สมาชิก

วังนางโหง

ตอนที่ 12

หลวงธนารักษ์ฯขัดความต้องการของพ่อตาแม่ยายและภรรยาไม่ได้ ต้องจัดพิธีบูชาเจ้าแม่วารี บนโต๊ะเต็มไปด้วยเครื่องเซ่น มีอ่างน้ำใหญ่เพื่อสื่อถึงเจ้าแม่วารี ซินแสจุดธูปไหว้แล้วปักบนเครื่องเซ่น จากนั้นถอดสร้อยประคำออกนับบริกรรมคาถา และแกล้งดึงสายสร้อยขาดผึงตามแผน ลูกประคำตกกระจายลงอ่างน้ำ

“คำขอร้องของอั๊วไม่เป็นผล เจ้าแม่จักต้องเอาชีวิตอาทิวให้จงได้”

“ไม่มีทางแก้ไขเลยรึ จะให้สังเวยชีวิตทาสกี่คนข้ายอมทั้งสิ้น”

พระยาศรีศักดิ์ฯเสียงเครียด หลวงธนารักษ์ฯมองพ่อตาอย่างคาดไม่ถึงว่าจะเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้ ซินแสบอกว่าเจ้าแม่พิโรธหนัก ถ้าไม่ได้ชีวิตคุณทิวก็ต้องมีตัวตายตัวแทนเป็นคนในตระกูลธนารักษ์ราชภักดีเท่านั้น

“เช่นนั้นก็ให้เจ้าแม่เอาชีวิตกระผมไปก็แล้วกัน ในเมื่อเตี่ยเป็นคนให้คำสัตย์ กระผมก็ต้องรับผิดชอบ” หลวงธนารักษ์ฯประชด

“ไม่นะคะ คุณพี่ น้องเอง น้องจะยอมตายเอง น้องจะขอแลกชีวิตกับลูก” คุณแขแย้งตามแผน

พระยาศรีศักดิ์ฯไม่ยอมให้บูชายัญลูกเขยและลูกสาวเพราะกลัวหลานเป็นกำพร้า ซินแสหาทางออกให้ “ยังพอมีหนทาง หากคุณหลวงเอาบ่าวมาตบแต่งทำเมียเสียอีกคน บ่าวคนนั้นก็จะนับเป็นคนในตระกูล”

“ลืมไปรึเจ้าคะ ว่าคุณหลวงยังมีเมียอีกคนหนึ่ง ยังมีอีกคนใน...”

จวนสอดขึ้นทันควัน แต่ไม่ทันพูดจบ หลวงธนารักษ์ฯก็ลุกขึ้นชี้หน้า บอกจะส่งจวนบูชายัญ พระยาศรีศักดิ์ฯดุลูกเขยเสียงเข้มจนคุณหลวงต้องขอโทษเสียงอ่อย ท่านเจ้าคุณสำทับตามแผน

“ที่นางจวนมันพูดก็ถูก รึคุณหลวงจะเห็นเมียบ้านนอกของคุณหลวงนั้น สำคัญกว่าชีวิตของลูกคุณหลวงเอง”

ooooooo

ดานุช็อกที่พระยาธนารักษ์ฯสั่งบูชายัญพิกุล สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เอนหลังพิงเก้าอี้อย่างอ่อนแรง และแปลบันทึกต่อ จิตดำดิ่งสู่อดีตอีกครั้ง...

“ข้อเสนอที่โหดร้ายของพระยาศรีศักดิ์บริบาลนั้นทำให้ข้าพเจ้าแทบคลั่ง แต่ด้วยเกรงในอำนาจบารมี จึงไม่สามารถคัดค้านได้อย่างเต็มปาก ได้แต่ประวิงเวลาไว้ หวังว่าอาการพ่อทิวจะดีขึ้น แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น”

เย็นวันต่อมา หลวงธนารักษ์ฯกลับถึงบ้าน ถามอาการคุณทิวจากอาหลิวเป็นอย่างแรก บ่าวเก่าแก่บอกว่าไข้ยังไม่ลด และพระยาศรีศักดิ์ฯกับคุณหญิงอิ่มรับไปดูแลให้ คุณหลวงเหลียวหาคุณแขไม่เห็นอาหลิวบอกเอาแต่ร้องไห้เก็บตัวอยู่ในห้อง หลวงธนารักษ์ฯเป็นห่วง รีบไปดูภรรยาเอก

เมื่อเปิดประตูห้อง หลวงธนารักษ์ฯเห็นคุณแขเอาผ้าแพรผูกขื่อ ทำท่าจะผูกคอตาย คุณหลวงเข้าไปกอดแล้วกระชากผ้าออก คุณแขร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกอยากตายแทนลูก เพราะถ้าไม่มีลูก ก็ไม่รู้จะอยู่เพื่อใคร

“คุณพี่ก็รู้ว่าพ่อทิวไม่ได้เป็นไข้ธรรมดา แต่มีเหตุจากที่คุณเตี่ยบนบานเอาไว้ เจ้าแม่วารีไม่มีทางปล่อยพ่อทิวไปแน่ น้องจึงขอแลกชีวิตของน้องกับลูก เมื่อไม่มีน้องแล้ว คุณพี่ก็รับพิกุลมาอยู่ที่นี่ พ่อทิวจะได้ไม่ขาดแม่”

“ไม่ ฉันไม่ยอมให้คุณแขตายดอก เราจะต้องอยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก”

“แล้วถ้าเจ้าแม่ไม่ปล่อยเราล่ะคะ คุณพี่” คุณแขทิ้งไพ่ใบสุดท้าย

ooooooo

หลวงธนารักษ์ฯต้านแรงกดดันที่บ้านไม่ไหว มุ่งหน้ากลับเรือนไทยระยองกลางดึก เห็นพิกุลถือตะเกียงยืนรอที่ท่าน้ำ ก็เข้าโอบกอดอย่างคิดถึงพลางออดอ้อน พิกุลใจอ่อนยวบบอกให้ขึ้นเรือนไปกินข้าว แต่หลวงธนารักษ์ฯเห็นบรรยากาศดีและอยากเก็บช่วงเวลาแห่งความสุขไว้นานที่สุด จึงชวนเมียพายเรือเล่น

หลวงธนารักษ์ฯพายเรือมาถึงต้นลำพูที่มีหิ่งห้อยเกาะพราว พิกุลยิ้มอารมณ์ดี คว้าหิ่งห้อยมาส่องเล่น

คุณหลวงหนุ่มมองเมียรักน้ำตาคลอ

“หิ่งห้อยพวกนี้อัศจรรย์นัก ส่องแสงได้ แต่ตายเร็วเหลือเกิน คุณหลวงรู้ไหม ตอนเด็กๆน้องเคยอยากเกิดเป็นหิ่งห้อย แม้รู้ว่าจะอยู่ได้เพียงไม่กี่วันแต่ก็ยังอยากเป็น อยากให้เนื้อตัวมีแสงสว่าง ทุกคนจะได้เห็น”

“พี่เห็นแล้วว่าพิกุลของพี่งดงามแค่ไหน”

“แต่ความงามก็จะอยู่คงทนไปสักเท่าใด ถ้าเลือกได้ น้องก็จะเป็นอย่างหิ่งห้อยพวกนี้ ส่องแสงให้ใครๆได้เห็นจนวันสุดท้าย”

หลวงธนารักษ์ฯสะเทือนใจบอกให้พิกุลหยุดพูด

“คุณหลวงทำเหมือนว่าน้องจะไปเกิดเป็นหิ่งห้อยเสียจริงๆ” พิกุลไม่เข้าใจความเศร้าของสามี “พี่ไม่ยอมให้พิกุลไปเกิดเป็นอะไรทั้งนั้น...อย่าพูดเรื่องไม่เป็นมงคลอย่างนี้”

“พ่อบอกว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาจะเข่นฆ่าชิงดีกันไปสุดท้ายก็ต้องไปอยู่บนเชิงตะกอน”

“พี่บอกให้พอ อย่าพูดอีกเลย” หลวงธนารักษ์ฯน้ำตาคลอ ดึงพิกุลไปกอด

“น้องก็แค่จะบอกคุณพี่ว่า น้องคิดได้แล้วว่าชีวิตนี้มันสั้นนัก น้องขออยู่กับคนที่น้องรักไปจนชีวิตหาไม่จะเกิดอันใดในวันข้างหน้าน้องก็ยอมสิ้นแล้ว”

คืนนั้นพิกุลได้รับความรักจากหลวงธนารักษ์ฯอย่างเต็มเปี่ยม หญิงสาวหลับอย่างมีความสุขในอ้อมกอดผัว ไม่ได้เอะใจว่าความตายกรายมาใกล้...พอตื่นตอนเช้าตรู่ ผัวที่นอนเคียงตลอดคืนหายไป หญิงสาวออกจากห้องมองหา เห็นหลวงธนารักษ์ฯพายเรือออกไปลิบๆ จึงแอบตามด้วยความสงสัย

หลวงธนารักษ์ฯมาถึงศาลเจ้าแม่วารี เห็นจวนกับบ่าวไพร่จัดเครื่องเซ่นสรวงก็ตกใจกลัวใครมาเห็น จวนบอกทำตามคำสั่งพระยาศรีศักดิ์ฯที่ให้มาบอกกล่าวเจ้าแม่วารีว่าคุณหลวงจะทำพิธีบูชายัญคืนนี้ หลวงธนารักษ์ฯจะปฏิเสธ แต่พูดไม่ทันจวน

“คุณหลวงรับปากท่านเจ้าคุณเองนี่เจ้าคะว่าจะจัดการให้เสร็จสรรพ แล้วจะกลับพระนครวันพรุ่ง”

“ฉันพูดจริง แต่มันไม่ใช่กงการอันใดของหล่อนที่จะมาเจ้ากี้เจ้าการ ฉันจัดการเองได้”

“ท่านเจ้าคุณก็เพียงไม่แน่ใจว่าคุณหลวงจะตัดใจลงมือได้ จึงให้บ่าวเอาคนมาช่วย...”

“เอ็งจะทำกระไร”

“ฆ่าพิกุล เพื่อเซ่นสังเวยเจ้าแม่วารีตามคำบนบานของเจ้าสัวหอเจ้าค่ะ”

หลวงธนารักษ์ฯอึ้ง หน้าเครียด ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ส่วนพิกุลที่แอบฟังน้ำตาร่วงพรู หมดอาลัยตายอยากทรุดนั่งหมดแรงอยู่ตรงนั้น

ooooooo

เวลาสายเกือบเที่ยงที่ห้องพักดานุในโรงแรม เสียงเคาะประตูดึงสติชายหนุ่มกลับจากอดีต เขาเดินไปเปิดประตู เห็นเพลินถือถาดอาหารรอ และยัดเยียดให้รับไป

“ครั้งหนึ่งมีคนเคยพูดเตือนสติฉันว่า เลิกทำให้ทุกคนเป็นห่วงและหัดรับความหวังดีและความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้างนะ รู้ไหมว่าใครเป็นคนพูด...แล้วนี่ทางฟรอนต์เขาฝากโน้ตมาให้ บอกว่าแม่คุณโทร.มาตาม”

ดานุรับโน้ตจากเพลิน ดาริกาฝากข้อความให้รีบกลับบ้านคุณตาด่วน ชายหนุ่มเก็บของกลับกรุงเทพฯทันที

พรรวีเข้ามาทำงานที่โรงพิมพ์อย่างเซ็งๆ เห็นยามที่ประสบอุบัติเหตุตอนโรงพิมพ์ไฟช็อตเถียงกับพนักงานบัญชีเสียงดัง สาวไฮโซนิ่งฟังครู่หนึ่งจึงเดินไปหา ยามบอกมาขอเบิกเงินแต่บัญชีให้รอสิบห้าวัน เขารอไม่ไหวเพราะไม่มีเงินใช้ พรรวีบอกพนักงานบัญชีให้ทำเรื่องเบิกเงินด่วนมาให้เธออนุมัติ

ยามยกมือไหว้ขอบคุณ พรรวีเลยสอบถามอาการบาดเจ็บ

“ก็ดีขึ้นแล้วครับ แต่ไอ้เพื่อนผมสิ ตอนนี้มันยังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย แถมยังเพ้ออีกว่าผีสิงมัน”

พรรวีติดใจคำว่า ผีสิง เที่ยงนั้นเธอตัดสินใจไปเยี่ยมยามอีกคนที่โรงพยาบาล เขาถูกพันผ้าพันแผลเกือบทั้งตัวเพราะถูกไฟช็อตจนไหม้ แต่ยังมีสติพอจะเล่าเรื่องคืนเกิดเหตุอย่างละเอียดและยืนยันว่าไม่ได้ทุบตู้ไฟ แต่ถูกผีสิงร่างให้เป็นคนทำ

พรรวีนึกถึงคำพูดของเพียงฟ้า จอมขวัญที่บอกว่าพิกุลเป็นผี! สาวไฮโซนึกอะไรได้ ออกจากห้องพักผู้ป่วยทันที

คืนนั้นที่บ้านธนารักษ์ ดาริกากับดาเรศรอดานุกลับบ้านใจจดจ่อ แต่ดาเรศร้อนใจสั่งพันไปรอที่หน้าบ้านกับยง ดาริการำคาญอดเหน็บน้องสาวไม่ได้

“ดาเรศ! อย่าประสาทไปหน่อยเลย รถอาจจะติด ระยองไม่ใช่ใกล้ๆ ดานุรับปากแล้วต้องมา”

“แต่เรศกลัวว่าดานุจะไปตามง้อแฟนจนลืมพวกเราน่ะสิคะ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้มารยาร้อยเล่มเกวียน ยั่วผู้ชายเก่งนัก”

สองพี่น้องเถียงกันไปมา จู่ๆคุณดวงก็หน้าซีดโผล่มาถามหาคุณทับ เพราะไม่เห็นสามีในห้องนอน ทุกคนตกใจตามหากันวุ่นวาย

เวลาเดียวกันหน้าบ้านธนารักษ์ระหว่างที่ทุกคนวิ่งวุ่นตามหาคุณทับ ดานุเพิ่งมาถึงพร้อมกับเพลิน เจอยงรอรับที่ประตูรั้วและรายงานสถานการณ์ในบ้านว่า

คำกับพัวเฝ้าดาราอยู่โรงพยาบาล ส่วนคุณทับนอนป่วยอยู่ในห้อง ไม่ยอมไปหาหมอ ดานุถามถึงพิกุล ยงตอบว่าวันนี้ยังไม่เห็น

พันเพิ่งถูกดาเรศไล่ให้มารอหน้าบ้าน เห็นก็ดานุดีใจ

“คุณดานุ โอ๊ย! มาซะที พันจะบ้าตายอยู่แล้วรีบขึ้นไปเถอะค่ะ คุณดาเรศเธอบ่นหาคุณเป็นร้อยรอบ เหมือนรอแฟนกลับบ้านเลย”

ยงตำหนิลูกสาวที่พูดจาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ดานุอึ้งเพราะรู้ว่าชาติก่อนตนเป็นสามีดาเรศ แต่ไม่ทันคิดอะไรมากกว่านั้น ทุกคนในบ้านก็ออกมาบอกให้ช่วยกันตามหาคุณทับที่จู่ๆก็หายตัวไป

ooooooo

วังนางโหง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด