่งฆ่า
ดานุแย้ง “แต่ถ้าพิกุลไม่ถูกทำร้ายจิตใจขนาดนั้น พิกุลก็คงไม่ฆ่าตัวตาย ทุกครั้งที่อ่านบันทึกของคุณเทียด ผมก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นตัวท่านเอง ผมรู้สึกว่าคุณเทียดทุกข์ทรมานใจมากที่ต้องบูชายัญพิกุล”
พรรวีจ้องตาดานุ “แสดงว่านุรักพิกุล เหมือนที่พระยาธนารักษ์ฯรักพิกุลอย่างนั้นเหรอ”
จิรวัฒน์ตกใจนึกว่าเพื่อนสนิทหลงรักผี ดานุปฏิเสธเสียงเครียด พรรวีกลัวแฟนหนุ่มเข้าใจผิด รีบอธิบาย
“นุ ที่พอลลี่พูดไม่ใช่เพราะหึงหวงอะไรหรอกนะ แต่นุอย่าลืมสิว่า นอกจากนุ พิกุลยังต้องการทำร้ายคนในครอบครัวของนุด้วย การที่นุยอมตาย มันไม่ได้หมายความว่าพิกุลจะหยุด”
ooooooo










