ตอนที่ 11
ดานุเก็บตัวแปลบันทึกของพระยาธนารักษ์ฯในห้องนอน ความเงียบ ความมืด และสมาธิที่แน่วแน่ทำให้เขาดำดิ่งสู่ห้วงอดีต กลายเป็นพระยาธนารักษ์ฯที่เขียนบันทึกชีวิตของตน...
“ข้าพเจ้าขอเริ่มเรื่องราวชีวิตของข้าพเจ้าในช่วงที่การค้าข้าวกำลังรุ่งเรือง เพราะอานิสงส์จากพระราชบัญญัติพิกัดกระเษียรอายุลูกทาสลูกไทยในพุทธศักราช 2417 ทำให้มีทาสที่เกษียณอายุเข้ามาสมัครงานที่โรงสี รวมไปถึงทาสที่ผันตัวไปเป็นชาวนา ทำให้มีผลผลิตข้าวถูกส่งมาที่โรงสีเป็นจำนวนมาก”
พระยาธนารักษ์ฯจดปลายพู่กันเขียนบันทึกไปเรื่อยๆ
“ด้วยเหตุที่เตี่ยได้ส่งเสียให้ข้าพเจ้าได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนคริสต์ในบางกอก เมื่อเรียนจบข้าพเจ้าจึงได้สมัครเข้าทำงานในกระทรวงเกษตราธิการ ในตำแหน่งเสมียน ส่วนงานเก็บภาษีที่นา ในขณะเดียวกันก็ยังปลีกเวลาไปช่วยงานเตี่ยที่ระยองด้วย”
เจ้าสัวหอเป็นพ่อค้าชาวจีนที่ขยัน แม้ป่วยหนักจนไอตลอดเวลา แต่ก็ไปคุมคนงานโรงสีข้าวไม่ยอมพัก พระยาธนารักษ์ฯหรือตอนนั้นเป็นเพียงเหล็ง ข้าราชการชั้นผู้น้อยอดห่วงไม่ได้
“เตี่ยไม่สบายทำไมไม่พัก อั๊วบอกแล้วว่าอั๊วจะช่วยดูที่นี่เอง”
“อีกไม่นานอั๊วก็จะหายแล้ว เพราะเจ้าแม่จะช่วยอั๊ว”
“เจ้าแม่ที่ไหนล่ะเตี่ย”
“ลื้อไม่ต้องพูดมาก เสร็จจากนี่ก็รีบไปเข้ากรมตั้งใจทำงาน”
“อั๊วรู้แล้วเตี่ย งานหลวงมิให้ขาดงานราษฎร์มิให้เสีย”
“ดีแล้ว เรามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน จำไว้ คนที่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เจริญทุกคน”
ทันใดนั้นพระยาศรีศักดิ์บริบาลเพื่อนสนิทของเจ้าสัวและผู้มีพระคุณของเหล็งแวะมาเยี่ยม ท่านมาจากพระนครเพื่อแจ้งข่าวดีเรื่องเหล็งได้ย้ายไปสังกัดหอรัษฎากรพิพัฒน์ และได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นหลวงธนารักษ์ราชภักดี สองพ่อลูกชาวจีนดีใจมาก เหล็งก้มกราบพระยาศรีศักดิ์ฯ
“ฉันคิดว่าฉันสนับสนุนคนไม่ผิดหรอก ฉันถูกชะตากับพ่อเหล็งจนคิดอยากจะขอมาเป็นลูกชายด้วยซ้ำ” พระยาศรีศักดิ์ฯตบบ่าเหล็งอย่างเอ็นดู
“เป็นพระเดชพระคุณเหลือเกินขอรับ แต่กระผมไม่อาจเอื้อมถึงเพียงนั้นหรอกขอรับ”
“ว่าอย่างไรเจ้าสัว จะยกให้ฉันไหม”
พระยาศรีศักดิ์ฯสบตาส่งสัญญาณเจ้าสัวหอ เจ้าสัวจึงบอกลูกชายขอคุยธุระส่วนตัวกับสหายสนิท เหล็งสงสัยคำพูดเป็นนัยของท่านเจ้าคุณ แม้ก้าวออกนอกห้องแต่ไม่วายเหลียวมอง เห็นผู้ใหญ่ทั้งสองซุบซิบหน้าเครียด...เหล็งไม่รู้เลยว่าท่านปรึกษากันเรื่องจับไอ้ทองบูชายัญเจ้าแม่วารี
ooooooo
พระยาธนารักษ์ฯนิ่งนึกถึงอดีตสักครู่
ก่อนจดปลายพู่กันต่อไป เขาไม่รู้เลยว่าการที่พระยาศรีศักดิ์บริบาลมาพบเจ้าสัวหอวันนั้นจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคนในครอบครัวธนารักษ์ราชภักดีตลอดไป...
“จากวันนั้นข้าพเจ้าก็ต้องรีบกลับพระนครเพื่อเข้ารายงานตัวในที่ทำงานใหม่ ทิ้งเตี่ยให้อยู่คุมโรงสีที่ระยอง แต่หลังจากเตี่ยกลับมาก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ”
หลวงธนารักษ์ฯกลับจากทำงานถึงบ้าน เห็น ควันธูปคลุ้งเต็มบ้าน พอรู้จากอาหลิวว่าควันลอยมาจากห้องนอนพ่อจึงเดินไปดู เห็นเจ้าสัวหอคุกเข่าชูธูปกำใหญ่เหนือหัวพลางอธิษฐาน
“อั๊วได้ทำตามสัตย์สาบานที่เคยให้กับเจ้าแม่ไว้เลี้ยว ขอเจ้าแม่ดลบันดาลให้อั๊วหายป่วย ให้ครอบครัวอั๊วมั่งมีศรีสุข อาเหล็งเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานด้วยเถอะ”
หลวงธนารักษ์ฯเงี่ยหูฟัง แต่อาหลิวสำลักควันธูป ไอจนแฟ้มเอกสารที่ช่วยคุณหลวงหนุ่มถือหลุดมือเสียงดัง หลวงธนารักษ์ฯช่วยเก็บ ได้ยินเสียงปัง เงยหน้ามองเห็นประตูห้องนอนเจ้าสัวหอถูกปิดแล้ว คุณหลวงหนุ่มสงสัยพฤติกรรมของพ่อ แต่จนแล้วจนรอดก็สืบรู้ไม่ได้
เจ้าสัวหอพาหลวงธนารักษ์ฯไปบ้านพระยาศรีศักดิ์ฯเพื่อมอบของกำนัลตอบแทนความช่วยเหลือ คุณหญิงอิ่มภริยาพระยาศรีศักดิ์ฯปลาบปลื้มของกำนัลมาก กล่าวขอบใจ ในขณะที่ท่านเจ้าคุณออกจะเกรงใจ
“ความจริงเจ้าสัวไม่ต้องลำบากเอาของมาให้ มากมายก่ายกองถึงเพียงนี้”
“ของเล็กน้อย เทียบไม่ได้กับสิ่งที่ท่านเจ้าคุณทำให้กระผมหรอกขอรับ”
“ฉันก็ดีใจนะที่เห็นเจ้าสัวอาการดีวันดีคืน พูดตรงๆ ฉันเองก็ไม่คิดว่าวิธีอย่างว่านั้นจะได้ผล”
หลวงธนารักษ์ฯสงสัยคำพูดท่านเจ้าคุณ สะกิดถามพ่อ เจ้าสัวหอไม่ตอบ แต่เฉไฉถามหาคุณแขเพื่อเข้าสู่แผนคลุมถุงชนที่ตกลงไว้กับพระยาศรีศักดิ์ฯ
“ไม่มีอะไร...แล้วนี่คุณแขไม่อยู่หรือขอรับอาเหล็งอีมีของจากเมืองฝรั่งมาให้...ใช่ไหมอาเหล็ง”
หลวงธนารักษ์ฯพาซื่อ “น้ำอบจากเมืองฝรั่ง เพิ่งลงจากเรือมาหมาดๆ กระผมฝากเอาไว้ให้คุณแขด้วยขอรับ”
“มาฝ่งฝากอะไรกัน เอาไปให้กับเจ้าตัวเขาดีกว่า ป่านนี้คงอยู่ที่ศาลาโน่น พอรู้ว่าเจ้าสัวกับพ่อเหล็งจะมาก็เลยอาสาไปจัดที่ทาง ขนมนมเนยเตรียมไว้ให้”
คุณหญิงอิ่มผู้ล่วงรู้แผนการกล่าวเปิดทาง แต่คุณหลวงหนุ่มไม่รู้ความนัย นั่งเฉยจนเจ้าสัวหอออกปากไล่ ต้องลุกไปอย่างไม่เต็มใจ
คุณแขง่วนเตรียมของว่างที่ศาลาในสวน ไม่ทันเห็นหลวงธนารักษ์ฯถือกล่องน้ำหอมมาอยู่ข้างๆ แต่นึกว่าเป็นจวนบ่าวคนสนิท ยื่นแก้วน้ำร้าวให้เอาไปเปลี่ยน คุณหลวงหนุ่มไม่กล้าบอกว่าไม่ใช่จวน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงยื่นมือรับ แต่พลาดทำแก้วน้ำตกเลยก้มเก็บ พอเงยขึ้นจึงได้เห็นหน้าคุณแขเต็มตา...
ดานุสะดุ้งตื่น ใบหน้าคุณแขติดตาว่าเหมือนดาเรศราวกับเป็นคนเดียวกัน ชายหนุ่มมองหน้าจอโน้ตบุ๊ก อ่านข้อความแปลค้างไว้
“วันที่ได้พบหน้าคุณแขครั้งแรก ก็ไม่เคยนึกว่าจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้หญิงคนนี้ และยิ่งไม่เคยคิดว่า เธอคนนี้จะนำความทุกข์มาให้ข้าพเจ้าอย่างมากมายในภายภาคหน้า”
ดานุจะแปลต่อ แต่อนงค์มาเคาะประตูเรียกแล้วยื่นโทรศัพท์บ้านให้ จิรวัฒน์โทร.มาเตือนเรื่องงานถ่ายแบบที่ระยองวันนี้ ดานุลืมสนิทเพราะมัวแต่หมกมุ่นเรื่องบันทึก รีบเก็บเอกสารต่างๆรวมถึงสมุดบันทึกเตรียมเดินทาง
ooooooo
ที่ริมชายทะเลจังหวัดระยอง เตชินโพสท่าถ่ายแบบอย่างคล่องแคล่วตามประสามืออาชีพ ส่งยิ้มให้พรรวีเพื่อเอาใจ สาวไฮโซแค่นยิ้มตอบแต่ตามองหาแฟนหนุ่ม จิรวัฒน์เพิ่งวางสายโทรศัพท์ บอกดานุ จะมาถึงช้าเพราะตื่นสาย พรรวีแกล้งงอนทำไม่สนใจ
สักพักทีมงานตามเพลินไปถ่ายแบบ สาวน้อยนักกีฬาโพสท่าไม่ถูกเพราะเป็นครั้งแรก เตชินเห็นท่าทางเก้ๆกังๆรู้สึกมันเขี้ยว ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง เพลินไม่พอใจเตะผ่าหมากเขาล้มทรุด จิรวัฒน์กับพรรวีไม่เห็นเหตุการณ์แต่ต้นตำหนิเพลิน ทุกคนชุลมุนวุ่นวาย
พอดีดานุมาถึงรีบห้าม แต่เพลินงอนหนีกลับไปหาวิทย์ที่ด้านในโรงแรม ดานุถูกจิรวัฒน์ไล่ไปเคลียร์กับเพลิน ดานุต้องตามมาคุยปรับความเข้าใจกับสาวน้อยแบบส่วนตัว วิทย์จึงเลี่ยงออกไป เพลินโกรธเหวี่ยงใส่ชายหนุ่มจะไม่ถ่ายแบบคู่เตชิน ดานุตกลงง่ายดายจนเพลินงง
“ผมเองก็เบื่อที่ต้องมาคอยตามเคลียร์เรื่องพวกนี้เต็มที ที่สำคัญผมก็เหม็นขี้หน้าไอ้โตนั่นเต็มแก่แล้ว”
“หึ! หึงเขามากกว่ามั้ง ที่เขาฉกแฟนไปต่อหน้า”










