สมาชิก

วังนางโหง

ตอนที่ 12

คุณทับแอบออกจากห้องนอนไปท่าน้ำเพื่อฆ่าตัวตายบูชายัญนางโหงให้เรื่องจบ ชายชราค่อยๆก้าวลงเรือแต่หน้ามืดจะล้ม โชคดีที่ดานุตามมาคว้าตัวทันก่อนตกน้ำ และทุกคนที่เหลือตามมาช่วยดึง คุณทับสะบัดหนีครวญคราง

“ปล่อยตา ตาจะไปหานางโหง ตาจะขอชดใช้แทนตระกูลธนารักษ์ทุกคน”

ดานุขัดเพราะรู้เรื่องจากบันทึก “คุณตาไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นครับ ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนชดใช้ นางโหงต้องการชีวิตผมคนเดียว ผมจะจบเรื่องทุกอย่างเอง”

ทุกคนพาคุณทับไปพักในห้องรับแขก ดานุยื่นบันทึกให้ดาริกาและอธิบายว่าเป็นบันทึกของพระยาธนารักษ์ราชภักดีที่ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เมืองระยอง เล่าเรื่องบูชายัญของบรรพบุรุษ คุณทับหยิบไปดู เห็น หน้าสุดท้ายเขียนภาษาไทย อ่านเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน

“ผู้มีธรรมในใจ จักขอสมาภัย เพื่อปลดปล่อยนาง”

“เจ้าสัวหอต้นตระกูลเราบูชายัญคนเป็นกับเจ้าแม่วารีเพื่อแลกกับความอยู่รอด ความมั่งคั่งในตระกูล ต่อมาก็คุณเทียด...พระยาธนารักษ์ฯบูชายัญคนเป็นอีกครั้ง” ดานุเล่าตามบันทึก

คุณทับพยักหน้ารับว่าเป็นความจริง และเล่าต่อว่าคุณทิวพ่อของตนไม่ยอมทำพิธีบูชายัญ คุณทวนกับคุณทันเลยต้องตาย ดาเรศตกใจคิดว่าที่ตนป่วยรักษาไม่หายเพราะพ่อไม่ยอมทำตามคำสัตย์สาบานของเจ้าสัวหอ

“พ่อเองพยายามลืมเรื่องนี้คิดว่ามันไม่จริง ตอนที่พระยันมาสะกดวิญญาณที่เรือนไทยให้ พ่อก็ปลอบใจ ตัวเองว่าทุกอย่างคงจบแล้ว จนลูกป่วยกระเสาะกระแสะ แล้วหนูพิกุลก็มาไขความลับทุกอย่าง”

“มันไม่ใช่ทุกอย่างหรอกครับ มันยังมีบางเรื่องที่พิกุลไม่บอกเรา” ดานุแย้ง

“นี่เธอยังคิดว่าพิกุลเป็นสิบแปดมงกุฎอยู่อีกเหรอ บันทึกนั่นก็บอกอยู่แล้วว่าสิ่งที่พิกุลพูดเป็นความจริง แทนที่เธอจะมาจับผิดพิกุล เธอรีบทำพิธีขอขมานางโหงดีกว่า” ดาเรศไม่พอใจ

“แต่ผมไม่คิดว่านางโหงจะต้องการแค่นั้น”

“ถ้านุหมายถึงชีวิตแลกชีวิต แม่ไม่ยอม เพราะแม่ก็มีส่วนรับผิดชอบเหมือนกัน แม่เองที่เข้าไปที่เรือนไทย ไปเปิดโรงเก็บของที่ปิดผ้ายันต์ไว้”

ดาริกาสวนทันควันด้วยความรักลูก และเล่าเหตุการณ์วันที่แอบไปดูบ้านเรือนไทยธนารักษ์ให้ทุกคนฟัง จนพลาดไปคลายยันต์สะกดที่โรงเก็บเรือ ดาเรศโกรธน้ำตาไหลเข้าทุบตีพี่สาว แต่ดาริกายุดมือไว้

ดานุเอะใจ “แม่เข้าไปเมื่อไรครับ”

“วันที่นุกลับมาเมืองไทย วันที่ดาเรศป่วยหนัก”

“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นวันแรกที่พิกุลมาที่บ้านนี้”

ดานุคิดปะติดปะต่อเรื่องราว ส่วนดาเรศร้องไห้ต่อว่าพี่สาวไม่หยุด ดาริกาบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดแค่ว่าถ้าบ้านมีอาถรรพณ์ก็ควรขายทิ้ง แล้วขอโทษคุณทับ

“ช่างเถอะ ถ้ามันเป็นเรื่องการผิดคำสัตย์สาบาน ช้าเร็วก็ต้องมีวันนี้”

“มันอาจจะไม่ใช่เรื่องการผิดคำสาบาน แต่เป็นเรื่องการแก้แค้นส่วนตัวก็ได้”

ทุกคนไม่เข้าใจ แต่ดานุมุ่งมั่นต้องหาสาเหตุการแก้แค้นที่ไม่มีวันจบสิ้นของนางโหงให้ได้

ooooooo

พรรวีนึกออกว่าควรเริ่มต้นสืบเรื่องพิกุลเป็นผีได้ที่ไหน รีบออกจากโรงพยาบาลไปวัดตามหาเพียงฟ้ากับจอมขวัญ เจอสองสาวเพื่อนสนิทนุ่งขาวห่มขาวเดินจงกรมอยู่ที่ใต้ต้นไม้ในวัดก็ตกใจ ไม่คิดว่าเพื่อนจะมาปฏิบัติธรรมจริงๆ

สามสาวปรึกษากันเรื่องพิกุล เพียงฟ้ากับจอมขวัญยืนยันว่าพิกุลเป็นผี แต่พรรวียังลังเล

“ไม่ใช่ฉันไม่อยากไม่เชื่อพวกแกหรอกนะ แต่ทำไมเราถึงเห็นพิกุลในตอนกลางวันได้ล่ะ”

“พวกฉันตอบแกเรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะพอลลี่ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่แกฟังไว้นะ พิกุลน่ะไม่ใช่คนแน่ๆ และที่ดานุแฟนแกเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะต้องมนต์สะกดของผีพิกุลก็ได้นะ” เพียงฟ้ายืนยัน

ส่วนจอมขวัญเป็นห่วงพรรวี “เลิกกับดานุเถอะพอลลี่ ฉันว่ามันอันตราย ถ้าหากแกจะคบกับดานุต่อไป”

“จะให้ฉันเลิกกับดานุเพราะพิกุลเป็นผีเนี่ยนะ พวกแกบ้ากันไปใหญ่แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นพวกฉันก็คงไม่มีอะไรจะเตือนแกแล้วพอลลี่ ไปเถอะจอมขวัญ”

เพียงฟ้ารำคาญ ตัดบทแล้วเดินหนี จอมขวัญลุกตาม แต่ไม่วายหันมาสำทับพรรวีว่าถ้าจะคบดานุต่อ ต้องหาหมอผีมาปราบพิกุล แล้วจะรู้ว่าพวกตนไม่ได้โกหก สองสาวเพื่อนสนิททิ้งพรรวีให้นั่งอึ้งหงุดหงิด ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ที่ลานจอดรถบ้านธนารักษ์ ยงกับพันช่วยดานุขนของขึ้นรถจะไปเยี่ยมดาราที่โรงพยาบาล พันกลัวโดนนางโหงเล่นงานเลยบ่นกับพ่อ ยงเตือนลูกสาวในฐานะผู้ผ่านโลกมากกว่า และรับรู้เรื่องคำสาปของบ้านธนารักษ์มาตลอด

“คนเรามันไม่มาเจอกันเห็นๆแค่ในชาตินี้หรอกนังพัน ชาติก่อนทำอะไรไว้ไม่มีใครรู้”

“โห ตายเลย อย่างงี้ใครจะไปรู้ได้ล่ะ ต้องนั่งทางในอย่างเดียว”

“รู้ได้สิพัน ถ้าเราตั้งใจค้นหาคำตอบ ยังไงมันก็ต้องมีหลักฐานให้เราเอามาเป็นข้อมูลได้” ดานุเข้ามาได้ยิน โพล่งขึ้น

ยงรีบขอโทษแทนลูกสาวพูดจาไร้สาระ ดานุไม่ถือโทษ

“ไม่หรอก พันเองก็มีส่วนถูก เรื่องบางเรื่องมันใช้หลักวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้”

ยงถอนใจ “ครับ...เหมือนกับที่คุณดาราเป็น เห็นแล้วอธิบายไม่ถูกจริงๆ”

ooooooo

ดานุไปเยี่ยมดาราที่โรงพยาบาล ครูสาวได้ยินเสียงเคาะประตูก็ตกใจกลัวผีหลอก เอาผ้าห่มคลุมโปง ชายหนุ่มเข้าไปแตะตัว ดารากรีดร้องเสียงหลง เอาโปงออกเห็นดานุนึกว่าเป็นหลวงธนารักษ์ฯ เลยลนลานลงจากเตียงแล้วก้มกราบ

“ว้าย! ช่วยด้วย อย่าฆ่าฉันเลย ถ้าชาติก่อน ฉันเกิดเป็นอีจวนจริง ฉันขอโทษ”

พัวรีบจับตัวดาราไว้ ส่วนดานุทรุดนั่ง บอกน้าสาวว่าตนคือดานุหลานชายของเธอ ครูสาวเริ่มได้สติเพ่งดู แต่ไม่วายหลอนว่าดานุจะมาเยาะเย้ยจึงผลักออก

“แกเนี่ยนะจะมาช่วยฉัน แกมันก็พวกเดียวกับแม่แก อยากให้ฉันกระเด็นออกไปจากบ้านธนารักษ์ใช้อีผีพิกุลมากำจัดฉัน สมใจแกแล้วสิ”

“น้าเข้าใจผิดแล้วครับ ผมกับแม่ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย เราทุกคนถูกพิกุลหลอกด้วยกันทั้งนั้น”

พัวสอดว่าดานุเชื่อแล้วหรือว่าพิกุลเป็นผี แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ตะล่อมถามน้าสาวเรื่องที่ตนอยากแน่ใจ

“น้าดาราพูดถึงจวนกับคุณหลวง สองคนนี่คือใครเหรอครับ บอกผมได้ไหม”

“นังผีพิกุลมันมาหลอกฉัน บังคับให้ฉันเห็นอดีตชาติของฉัน”

ดาราหันจ้องหน้าหลานชาย “ฉันเห็นว่าแกคือคุณทวด...พระยาธนารักษ์ฯ ยัยเรศเป็นเมียของแกในอดีต นังพิกุลเป็นเมียน้อยของแก ส่วนฉันเป็นบ่าวรับใช้แกชื่อจวน เป็นศัตรูนังพิกุล กลั่นแกล้งมันสารพัด ชาตินี้นังพิกุลมันเลยตามมาเอาคืนฉัน”

ดานุนิ่งอึ้งที่ดาราพูดตรงตามบันทึกทุกประการ ดาราคิดว่าหลานชายคงไม่เชื่อคำพูดตนเลยโวยวายไล่กลับ พัวตามไปส่งกระซิบกระซาบ

“เดี๋ยวสิคะคุณนุ อย่าเพิ่งไปค่ะ พัวเป็นพยานได้ว่าคุณหนูดาราไม่ได้โกหกนะคะ นังผีพิกุลมันตามมาหลอกหลอนคุณหนูจริงๆ ไม่เชื่อคุณนุไปหาหมอผีมาจัดการมันสิคะ จะได้เห็นว่ามันเป็นผี”

“ไม่ต้องห่วงหรอกพัว ฉันต้องพิสูจน์แน่ ระหว่างนี้น้าดาราอยู่ที่นี่จะปลอดภัยที่สุด”

ดานุเดินครุ่นคิดจนถึงรถ เปิดประตูไปนั่งแล้วหยิบบันทึกมาดูเนิ่นนาน ไม่อยากเชื่อว่าพิกุลเป็นผี ชายหนุ่มหลับตาเอนหลังพิงเบาะ ถอนหายใจเครียด ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดัง ดานุกดรับสาย ตำรวจโทร.เชิญเขาไปให้ปากคำคดีหมอเวกฆ่าเมี้ยน ชายหนุ่มตกลง ออกรถไปสถานีตำรวจทันที

ooooooo

พรรวีเดินกลับมาที่รถเซ็งๆเมื่อพยายามปะติดปะต่อเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้น สาวไฮโซคิดถึงคำพูดของสองสาวเพื่อนสนิทว่าดานุต้องมนต์สะกดผีพิกุลจนตีตัวออกห่างเธอ ซึ่งพ้องกับคำพูดของเพลินที่ระยองว่าดานุกำลังค้นหาประวัติของต้นตระกูล และเคยไปนอนหลับที่หลังวัดวังลุ่ม

ยิ่งคิดยิ่งเครียด สาวไฮโซนึกถึงวันที่เธอเข้าใจผิดเรื่องดาเรศ แฟนหนุ่มเล่าว่าฝันเห็นตัวเองเป็นคนในอดีตซ้ำๆกัน และเดินละเมอจนเกือบจมน้ำตายหลายครั้ง ซึ่งเธอเคยเห็นกับตาว่าดานุละเมอเดินลงสระน้ำบ้านตัวเอง และเรื่องที่รถของเธอหายไปทั้งที่จอดอยู่ในบ้านธนารักษ์...ทุกเรื่องช่างสอดคล้องกันเหลือเกิน

ระหว่างที่กำลังสับสน จู่ๆพรรวีก็ได้ยินเสียงลอยมาตามลมเหมือนเรียกเธอ หญิงสาวหันมองรอบๆ เห็นพระรูปหนึ่งปักกลดนั่งสมาธิใต้ต้นไม้ใหญ่ นิ่งมองครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหา

พระยันหรือพระธุดงค์รูปนั้นมีญาณล่วงรู้แล้วว่าพรรวีมีปัญหา แต่เป็นเรื่องที่พระไม่ควรยุ่งเกี่ยว ท่านเลยพยายามบอกใบ้เป็นนัยๆ

“สิ่งที่โยมกำลังตรึกตรองและหาทางออกอยู่ ไม่อาจช่วยแก้ไขได้ด้วยการคาดคะเน สิ่งเดียวที่จะแก้ไขได้คือการพยายามหาคำตอบของคำถามที่เกิด”

พรรวีอึ้งที่พระรูปนี้เดาใจถูก ยกมือขึ้นพนม อัตโนมัติเพราะเกิดศรัทธา “แล้วถ้าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติล่ะคะ วิธีไหนคะที่หนูจะพิสูจน์หาคำตอบนั้นมาได้”

พระยันบอกให้แบมือ แล้วหยิบสร้อยพระปล่อยลงบนมือ “การตั้งมั่นในความสุจริต และมีศรัทธาในพระรัตนตรัยจะทำให้ความจริงทุกอย่างกระจ่างแจ้ง”

พรรวีมองสร้อยพระในมือ รับรู้ได้ถึงพลังพุทธคุณที่สะอาดบริสุทธิ์ ก้มกราบขอบคุณพระรูปนั้นอย่างอุ่นใจ

ooooooo

ที่สถานีตำรวจ ดานุถูกพามาถึงหน้าห้องขัง หมอเวกหันมาเห็นดานุ อดประชดประชันไม่ได้ แต่ดานุไม่ใส่ใจ เกลี้ยกล่อมให้ร่วมแผนการพิสูจน์ความจริงเรื่องพิกุล

“ตำรวจบอกว่าหมอเวกไม่ยอมให้ปากคำที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แค่ปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าเมี้ยน หมอเวกอาจจะติดคุกตลอดชีวิตก็ได้”

“มันเป็นกรรมที่ข้าต้องชดใช้ ข้าทำผิดทำชั่วมามาก มันก็สมควรแล้ว”

“ถ้าหมอเวกคิดจะรับผิดชอบกับสิ่งที่หมอเวกทำ หมอเวกก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยคนที่หมอเวกเคยทำให้เขาเดือดร้อน ไม่ใช่มานั่งปลงอยู่อย่างนี้”

หมอเวกลังเล แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจร่วมมือกับดานุ หลังพูดคุยกับพระธุดงค์ พรรวีตัดสินใจขับรถไปหาดานุที่บ้านธนารักษ์เพื่อค้นหาคำตอบเรื่องพิกุล เธอพรวดพราดเข้าไปถามหาดานุ โดยไม่ฟังคำทัดทานของยงกับพันว่ากำลังทำพิธีบูชานางโหง

“เธอเป็นบ้าอะไร ไม่เห็นรึไง ว่าทำอะไรกันอยู่” ดาเรศปรี๊ดใส่พรรวี แล้วหันไปต่อว่าคนรับใช้ “คุณพ่อสั่งไว้ไม่เข้าใจรึไง ว่าวันนี้ต้องสวดบูชานางโหงจนกว่าจะเช้า ห้ามใครรบกวน”

พันเสียงอ่อย “พันบอกคุณพอลลี่แล้วนะคะ แต่คุณพอลลี่ก็ไม่ยอมฟัง บอกว่าจะคุยกับทุกคนให้ได้”

“คนบ้านนี้ไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ” ดาเรศกระแทกเสียงใส่พรรวี

“หนู...กลับไปก่อนเถอะ วันนี้เราไม่พร้อมจะรับแขก หวังว่าหนูคงจะเข้าใจที่ฉันพูด”

คุณทับเอาน้ำเย็นเข้าลูบดาเรศและพรรวีที่ตั้งท่าจะทะเลาะกันใหญ่โต ดาริกาจับแขนพรรวีขอให้กลับไปก่อน แล้วจะอธิบายเรื่องวันนี้ให้ฟังคราวหลัง แต่พรรวีดึงดันจะพบดานุให้ได้ จนดาเรศปรี๊ดอีกรอบ

“เลิกวุ่นวายกับดานุได้แล้ว ตอนนี้ดานุเขาต้องไปทำงานสำคัญให้ครอบครัว ไม่มีเวลาให้เธออีกแล้ว”

“เขาอยู่กับพิกุลใช่ไหมคะ” พรรวีถามตรงประเด็น

“ถ้าใช่แล้วจะทำไม ฉันบอกเธอไว้เลยก็ได้ว่าพิกุลคือคนที่ฉันเลือกมาเป็นหลานสะใภ้ ไม่ใช่เธอ”

“พอลลี่ก็ขอบอกคุณน้าและทุกคนไว้ตรงนี้เหมือนกันว่า พอลลี่รักนุและจะไม่ยอมให้นุต้องตกเป็นทาสเรื่องไสยศาสตร์ทุเรศๆแบบนี้เด็ดขาด”

พรรวีโยนระเบิดใส่ทุกคนแล้วหันหลังเดินกลับ ดาเรศโมโหโวยวายไม่หยุด คุณดวงต้องเตือนว่าทำกิริยาเช่นนี้เท่ากับลบหลู่นางโหง ดาเรศจึงยอมเงียบ ส่วนดาริกาคิดหนัก สับสนระหว่างความรักลูกกับความเชื่อเรื่องนางโหง

พรรวีเดินกลับมาที่รถด้วยความโมโห จู่ๆก็นึกขึ้นได้ กดโทรศัพท์หาจิรวัฒน์เพื่อขอความช่วยเหลือทันที

ooooooo

วังนางโหง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด